ส่งนวัตกรรมยานยนต์ของตนเองมาประชันกันแทบหมดโรงงานเลยทีเดียว สำหรับงานแสดงรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย งานที่มีผู้คนตั้งตาคอยมากที่สุดในบ้านเรา กับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 หรือเรียกสั้นๆ ว่า มอเตอร์โชว์ โดยในปีนี้ทางผู้จัดงานได้ย้ายสถานที่จัดงานจากเดิม ไบเทคบางนา มาเป็น อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลเพื่อการรองรับจำนวนผู้คนมหาศาลที่มียอดการเข้าชมงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในแต่ละปีนั่นเอง และในวันนี้งานแสดงนวัตกรรมที่มีผู้คนรอคอยมากที่สุดแห่งปีก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงขออาสาพาไปเดินชมและนำไฮไลท์บางส่วนมาฝากกันแบบเบาๆ ก่อนที่ใครหลายๆ คนจะแวะเวียนไปสัมผัสกันอย่างเต็มที่
โดยโต้โผใหญ่ของการจัดงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานการจัดงานคนเดิม ผู้ที่คร่ำวอดและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเราเราให้สู่การเป็นเลิศในเอเชีย ซึ่ง ดร. ปราจิน ก็เชื่อมั่นว่า ในปีนี้การจัดงานจะยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากพื้นฐานของสถานที่ของการจัดงานที่กว้างขึ้น การเติบโตของตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนผู้เข้าชมงาน อีกทั้ง ยังมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงรถต้นแบบจากค่ายต่างๆ ก็น่าจะสร้างความฮือฮา และเรียกความสนใจจากผู้เข้าชมงานได้เป็นอย่างดี
มาดูในส่วนของยนตกรรมกันบ้าง งานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ หลายค่ายได้นำรถยนต์ที่เป็นไฮไลท์ของตนเองมาจัดแสดง อาทิเช่น Honda Brio รถยนต์น้องใหม่ สายพันธุ์อีโคคาร์ ที่ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ยังไม่มีการเปิดตัว ก็ได้นำมาจัดแสดงและเปิดให้สัมผัสกันที่งานนี้อย่างเป็นทางการที่แรกด้วย ซึ่งบริษัทฮออนด้าก็คาดการณ์ว่า อีโคคาร์คันแรกของค่ายน่าจะสามารถกอบโกยยอดขายได้อย่างถล่มถลายแน่นอน ถัดมาที่ค่ายรถคู่แข่งจากแดนอาทิตย์อุทัยอีกเจ้าอย่าง โตโยต้า ที่งานนี้ ได้นำรถยนต์ต้นแบบสองคัน อย่าง Toyota FT 86 (สีแดง) รถสปอร์ตต้นแบบขนาดกะทัดรัด 4 ที่นั่ง ที่มีต้นแบบมาจากรถ Toyota FT-HS Concept โดยได้ถูกจับย่อส่วนและปรับแต่งให้มีความกลมกลืนมากขึ้น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ Toyota FT-EV II (สีขาว) รถไฟฟ้าขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นหรือในเมือง ไม่เหมือนใครในการควบคุมการขับขี่ด้วยจอยสติ๊ก และขับขี่ได้ระยะทางถึง 90 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มที่ 1 ครั้ง มาจัดแสดงภายในบูธ ขณะที่ค่ายรถยนต์จากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง Proton ก็ได้นำเอารถยนต์ต้นแบบทรงสปอร์ตอย่าง Proton Lekir (เลอเค้) ออกมาเรียกเสียงฮือฮา โดยมันเป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานการทำสงครามของอาณาจักรมะละกา ซึ่งเป็นตำนานการต่อสู้ที่โด่งดังในประวัติศาสตร์มาเลเซีย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัยจากค่ายรถชื่อดังโลตัส ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์จากฝั่งยุโรปอย่าง Citroen ที่ในงานนี้ได้นำ Citroen DS3 รถยนต์แฮตช์แบ็ก 3 ประตูที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน แต่แฝงลวดลายให้ดูหรูหราและมีสไตล์ มาจัดแสดงเพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อระดับบน
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่ไฮไลท์บางส่วนที่นำมาฝากกันเท่านั้น ภายในงานยังมีรถยนต์ต้นแบบจากค่ายต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet, Mitsubishi, Nissan และ Suzuki ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสิงห์นักบิดทั้งหลายก็จะได้พบกับในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ที่งานนี้ มีทั้งนวัตกรรมจากค่ายแบรนด์ไทยแท้และแบรนด์เทศมาให้สัมผัสกันอย่างจุใจ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 5เมษายน 2554 ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. สำหรับวันธรรมดา และ 11.00-22.00 น. สำหรับ วันเสาร์-อาทิตย์ สนนราคาบัตรเข้าชม 100 บาท พร้อมลุ้นกับการแจกรางวัล ทั้งรถยนต์ รถจักรยายนต์ และกรรมธรรม์ประกันภัย (ทั้งนี้ ทางผู้จัดงานฝากบอกมาว่า แนะนำให้มางานในช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00-16.00 น. เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ปลอดการจราจรที่สุด สำหรับผู้ที่เดินทางมาในช่วงเย็นอาจจะต้องประสบกับภาวะการจราจรติดขัด)
เดินชมแบบเบาๆ กับงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
ส่งนวัตกรรมยานยนต์ของตนเองมาประชันกันแทบหมดโรงงานเลยทีเดียว สำหรับงานแสดงรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย งานที่มีผู้คนตั้งตาคอยมากที่สุดในบ้านเรา กับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 หรือเรียกสั้นๆ ว่า มอเตอร์โชว์ โดยในปีนี้ทางผู้จัดงานได้ย้ายสถานที่จัดงานจากเดิม ไบเทคบางนา มาเป็น อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลเพื่อการรองรับจำนวนผู้คนมหาศาลที่มียอดการเข้าชมงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในแต่ละปีนั่นเอง และในวันนี้งานแสดงนวัตกรรมที่มีผู้คนรอคอยมากที่สุดแห่งปีก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงขออาสาพาไปเดินชมและนำไฮไลท์บางส่วนมาฝากกันแบบเบาๆ ก่อนที่ใครหลายๆ คนจะแวะเวียนไปสัมผัสกันอย่างเต็มที่
โดยโต้โผใหญ่ของการจัดงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานการจัดงานคนเดิม ผู้ที่คร่ำวอดและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเราเราให้สู่การเป็นเลิศในเอเชีย ซึ่ง ดร. ปราจิน ก็เชื่อมั่นว่า ในปีนี้การจัดงานจะยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากพื้นฐานของสถานที่ของการจัดงานที่กว้างขึ้น การเติบโตของตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนผู้เข้าชมงาน อีกทั้ง ยังมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงรถต้นแบบจากค่ายต่างๆ ก็น่าจะสร้างความฮือฮา และเรียกความสนใจจากผู้เข้าชมงานได้เป็นอย่างดี
มาดูในส่วนของยนตกรรมกันบ้าง งานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ หลายค่ายได้นำรถยนต์ที่เป็นไฮไลท์ของตนเองมาจัดแสดง อาทิเช่น Honda Brio รถยนต์น้องใหม่ สายพันธุ์อีโคคาร์ ที่ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ยังไม่มีการเปิดตัว ก็ได้นำมาจัดแสดงและเปิดให้สัมผัสกันที่งานนี้อย่างเป็นทางการที่แรกด้วย ซึ่งบริษัทฮออนด้าก็คาดการณ์ว่า อีโคคาร์คันแรกของค่ายน่าจะสามารถกอบโกยยอดขายได้อย่างถล่มถลายแน่นอน ถัดมาที่ค่ายรถคู่แข่งจากแดนอาทิตย์อุทัยอีกเจ้าอย่าง โตโยต้า ที่งานนี้ ได้นำรถยนต์ต้นแบบสองคัน อย่าง Toyota FT 86 (สีแดง) รถสปอร์ตต้นแบบขนาดกะทัดรัด 4 ที่นั่ง ที่มีต้นแบบมาจากรถ Toyota FT-HS Concept โดยได้ถูกจับย่อส่วนและปรับแต่งให้มีความกลมกลืนมากขึ้น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ Toyota FT-EV II (สีขาว) รถไฟฟ้าขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นหรือในเมือง ไม่เหมือนใครในการควบคุมการขับขี่ด้วยจอยสติ๊ก และขับขี่ได้ระยะทางถึง 90 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มที่ 1 ครั้ง มาจัดแสดงภายในบูธ ขณะที่ค่ายรถยนต์จากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง Proton ก็ได้นำเอารถยนต์ต้นแบบทรงสปอร์ตอย่าง Proton Lekir (เลอเค้) ออกมาเรียกเสียงฮือฮา โดยมันเป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานการทำสงครามของอาณาจักรมะละกา ซึ่งเป็นตำนานการต่อสู้ที่โด่งดังในประวัติศาสตร์มาเลเซีย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัยจากค่ายรถชื่อดังโลตัส ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์จากฝั่งยุโรปอย่าง Citroen ที่ในงานนี้ได้นำ Citroen DS3 รถยนต์แฮตช์แบ็ก 3 ประตูที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน แต่แฝงลวดลายให้ดูหรูหราและมีสไตล์ มาจัดแสดงเพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อระดับบน
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่ไฮไลท์บางส่วนที่นำมาฝากกันเท่านั้น ภายในงานยังมีรถยนต์ต้นแบบจากค่ายต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet, Mitsubishi, Nissan และ Suzuki ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสิงห์นักบิดทั้งหลายก็จะได้พบกับในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ที่งานนี้ มีทั้งนวัตกรรมจากค่ายแบรนด์ไทยแท้และแบรนด์เทศมาให้สัมผัสกันอย่างจุใจ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 5เมษายน 2554 ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. สำหรับวันธรรมดา และ 11.00-22.00 น. สำหรับ วันเสาร์-อาทิตย์ สนนราคาบัตรเข้าชม 100 บาท พร้อมลุ้นกับการแจกรางวัล ทั้งรถยนต์ รถจักรยายนต์ และกรรมธรรม์ประกันภัย (ทั้งนี้ ทางผู้จัดงานฝากบอกมาว่า แนะนำให้มางานในช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00-16.00 น. เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ปลอดการจราจรที่สุด สำหรับผู้ที่เดินทางมาในช่วงเย็นอาจจะต้องประสบกับภาวะการจราจรติดขัด)