กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศ รวมถึงรัสเซียและสหรัฐอเมริกา รวมทีมสำรวจพื้นที่ทางตะวันตกของแคว้นไซบีเรีย เพื่อยืนยันการมีอยู่ของ "เยติ" สิ่งมีชีวิตในตำนาน หลังจากมีรายงานการพบเห็นเพิ่มขึ้น 3 เท่า...
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศ รวมถึงรัสเซียและสหรัฐอเมริกา รวมทีมเพื่อสำรวจพื้นที่ในภูมิภาคเคเมโรโว ในแคว้นไซบีเรีย ของรัสเซีย เพื่อตามหาตัว 'เยติ' สิ่งมีชีวิตในตำนาน ซึ่งเล่าขานกันว่า เคยมีการพบเห็นมันในภูมิภาคนี้บ่อยครั้ง และรายงานซึ่งกล่าวอ้างว่า พบตัว เยติ มีปริมาณมากขึ้นกว่า 3 เท่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
รายงานข่าว อ้างข้อมูลจากสถานีวิทยุกระจายเสียงของรัสเซียระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศรัสเซีย, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สวีเดน, เอสโตเนีย, มองโกเลีย และจีน ได้รับเชิญมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลหลักฐานในการมีอยู่ของเยติ ซึ่งยังไม่เคยมีการพิสูจน์มาก่อน ในการประชุมที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
คำ กล่าวอ้างที่ว่า มีการพบเห็นตัวเยติใน เคเมโนโว และในพื้นที่ข้างเคียงอย่างเทือกเขาอัลไต เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 20 ปี ก่อนถึง 3 เท่า และหลักฐานอื่นๆ ที่พบ เช่น รอยเท้าขนาด 35 เซนติเมตร หรือกระท่อมที่สร้างจากกิ่งไม้อย่างง่ายๆ ก็ถูกพบในภูมิภาคนี้ด้วย ทำให้นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า น่าจะมีประชากรเยติในภูมิภาคนี้กว่า 70-80 ตัวทีเดียว
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมการประชุม จะถูกส่งมาเพื่อสำรวจพื้นที่ตามหุบเขา เพื่อค้นหาหลักฐานการมีอยู่ของเยติ และหาตัวมันให้พบ
ดร.ไอ กอร์ เบิร์ตเซฟ หัวหน้าศูนย์วิจัยมนุษยวิทยานานาชาติ ประจำกรุงมอสโก อธิบายความเป็นมาของเยติว่า "เมื่อครั้งพวกโฮโมซาเปียน หรือมนุษย์ยุคแรกสุด เริ่มถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ ก็มีความโหดร้ายของพวกเขา ได้ทำลายล้างเผ่าพันธ์ุของโฮโม เนแอนเดอร์ธัล หรีอมนุษย์ยุคหิน ซึ่งเปรียบเสมือนญาติห่างๆ ของมนุษย์จนหมดสิ้น อย่างไรก็ดี อาจมีพวกเนแอนเดอร์ธัล เหลือรอดและใช้ชีวิตอยู่ตามป่าเขา จนกลายมาเป็นเยติก็เป็นได้"
อนึ่ง ภารกิจสำรวจหาเยติในครั้งนี้ นับเป็นปฏิบัติการครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1958 นับจากที่สถาบันวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียต ลงทีมไปสำรวจในพื้นที่ทางตะวันตกของไซบีเรีย เพื่อตามจับตัวเยติ.
credit:
http://www.fanthai.com/15913.html#ixzz2GnCAk0Qf
ต่อมา
ทีมสำรวจนานาชาติ เผยใกล้ค้นพบแล้วว่า เยติ สิ่งมีชีวิตในตำนานที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขานั้น มีอยู่จริง!
เว็บไซต์เดอะซัน ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมว่า ทีมสำรวจนานาชาติเพื่อตามหา เยติ ในรัสเซียซึ่งเป็นนั้น ขณะนี้ทางทีมวิจัยใกล้จะสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตในตำนานดังกล่าวนั้นมีอยู่จริง!
โดย ดร.อิกอร์ เบิร์ตเซฟ หัวหน้าศูนย์ศึกษามานุษยวิทยานานาชาติ ในการค้นหาเยติ ในครั้งนี้ กล่าวในการประชุมเมืองทัชทากอล ในแคว้นไซบีเรียของรัสเซียว่า พวกเขาค้นพบว่ามีตัวเยติอย่างน้อย 30 ตัว อาศัยอยู่ในภูมิภาคเคเมโรโว โดยพวกมันเป็นจุดเชื่อมโยงที่ขาดหายไป ระหว่างเผ่าพันธุ์เนแอนเดอร์ธัล หรือมนุษย์ยุคแรกกับมนุษย์ยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ ผู้
วชาญยังค้นพบเส้นขนยาว 7 เซติเมตรในถ้ำอะซาสสคายา ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันว่า ขนเส้นนี้เป็นของเยติจริง และยังมีหลักฐานอื่น ๆ อีกมากที่ทำให้พวกเขาเชื่อว่า เยติ มีตัวตนอยู่จริง อย่างเช่น รอยเท้า หรือรัง (ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นของเยติ) เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้กล่าวอ้างว่า เคยเห็นตัวเยติมากมาย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะอธิบายลักษณะของเยติไปในทางเดียวกันว่า เป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่ สูงเกือบ 2 เมตร มีขนสีขาวปกคลุมทั่วทั้งตัว ส่วนหัวเหมือนจะกลืนเป็นส่วนเดียวกับไหล่ แขนยาวและมีเท้าลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่ใหญ่กว่ามาก
http://fb.kapook.com/hilight-63646.html
มีใครพอจะทราบไหมครับว่าตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว หรือแปกไปแล้ว
มีใครพอจะทราบความคืบหน้าของทีมสำรวจนานาชาติที่ไปตามหา ไอ้ตีนโตบ้างครับ
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศ รวมถึงรัสเซียและสหรัฐอเมริกา รวมทีมเพื่อสำรวจพื้นที่ในภูมิภาคเคเมโรโว ในแคว้นไซบีเรีย ของรัสเซีย เพื่อตามหาตัว 'เยติ' สิ่งมีชีวิตในตำนาน ซึ่งเล่าขานกันว่า เคยมีการพบเห็นมันในภูมิภาคนี้บ่อยครั้ง และรายงานซึ่งกล่าวอ้างว่า พบตัว เยติ มีปริมาณมากขึ้นกว่า 3 เท่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
รายงานข่าว อ้างข้อมูลจากสถานีวิทยุกระจายเสียงของรัสเซียระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศรัสเซีย, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สวีเดน, เอสโตเนีย, มองโกเลีย และจีน ได้รับเชิญมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลหลักฐานในการมีอยู่ของเยติ ซึ่งยังไม่เคยมีการพิสูจน์มาก่อน ในการประชุมที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
คำ กล่าวอ้างที่ว่า มีการพบเห็นตัวเยติใน เคเมโนโว และในพื้นที่ข้างเคียงอย่างเทือกเขาอัลไต เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 20 ปี ก่อนถึง 3 เท่า และหลักฐานอื่นๆ ที่พบ เช่น รอยเท้าขนาด 35 เซนติเมตร หรือกระท่อมที่สร้างจากกิ่งไม้อย่างง่ายๆ ก็ถูกพบในภูมิภาคนี้ด้วย ทำให้นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า น่าจะมีประชากรเยติในภูมิภาคนี้กว่า 70-80 ตัวทีเดียว
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมการประชุม จะถูกส่งมาเพื่อสำรวจพื้นที่ตามหุบเขา เพื่อค้นหาหลักฐานการมีอยู่ของเยติ และหาตัวมันให้พบ
ดร.ไอ กอร์ เบิร์ตเซฟ หัวหน้าศูนย์วิจัยมนุษยวิทยานานาชาติ ประจำกรุงมอสโก อธิบายความเป็นมาของเยติว่า "เมื่อครั้งพวกโฮโมซาเปียน หรือมนุษย์ยุคแรกสุด เริ่มถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ ก็มีความโหดร้ายของพวกเขา ได้ทำลายล้างเผ่าพันธ์ุของโฮโม เนแอนเดอร์ธัล หรีอมนุษย์ยุคหิน ซึ่งเปรียบเสมือนญาติห่างๆ ของมนุษย์จนหมดสิ้น อย่างไรก็ดี อาจมีพวกเนแอนเดอร์ธัล เหลือรอดและใช้ชีวิตอยู่ตามป่าเขา จนกลายมาเป็นเยติก็เป็นได้"
อนึ่ง ภารกิจสำรวจหาเยติในครั้งนี้ นับเป็นปฏิบัติการครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1958 นับจากที่สถาบันวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียต ลงทีมไปสำรวจในพื้นที่ทางตะวันตกของไซบีเรีย เพื่อตามจับตัวเยติ.
credit: http://www.fanthai.com/15913.html#ixzz2GnCAk0Qf
ต่อมา
ทีมสำรวจนานาชาติ เผยใกล้ค้นพบแล้วว่า เยติ สิ่งมีชีวิตในตำนานที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขานั้น มีอยู่จริง!
เว็บไซต์เดอะซัน ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมว่า ทีมสำรวจนานาชาติเพื่อตามหา เยติ ในรัสเซียซึ่งเป็นนั้น ขณะนี้ทางทีมวิจัยใกล้จะสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตในตำนานดังกล่าวนั้นมีอยู่จริง!
โดย ดร.อิกอร์ เบิร์ตเซฟ หัวหน้าศูนย์ศึกษามานุษยวิทยานานาชาติ ในการค้นหาเยติ ในครั้งนี้ กล่าวในการประชุมเมืองทัชทากอล ในแคว้นไซบีเรียของรัสเซียว่า พวกเขาค้นพบว่ามีตัวเยติอย่างน้อย 30 ตัว อาศัยอยู่ในภูมิภาคเคเมโรโว โดยพวกมันเป็นจุดเชื่อมโยงที่ขาดหายไป ระหว่างเผ่าพันธุ์เนแอนเดอร์ธัล หรือมนุษย์ยุคแรกกับมนุษย์ยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ ผู้
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้กล่าวอ้างว่า เคยเห็นตัวเยติมากมาย แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะอธิบายลักษณะของเยติไปในทางเดียวกันว่า เป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่ สูงเกือบ 2 เมตร มีขนสีขาวปกคลุมทั่วทั้งตัว ส่วนหัวเหมือนจะกลืนเป็นส่วนเดียวกับไหล่ แขนยาวและมีเท้าลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่ใหญ่กว่ามาก
http://fb.kapook.com/hilight-63646.html
มีใครพอจะทราบไหมครับว่าตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว หรือแปกไปแล้ว