สวัสดีปีใหม่เพื่อน ๆ

กระทู้สนทนา
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ ′สุขมหาศาล′ ทั้งปี 2556

(ที่มา:มติชนรายวัน 1 ม.ค.2556)

ตลอดทั้งปี เชื่อว่าทุกคนคงจะพบเจอกับเรื่องราวมากมาย มีดีบ้าง แย่บ้าง
จนบางครั้งทำให้สุขภาพอ่อนแอลง จิตใจไม่เบิกบาน รวมทั้งการเงินขาด
สภาพคล่อง

เอาล่ะ....เริ่มต้นปีใหม่ครานี้ หากใครตั้งใจอยาก "ปรับเปลี่ยน" ตัวเองเสีย
ใหม่ ทั้งร่างกาย จิตใจ และการเงิน ลองอ่านบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ดู หาก
ชอบก็ลองนำไปทำตามดู ไม่เสียหลาย เป็นการดีท็อกซ์ร่างกายให้สุขภาพดี
ล้างพิษสมองจากความคิดแย่ๆ และชำระจิตใจจากอารมณ์ขุ่นเมา

ถ้าทำได้ ได้กับตัวเอง เพราะความสุขเป็นเรื่องที่หาซื้อไม่ได้
ถ้าอยากได้ก็ต้องลงมือทำเอง!!
<
<
<

ทิ้งขยะจิตใจ ชีวิตเปลี่ยน

จิตใจที่ไม่เบิกบาน หงุดหงิด โกรธ เกลียด เศร้า เบื่อ เหงา ซึม นอยด์
แซด ทุกข์ และอีกสารพัดจะ "รมณ์บ่จอย" ซึ่งอารมณ์ลบๆ แบบนี้ รู้ไหม
ว่าเป็น "ขยะ" ที่ไม่เป็นผลดีกับชีวิตเลย (ขอบอก)

"สิริลักษณ์ ตันศิริ" นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ โค้ชพัฒนาศักยภาพและ
ความสำเร็จ เจ้าของหนังสือขายดี "เมื่อยักษ์ตื่น" และ "เร่งสปีดความสำเร็จ"
ผู้ที่พูดสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนเปลี่ยนชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นมา
แล้วมากมาย เริ่มต้นด้วยการบอกว่า คนในสังคมเก็บขยะไว้ในใจเยอะมาก
(ลากเสียงยาว)

"ขยะในใจคือ อารมณ์ลบๆ ทั้งหลาย ถ้าเรามีแต่อารมณ์ลบๆ ตลอดเวลา
ใครทำอะไรให้ผิดหวัง ไม่ได้ดั่งใจ ก็เอามาเสียใจ เบื่อ เซ็ง หรือคิดว่า
ฉันไม่เก่ง ฉันล้มเหลว ยิ่งเก็บอารมณ์แบบนี้มาไว้ในใจเรื่อยๆ มันก็ยิ่งตอก
ย้ำสิ่งไม่ดีกับตัวเอง เศร้าบ่อย ผิดหวังบ่อย สุดท้ายก็หมดพลังชีวิต"

"คนที่ชีวิตไม่มีความสุข อะไรที่คิดแล้วทำให้ใจขุ่นมัว นั่นแปลว่า
กำลังวางความคิดไม่ถูกต้อง"

ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่อย่าง "เบื่อๆ" ไปวันๆ ไม่สุขแต่ก็ไม่ทุกข์ อยู่ไปวันๆ
ซึ่งแบบนี้ใช่ว่าจะดี เพราะเป็นการมีชีวิตอยู่อย่างเรื่อยเปื่อย ไม่มีแรงบันดาลใจ
ไม่เบิกบานใจ ทำงานก็ทำงานไปงั้นๆ พอตกเย็นก็กลับบ้านดูทีวีนอน ชีวิตมีอยู่แค่นี้

เมื่อเป็นเช่นนี้ โค้ชจึงอยากขอร้องว่า "เปลี่ยนจากเบื่อให้เป็นบุญ" จะดีกว่าไหม?

"ด้วยวิธีแสนง่าย ไม่ว่าจะทำอะไรให้ใส่ความรัก ความเอาใจใส่ลงไป เช่น
ที่ผ่านมา อาจจะทำงานเหมือนหุ่นยนต์ ทำแบบเบื่อๆ ลองเปลี่ยนเบื่อให้เป็นบุญ
มองให้เห็นคุณค่าในงาน ทุกครั้งที่ทำงานให้ใส่ใจ ใส่ความรักลงไปในงานทุกวัน"
<
<
<

สุดท้าย เคล็ดลับความสุขที่หลายคนรู้ แต่ไม่ค่อยเห็นคุณค่า นั่นคือ "คิดบวก พูดบวก ทำบวก ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น"

"ต่อตนเอง คิดบวก คือ คิดว่าเราเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่หลงตัวเอง เป็นการคิดที่การเชียร์ให้พลังตัวเอง, พูดบวก คือ พูดแต่สิ่งที่ดี ฉันมีพลัง ฉันเชื่อมั่น ฉันทำได้ ฉันเป็นคนโชคดี, ทำบวก คือ ฝึกตัวเองให้ยิ้มแย้มแจ่มใส และกระตือรือร้นเสมอ"

"ส่วนต่อคนอื่น คิดบวก พูดบวก คือ การมองแต่ละคนในแง่ดี ชื่นชมในสิ่งดีๆ อย่าไปมองสิ่งที่ไม่ดี พูดชมเชยและพูดขอบคุณเยอะๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่ทรงพลังสุดสุด"

"ลองดูในแต่ละวัน ชื่มชมแฟนที่ดูแลเรา ขอบคุณแม่ที่ทำอาหารให้เราทุกวัน ขอบคุณเจ้านายที่สอนงานเรา แล้วดูว่าจะได้ความรักจากคนรอบข้างขนาดไหน เขาจะรัก จะรู้สึกดีกับเรา แต่การชื่นชมก็ต้องออกมาจากใจด้วย คอยดูเถอะ สิ่งดีๆ จะหลั่งไหลเข้ามา"

"และทำบวกต่อผู้อื่น คือ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อกัน ช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นผู้ให้ เรายอมเหนื่อยกายเพิ่มนิดเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมามหาศาลมากๆ เวลาช่วยไม่ต้องหวังผล สิ่งดีๆ จะกลับมาเอง จะเร็วจะช้าก็แล้วแต่ ไม่ต้องนั่งคอย"

"ทั้งหมดนี้คือหลักการที่ทรงพลังมหาศาล"

"ซึ่งคนแทบทั้งนั้น อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม คิดแบบเดิม พูดแบบเดิม ทำแบบเดิม แล้วจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร เคล็ดลับความสุขง่ายๆ เพียงมองสิ่งต่างๆ ในแง่ดี บวกไว้ ชื่นชมสิ่งที่มี ขอบคุณสิ่งที่ได้รับมา ลดความคาดหวังให้น้อย ปล่อยวางให้เร็ว ไม่ยึดติด ไม่หมายมั่นกับสิ่งต่างๆ สร้างประโยชน์ สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น เท่านี้ ทำได้ ก็ยิ้มเยอะ!!!" โค้ชสิริลักษณ์ทิ้งท้าย

ทำสิ!! สุขมหาศาลรออยู่...

ปีใหม่ หัวใจใหม่ คนใหม่
<
<
<

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1357004928&grpid=01&catid=&subcatid=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่