ทำไมการเมืองไทยจึงไม่ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ

กระทู้สนทนา
ถ้าย้อนหลังกลับไปศึกษาสภาพการเมืองไทย

นับแต่คณะรัฐประหารซึ่งนำโดยพลโท (ภายหลังเป็นพลเอก) ผิน ชุณหะวัณ ทำการขับไล่รัฐบาลพลเรือโทถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เมื่อพ.ศ.2589 และเชิญจอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นต้นมา ประเทศไทยได้มีการปฏิวัติรัฐประหารอีกหลายครั้ง ทั้งที่สำเร็จและล้มเหลวกลายเป็นกบฏ

ที่โด่งดัง ได้แก่ กบฏวังหลัง ซึ่งส่งผลให้นายปรีดี พนมยงค์ ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่บ้านชานกรุงปารีส จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรม กบฏแมนฮัตตัน ที่ทำให้ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ต้องว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยาเพราะถูกจับขณะอยู่บนเรือรบหลวงศรีอยุธยา การกบฏครั้งนั้นทำให้บรรดานายทหารเรือตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายพลเรือหลายคน ต้องถูกปลดออกจากราชการ นอกจากนี้กองทัพไทยต้องเสียเรือรบที่สำคัญ คือ เรือศรีอยุธยา ต้องจมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเนื่องจากถูกทิ้งระเบิด

ส่วนการปฏิวัติที่ประสบผลสำเร็จเกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ.2500 สาเหตุจากการเลือกตั้งสกปรก เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม และบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งคือ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ (บุตรเขยของจอมพลผิน ชุณหะวัณ) ซึ่งสร้างกองทัพตำรวจขึ้น นอกเหนือจากตำรวจที่เคยมีอยู่แต่เดิม ได้แก่ ตำรวจตระเวนชายแดนตำรวจรถถัง กองบินตำรวจ และตำรวจพลร่ม เป็นต้น

การเลือกตั้งที่เรียกว่า สกปรกครั้งนั้น เพราะมีการโกงที่เรียกว่า พลร่มไพ่ไฟ และมีการข่มขู่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งขณะนั้นใช้นิสิต นักศึกษาเป็นกรรมการ

ผลสุดท้ายเกิดการปฏิวัติภายใต้การนำของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร ขับไล่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม (ถึงแก่อสัญกรรมที่ประเทศญี่ปุ่น) และพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์(ถึงแก่อสัญกรรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)

การปฏิวัติที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง คือ การปฏิวัติโดยขบวนการนิสิต นักศึกษาและประชาชน ขับไล่ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี จอมพลประภาสจารุเสถียร และพันเอกณรงค์ กิตติขจร ออกไปยังต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี เรื่องที่ต้องการกล่าวไว้ ณ ที่นี้ ก็คือ ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ก็ดี จอมพล ป.พิบูลสงคราม และพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ล้วนถึงแก่อนิจกรรมขณะที่อยู่ต่างประเทศ

สำหรับท่านอาจารย์ปรีดี เคยปรารภเมื่อมีผู้เรียนถามท่านว่า อยากกลับประเทศหรือไม่ คำตอบของท่าน คือ อยากกลับมาก แต่ไม่กลับ เพราะว่าจะทำให้เกิดความไม่สงบ เพราะท่านมีพรรคพวก คือ ลูกศิษย์และบรรดาเสรีไทยที่รักท่านเป็นจำนวนมาก

ส่วนจอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร นั้น เมื่อท่านกลับมาก็มีการต่อต้านในตอนต้นมาก แต่เมื่อท่านกลับมาและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลยทำให้ท่านอยู่จนถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบ ทั้งๆ ที่ท่านถูกยึดทรัพย์สินแม้แต่บ้านที่อยู่อาศัย แต่ทั้งสองท่านไม่เรียกร้อง

ตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ท่านได้ขออนุญาตศาลขอไปดูกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน และไม่กลับมาจนปัจจุบัน

พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงข้ามกับท่านอาจารย์ปรีดี จอมพลถนอม และจอมพลประภาส โดยสิ้นเชิง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยุติบทบาททางการเมือง ตรงข้ามกลับพยายามทำทุกวิถีทางที่จะกลับมาทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พรรคเพื่อไทย มีสโลแกนว่า ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ หรือยังทำตัวเป็นนายกรัฐมนตรีสั่งการ และให้พลพรรคทำทุกวิถีทางที่จะล้างมลทินเพื่อกลับมาดำเนินการทางการเมือง รวมทั้งพฤติกรรมหมิ่นเบื้องสูงด้วย

ทั้งหมดคือเหตุผลที่ว่า “การเมืองไทยไม่ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ” แทนที่จะถามกลับว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทำตัว เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร และท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งท่านทั้งสามถือได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริง

ท่านทั้งหลายที่รักชาติ รักความเป็นธรรม มีความรู้สึกอย่างไร เมื่อนำเอาทั้งสองกรณีมาเปรียบเทียบกัน

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4753

ปล.ผมเองก็รอ ทักษิณกลับมาเหมือนกันครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่