ต่อจากภาค 1 http://www.ppantip.com/topic/30001783 เราจบกันไว้ที่บ้านพักแบบเกวียน ตอนนั้นเวลาก็น่าจะประมาณ 10.30 น.แล้วค่ะ เราต้องรีบกันแล้วล่ะค่ะ เพราะต้องเดินทางไปเช็คอินที่ฟาร์มโชคชัย แคมป์ก่อน 11.30 น. ค่ะ ^^

เรามาถึงที่ฟาร์มโชคชัยเวลาประมาณ 11.15 น. พอมาถึงก็มีเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ชื่อ "พี่ส้ม" น่ารักมากๆเลยค่ะ ให้เราเอารถไปจอดไว้ที่ทางฟาร์มกำหนดไว้ เพราะหลังจากนี้ต่อไปจนถึงพรุ่งนี้เช้า เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในแคมป์ค่ะ ซึ่งจะไม่ได้ให้เอารถเข้าไป เพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติและได้บรรยากาศของแคมป์จริงๆนะค่ะ พอจอดรถเข้าที่เราก็นำสัมภาระที่เตรียมจะเอาไว้ไปใช้ในแคมป์มากองไว้ที่ห้องกลางฟาร์ม และทำการเช็คอิน โดยจะมีป้ายห้อยคอให้ เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเลขเต๊นท์ ชื่อผู้พัก เป็นต้น และจะมีการให้ป้ายแท็กมาเพื่อติดไว้ที่กระเป๋าสัมภาระทุกชิ้นที่ขนไปของเราให้ และจะมีพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำสัมภาระของเราไปไว้ให้ถึงเต็นท์เลยล่ะค่ะ (ยกให้เสร็จ ไปถึงเต๊นท์ก็เข้าพักได้เลยว่างั้น ให้ความอำนวยความสะดวกสุดๆเลยละค่ะ) ส่วนใครมีสัมภาระสำคัญ ๆ เช่น notebook ipad เค้าก็จะทำการติดป้ายแท็กไว้เหมือนกัน แต่พอเข้าแคมป์ไปจะต้องไปรับที่หน้าประชาสัมพันธ์ค่ะ ไม่ต้องกลัวหายเลย ว่าแล้วได้เวลา 11.45 น.แล้วล่ะค่ะ เตรียมไปรับประทานอาหารกันดีกว่า ^^

ข้างหน้าก่อนเข้าสู่ห้องอาหารโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ค่ะ



เข้าไปอาหารจะเป็นลักษณะบุฟเฟ่ต์เลยค่ะ มีสเต็กที่ปิ้งให้สด ๆ ทั้ง หมู ปลาแซลมอน เนื้อ ไก่ ไส้กรอกรมควัน แฮมเนื้อดี อ๋อลืมบอกจุดเด่นไปนิดนึงค่ะ พอเราเข้าไปปุ๊บเราจะได้การต้อนรับด้วยน้ำสมุนไพรค่ะ มี น้ำขิง น้ำมะตูม น้ำกระเจี๊ยบ ไว้ให้เราคลายเหนื่อย เรียกน้ำย่อยไปในตัวประมาณนั้น (เหมือนให้ล้างสารพิษก่อนเข้าสู่ฟาร์ม 5 5 5) หลังจากนั้นเราก็เลือกนั่งโต๊ะได้ตามใจชอบ เพราะมีเวลาให้เราทานจน 13.00 น. และรถคาราวานฟาร์มแทรกเตอร์ จะมารับเราเดินทางเข้าสู่แคมป์ค่ะ

หน้าตาอาหารที่ตักมาค่ะ







บรรยากาศบริเวณโดยรอบห้องอาหารค่ะ







เวลาประมาณ 13.00 น. มีคาราวานฟาร์มแทรกเตอร์มาพาเราเพื่อเข้าสู่โปรแกรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นโปรแกรมแรกก่อนเลยค่ะ อันนี้เป็นการสาธิตการผสมเทียมให้ดูค่ะ โดยวิธีนั้นรวดเร็ว พริบตาเดียวจริงๆ พรีเซ็นเตอร์ตัวนี้ชื่อ คุณไฮเปอร์ค่ะ อิอิ



วิทยากรที่จะนำเราเข้าสู่โปรแกรมตลอดการอยู่ในฟาร์มค่ะ (น่ารักใช่ไหมล่ะค่ะ อิอิ)



โปรแกรมถัดไป ไปชมการสาธิตการรีดนมวัวค่ะ มีแบบใช้มือ และแบบใช้เครื่องค่ะ





ภาพนี้บังเอิญจับภาพได้พอดี อิอิ หากแม่ว้วมีการยกหางขึ้น แสดงว่าจะมีการปล่อยสารพิษออกมา ดังนั้น ผู้ชมทุกท่านต้องทำการถอยห่างจากรัศมีนั้นโดยทันที ไม่งั้นอาจจะได้ของแถมติดตัวมาก็เป็นได้ - -





หลังจากนั้น เดินทางเข้าสู่หมู่บ้าน คาวบอย ชมวิถีการใช้ชีวิตแบบคาวบอย โดยจะมีการแสดงต่าง ๆ อาทิ การใช้แส้ การล่าวัว การขี่ม้า การใช้เชือก ในรูปแบบคาวบอย ใช้เวลาประมาณสัก 45 นาทีค่ะ



หลังจากนั้น พักการแสดง ก็จะให้เราได้ขี่ม้า นั่งเกวียนม้า เล่นเกมส์ปาเป้า ปาลูกโป่ง (ตรงนี้ในแพ็คเกจที่ซื้อไว้มีคูปองให้สำหรับขี่ม้าหรือจะเลือกนั่งเกวียนม้าก็ได้ค่ะ ซึ่งในคูปองที่ได้ในแพ็คเกจนั้น หากจะขี่ม้า ใช้ 1 ใบ หากจะนั่งเกวียนม้า ให้ใช้คูปอง 2 ใบค่ะ ซึ่งเกวียนม้า 2 ใบ จะนั่งได้ 6 คนค่ะ) ส่วนเกมส์ปาเป้า ปาโป่ง ต่าง ๆ จะต้องซื้อเองต่างหากค่ะ ซึ่งน้องต้นหลิวเลือกที่จะขี่ม้า และคุณพ่อและคุณแม่น้องต้นหลิว เลือกที่จะนั่งเกวียนม้าค่ะ ครบพอดี ^๐^





หลังจากขี่ม้า นั่งเกวียนม้า กันเรียบร้อย ก็พาน้องต้นหลิวมานั่งม้าไม้เล่น ซึ่งฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านคาวบอย จะมี ummm milk!! ตั้งอยู่ เพื่อให้แวะซื้อน้ำ ขนมทานกันได้ค่ะ (ช่วงรอเวลารถคาราวานฟาร์มแทรกเตอร์มารับไปดูโปรแกรมต่อไป)



โปรแกรมต่อไป ชมการแสดงบนเวทีของสัตว์แสนรู้ต่าง ๆ เช่น สุนัข แพะ แกะ นกแก้วมาคอร์ ลูกโค เป็นต้น



จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปป้อนนมลูกโค ให้อาหารกระต่าย ดูอูฐ ให้อาหารเนื้อทราย เป็นต้น







จากนี้ไปเป็นเวลาประมาณ 15.45 น. โปรแกรมสุดท้ายของวันนี้คือ สนุกกับการทำไอติม เป็นสิ่งที่น้องต้นหลิวรอคอยมาทั้งวันเลยทีเดียวค่ะ !! โดยก่อนอื่น เมื่อมาถึงหน้า shop การทำไอติมแล้วจะมีเจ้าหน้าที่แจกอุปกรณ์การสวมใส่ก่อนเข้าสู่ห้องทำไอติมค่ะ โดยจะมี ผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม แจกให้และสวมใส่ก่อนเดินขึ้นชั้น 2 ค่ะ

หน้าตาเมื่อแต่งตัวสมบูรณ์แล้ว



จากนั้นต้องทำการล้างไม้ล้างมือ ให้สะอาดกันเสียก่อน



เลือกรสไอติม ที่ชอบ โดยจะมี รสช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ กาแฟ มีทั้งหมด 6 รส จำมะได้ แหะๆ จำได้แค่ 3 รสค่ะ แต่น้องต้นหลิวเลือก รสช็อกโกแลต ส่วนคุณพ่อน้องต้นหลิว เลือกกาแฟค่ะ เลยแยกกลุ่มกัน



ก็แบ่งกลุ่มกันไปทำค่ะ เริ่มจากเทส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้ในแต่ละกลุ่มให้เข้ากันค่ะ





หลังจากนั้นนำส่วนผสมเทเข้าเครื่องปั่นโดยใช้เวลาประมาณ 11.5 นาทีค่ะ จะได้ออกมาแบบนี้



ต่อด้วยการให้เด็กๆ แต่งหน้าโรยท้อปปิ้งกันค่ะ ขั้นตอนนี้ล่ะค่ะ เละกันเลย เพราะเด็กๆ โรยหน้าท้อปปิ้งกันมั่วเลยค่ะ ^^ โดยใน 1 กลุ่มจะมีถ้วยไอติมให้ 25 ถ้วยเพื่อแบ่งปันกันนำกลับบ้านในวันรุ่งขึ้นคนละ 5 ถ้วยด้วยค่ะ แต่บังเอิญว่าในกลุ่มวันนี้ มีมากกว่า 5 คน ทำให้ไม่เพียงพอ ไม่เป็นไรค่ะ มาทั้งทีทางแคมป์โชคชัย ได้แถมให้โดย ให้แบ่งปันไอติมที่ทำด้วยฝีมือกลุ่มตัวเองไปคนละ 2-3 ถ้วย แล้วที่เหลือทางแคมป์จะใส่เติมไปให้จนครบ 5 ถ้วยค่ะ ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ ได้เท่าเทียม ^^___^^





จากนั้นเติมหน้าท็อปปิ้ง ตักไอติมลงถ้วยกันแล้ว ก็จะนำมาแพ็คใส่โฟม และติดแท็กกลุ่มพร้อมเลขที่เต็นท์ ไว้ค่ะ และพรุ่งนี้ตอนเช็คเอ้าท์ก็นำสายห้อยคอ มาแลกกับกล่องโฟมที่แพ็คพร้อมดายไอซ์ ไว้ให้นำกลับบ้าน โดยไม่ต้องกลัวละลาย ซึ่งจะเก็บไว้ได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวค่ะ (จุดประสงค์คือ เป็นการนำสายห้อยคอมารีไซเคิลใช้กับรุ่นต่อไปได้ค่ะ ดังนั้นหากใครอยากนำไอติมที่ทำเองกลับบ้าน ต้องนำสายห้อยคอมาแลกด้วยนะค่ะ เป็นไอเดียทีดีเลยทีเดียว)



จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ได้เวลาเดินทางกับแคมป์ พักผ่อนตามอัธยาศัย แล้วค่ะ เราได้เบอร์เต็นท์ เลข B209 ค่ะ ต้องขอโทษทีที่มาถ่ายตอนรื้อสัมภาระออกมาแล้ว เลยดูรกๆ นิดนึงค่ะ อิอิ

ซึ่งในห้องพักจะประกอบไปด้วย ตู้แอร์เคลื่อนที กระติกเก็บความเย็น โต๊ะเครื่องเขียนและแต่งหน้าได้เล็กน้อย ตู้ไม้สำหรับแขวนเสื้อผ้าเล็กน้อย เตียงคู่ โคมไฟ ตะกร้าใส่ผ้าขนหนู 3 ผืน (ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม ผ้าเช็ดหน้า) แก้วน้ำสำหรับรองน้ำแปรงฟัน พร้อมครีมอาบน้ำนม แชมพูสระผมน้ำนม ครีมทาผิวน้ำนม ซึ่งเป็นการโปรโมทสินค้าซึ่งหากใช้ดี ก็ไปซื้อได้ที่ชอปหน้าฟาร์มด้วยค่ะ มีขายเป็นชุดๆค่ะ อ๋อ ที่เต็นท์จะไม่มีทีวีนะค่ะ เพราะทางแคมป์ อยากให้มาพักผ่อนกันจริงๆค่ะ แต่มีสัญญาณ wifi แรงมากค่ะ confirm เลย มีหลายจุดเลยทีเดียว ส่วนห้องน้ำเนี้ย ไม่มีในเต็นท์นะค่ะ จะเป็นห้องอาบน้ำรวม แต่แยกหญิงและชายค่ะ (ในภาพดูรกโน๊ะ!!) อ่อจุดเด่น อีกอย่างคือ หากมีเหตุฉุกเฉินในเต็นท์ ให้ทำการเป่านกหวีด ซึ่งในเต็นท์ จะมีเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ  และห้ามให้เด็กๆ เป่าเล่น โดยไม่มีเหตุจำเป็นด้วยนะค่ะ ดังนั้น หากมีบุตรหลาน ต้องดูแลเรื่องนี้ด้วย







ห้องอาบน้ำค่ะ ซึ่งจากเต็นท์มา ก็เดินไม่ไกลหรอกค่ะ ได้บรรยากาศดี ตอนไปนี่อากาศลดลงเหลือ 19 องศาค่ะ มีเสื้อคลุมเตรียมไว้ให้ในตู้ด้วย ก็ใส่คลุมออกมา (ไม่ได้ให้แก้ผ้าออกมาเลยนะค่ะ ก็คลุมมาแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำนะค่ะ ^^)

เปิดประตูมาจะเห็นแบบนี้ค่ะ (ตอนแรกตกใจ เฮ้ย บรรยากาศข้างหลังเป็นแบบนี้ แล้วจะมีใครมาแอบดูไหมเนี้ย  - - แต่ confirm ความปลอดภัยค่ะ ไม่มีใครแน่นอน) แหม อาบไปได้บรรยากาศเหมือนอาบอยู่กลางป่าค่ะ ไม่มีอะไรกั้นนะค่ะ เอามือทะลุไปด้านหลังป่าได้เลย จะมีเพียงกระจกกั้นขึ้นมาจากพื้นแค่ครึ่งขาเองค่ะ ใสไปหมดจริงๆ แต่เป็นน้ำอุ่นนะค่ะ อาบไปก็หนาวไป เพราะมีลมโชยมาจากข้างหน้าที่เป็นป่านั่นล่ะค่ะ ลมหนาวโชย น้ำอุ่นกระทบผิว โอ๊ย ยากจะบรรยายในเวลานั้น



งงไหมค่ะ น้ำจะไหลมาทางไหน จะไหลออกมาจากแท่นไม้ที่ยื่นออกมานี่ล่ะค่ะ ได้ธรรมชาติจริงๆ



พอหันหลังมองกลับไปที่ประตูห้องน้ำ ก็จะมีราวสำหรับพาดผ้าขนหนูเป็นคล้ายๆบันไดค่ะ



สำหรับห้องน้ำค่ะ ก็เป็นแบบเปิดเช่นกันค่ะ พอเปิดประตูมาจะได้แบบนี้ ^๐^



มองหันหลังกลับมาที่ประตู



หลังจากอาบน้ำ พักผ่อนแล้วก็ได้เวลา อิ่มอร่อยกับอาหารค่ำ แบบ CHOKCHAI SUPREME แล้วเวลาประมาณ 18.30 น.ค่ะ ซึ่งในวันนี้ทางแคมป์ได้ขนกิจกรรมพร้อมรางวัลมาเยอะมากๆเลยค่ะ มีทั้งปาวงล้อน้ำโชค ตักไข่ สอยดาว เป็นต้น



เดี๋ยวไปต่อภาค 3 จบแน่ค่ะ ^^
http://www.ppantip.com/topic/30005625