บทความนี้แปลจากเรื่อง
Motorola Droid 2 (Verizon Wireless) โดย
Bonnie Cha(หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ทางผู้แปลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)
ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมาปีกว่าแล้วหลังจาก Motorola Droid รุ่นแรกวางจำหน่ายในท้องตลาด แต่อย่างที่เห็นกันว่า ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ระบบปฏิบัติการ Android ค่อนข้างที่จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ง่ายและเหมาะกับสมาร์ทโฟน จึงทำให้เกิดสมาร์ทโฟนทายาทที่มีชื่อว่า Motorola Droid 2 ออกมา ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกอัพเกรดมาจาก Droid รุ่นแรก ซึ่งได้มีการปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยมากขึ้น, แป้นพิมพ์ที่ดีกว่าเดิม, โปรเซสเซอร์ที่ทำงานได้ฉับไว และหัวใจสำคัญก็คือการทำงานด้วย Android OS เวอร์ชั่นล่าสุด แต่ก็ยังมีบางจุดที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับต้องอยู่ดี และน่าจะเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการได้ไม่ยาก แถมมีข่าวว่าในช่วงเดือนกันยายน ผู้ให้บริการเครือข่าย Verizon จะวางจำหน่าย Motorola Droid 2 แบบ limited edition โดยใช้ชื่อรุ่นว่า R2-D2 ที่ภายในแพคเกจจะประกอบไปด้วยความเป็น Star Wars และหน้าตาของโทรศัพท์ที่เหมือน R2-D2 อีกด้วย
Design
หลังจากที่เปิดตัว Motorola Droid เวอร์ชั่นแรก เรียกได้ว่าไม่ค่อยได้รับความดึงดูดใจจากผู้ใช้สักเท่าไหร่ จึงทำให้ Motorola ต้องทำการแปลงโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นน้องให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการออกแบบให้ดูสปอร์ต โค้งมน พร้อมกับการเลือกใช้โทนสีเงินและน้ำเงิน ซึ่งเมื่อได้สัมผัสแล้ว ไม่เพียงแต่จะรู้สึกได้ถึงความมีเสน่ห์ แต่มันยังโดดเด่นจากบรรดาสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปอีกด้วย ตัวเครื่องมีความกว้าง 2.38 นิ้ว สูง 4.58 นิ้ว และหนา 0.54 นิ้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับ Droid X และHTC Evo 4G จะรู้สึกได้ว่า Droid 2 มีขนาดที่เล็กกว่า แต่กลับมีน้ำหนักตัวถึง 5.96 ออนซ์ ซึ่งก็เป็นเพราะตัววัสดุที่นำมาใช้ค่อนข้างแข็งแรงและทนทาน
เริ่มต้นกันที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จะพบกับหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.7 นิ้ว แสดงผลที่ความละเอียดระดับ WVGA แม้หน้าจอจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ แต่ก็มีขนาดที่กำลังพอดีกับการใช้งาน มีความคมชัดและให้สีสันที่ดูมีชีวิตชีวา เมื่อได้ทดลองอ่านข้อความ เปิดเว็บไซต์ รูปภาพ หรือวีดีโอ การแสดงผลก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ยังสนับสนุน pinch-to-zoom และติดตั้งคุณสมบัติการหมุนหน้าจออัตโนมัติตามลักษณะการถือของผู้ใช้อีกด้วย ซึ่งเมื่อได้ลองใช้ทั้งสองฟังก์ชั่นก็พบว่ามันทำงานได้ราบรื่นดีมาก ซึ่งถ้าเลื่อนแป้นพิมพ์ออกมา หน้าจอก็จะทำการเปลี่ยนการแสดงผลเป็นแนวนอนในทันทีอีกด้วย หลังจากที่ได้ทดลองใช้แป้นพิมพ์ก็รู้สึกว่าปุ่มกดมันค่อนข้างที่จะแบนไปหน่อย รวมถึงปุ่ม D-pad ที่อยู่ทางด้ายขวา ที่ทำให้รู้สึกลำบากต่อการใช้งาน ซึ่งเมื่อเทียบกับ Samsung Epic 4G จะรู้สึกได้ว่ามันสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า เนื่องจากมีการเว้นช่องว่างระหว่างปุ่มแต่ละปุ่มนั่นเอง ถัดมาที่ด้านข้างบ้าง ที่ด้านขวาจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่มชัตเตอร์เพื่อการใช้คุณสมบัติกล้องหรือจับภาพ เลื่อนไปที่ด้านบนจะมีปุ่มเปิด/ปิดหรือล๊อคเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาที่ข้างซ้ายก็จะพบกับช่อง Micro-USB และปิดท้ายด้วยกล้องและแฟลช LED คู่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง
User interface
โดยทั่วไปแล้วยังมีการใช้งานที่เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ Droid X แต่จะมีการติดตั้งเครื่องมือ social-network, สภาพอากาศ, คลังภาพ และรายชื่อคนโปรด ไว้ให้ แต่ด้วยขนาดของเครื่องมือที่อาจจะกินพื้นที่ของหน้าจอ ผู้ใช้จึงสามารถที่จะลดขนาดของปุ่มเองได้ ซึ่งทำให้หน้าจอดูโล่งตามากขึ้น นอกจากจะมีเครื่องมือจาก Motorola แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถที่จะเพิ่มเครื่องมือของ Android ปุ่มลัดและโฟลเดอร์ไว้ที่หน้าจอได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ตัวซอฟท์แวร์ Motoblur ที่ใส่ลงมาได้รับการปรับปรุงในหลายจุด จึงส่งผลให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ที่เปลี่ยนใจมาจาก Droid รุ่นพี่ ก็คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับหน้าตาของอินเทอร์เฟสกันสักหน่อย
Features
Motorola Droid 2 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.2 จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Flash Player 10.1, การโทรด้วยบลูทูธ และกล้องได้ดีขึ้น ด้านคุณสมบัติมาตรฐานของสมาร์ทโฟน Android ก็ยังคงรองรับการใช้งานหลายบัญชีอีเมล์ในโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, POP3 และ IMAP รวมถึง social-network ด้วย ซึ่งเมื่อเริ่มต้นใช้งาน ก็จะปรากฏตัวเลือกบัญชีต่างๆ ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ทำการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ หรือถ้าต้องการจะซิงค์อีเมล์ที่ทำงาน ก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มข้อมูลอย่างที่อยู่เซิฟเวอร์ลงไปด้วย เมื่อผู้เขียนได้ทดลองใช้ทั้ง Gmail, Facebook, Outlook Web Access และ Twitter ก็ไม่เจอกับปัญหาใดๆ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งโปรโตคอลสำหรับความปลอดภัยเพื่อป้องกันการควบคุมในระยะไกล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ที่ทำงานอยู่ในองค์กรต่างๆ โดยที่มันจะช่วยป้องกันข้อมูลในโทรศัพท์ให้พ้นจากการสอดแนม
Droid 2 ยังมีคุณสมบัติด้านปฏิทิน ที่จะทำให้คุณสามารถเช็คตารางนัดหมายทั้งหมดได้ภายในครั้งเดียว แถมยังช่วยแจ้งเตือนกิจกรรมต่างๆ และวันเกิดเพื่อนๆ ได้อีกด้วย ซึ่งบรรดานัดหมายต่างๆ ก็จะมีการแยกสีสำหรับแต่ละชื่อบัญชี จึงทำให้สามารถตรวจเช็คได้ง่ายมากขึ้น ด้านการจัดการายชื่อ Droid 2 ได้ติดตั้งคุณสมบัติการรวมข้อมูลของรายชื่อจากอีเมลล์และsocial network มารวมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งก็นับว่ายิ่งทำให้ผู้ใช้สะดวกสะบาย
มาถึงคุณสมบัติด้านเสียงบ้าง Droid 2 รองรับทั้งการใช้งานลำโพง, โทรด่วน, คำสั่งเสียง, ประชุมสาย, Skype, รับส่งข้อความตัวอักษร, รวมถึงติดตั้งบลูทูธเวอร์ชั่น 2.1 , 3G, GPS และWi-Fi นอกเหนือจากแอพพลิเคชั่นมาตราฐานของ Android แล้ว Droid 2 ยังได้มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นพิเศษเพิ่มเติมมาให้ด้วย ซึ่งได้แก่ BlockBuster On Demand, Kindle for Android และเกม Need for Speed Shift เวอร์ชั่นทดลอง แถมยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเด็ดๆ จาก Android Market ที่มีมากกว่า 70,000 แอพฯได้อีกด้วย
Web browsing และ multimedia
ตามที่ได้บอกไปแล้วว่าหนึ่งในความสามารถของ Android เวอร์ชั่นนี้ก็คือการรองรับการใช้งานแฟลชเวอร์ชั่น10.1 ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจเราก็เลยพิสูจน์ด้วยการเปิดวีดีโอจากเว็บไซต์CNET และESPN ซึ่งก็พบว่ามันเป็นไปตามที่โฆษณาไว้จริงๆ แต่อาจจะใช้เวลาในการดาวน์โหลดสักเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเปิดเล่นก็พบว่ามันสามารถเล่นได้ต่อเนื่องและพอดีกับหน้าจอ ขั้นต่อไปจึงทดลองเล่นเกมแฟลชด้วยการเข้าเว็บฯ Kongregate.com และเล่นเกม Pitch Hitter ก็พบว่ามันสนุกและไม่มีการสะดุดให้เสียอารมณ์ โดยรวมแล้วถือว่าประสิทธิภาพการทำงานของ WebKit เบราเซอร์จาก Android ตัวนี้ค่อนข้างมีความสามารถและมีประสิทธิภาพเหมาะกับการทำงานบน Android 2.2 จริงๆ นอกจากความบันเทิงต่างๆ แล้วที่ขาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการรองรับไฟล์เพลงและวีดีโออย่าง MP3, AAC, WMA9, OGG, WMV, MPEG-4 และH.264
(รูปที่ได้จากกล้อง Motorola Droid 2)
มาถึงคุณสมบัติของกล้องกันบ้าง Motorola ไม่ได้ปรับปรุงในส่วนนี้สักเท่าไหร่นัก กล้องของDroid 2 ยังคงมีความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล และแฟลช LED คู่ พร้อมกับออฟชั่นอย่างการถ่ายภาพในโหมดที่แตกต่างกัน, เอฟเฟ็ค, ตรวจจับใบหน้า, การตั้งค่า ISO แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณสมบัติกล้องของ Android ในเวอร์ชันใหม่ก็คือการแสดงเครื่องมือบนหน้าจอ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แต่น่าเสียดายตรงที่ว่า Motorola เลือกที่จะไม่ติดตั้งคุณสมบัตินี้ลงใน Droid 2 แต่ผู้ใช้ก็สามารถที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ได้ด้วยการแตะบนปุ่มที่ด้านขวาบนหน้าจอเพื่อเลื่อนใช้งานเครื่องมือต่างๆ ด้านคุณภาพของไฟล์ที่ได้ภาพก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีความสดใส แต่อยากให้มีความคมชัดมากกว่านี้ และปิดท้ายด้วยการทดลองบันทึกวีดีโอระดับความละเอียดสูง(720x480 pixels) ซึ่งเมื่อได้เปิดเล่นก็ปรากฏว่าไม่มีความชัดเอาเสียเลย
Droid 2 มีหน่วยความจำออนบอร์ดขนาด 8GB รองรับการใส่การ์ด microSD ได้มากถึง 32 GB ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพและวีดีโอ ผ่านทางอีเมล์, ข้อความภาพ, บลูทูธ, เฟซบุ๊ค และอีกหนึ่งวิธี ด้วยการสตรีมไฟล์ต่างๆ จากมือถือของคุณไปสู่อุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับ Digital Living Network Alliance (DLNA) ได้ ซึ่งหากใครไม่คุ้นเคยกับวิธีสตรีมไฟล์ผ่าน DLNA ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถโอนถ่ายข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รูป หรือเพลง จากอุปกรณ์ไปสู่อุปกรณ์ ได้ง่ายๆ ด้วยตัว Droid 2 ที่รองรับคุณสมบัตินี้ จึงทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายไฟล์จากอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับ DLNA อย่าง Xbox 360 ได้ สำหรับสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อด้อยของ Droid 2 ก็คือการที่ไม่มีพอร์ทเชื่อมต่อ HDMI
Performance
เมื่อได้ทำการทดสอบการโทรผ่านเครือข่าย Verizon ในนิวยอร์ก ก็พบว่าคุณภาพเสียงในอยู่ในเกณฑ์ดี หลังจากที่ได้ทดลองเปิดลำโพง ก็รู้สึกว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก ด้วยเสียงที่ดังและชัดเจน จึงทำให้เหมาะกับการสนทนาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ถัดมาจึงได้ทดลองเชื่อมต่อเว็บไชต์CNET ผ่านทางเครือข่าย 3G โดยให้โหลดหน้าเว็บไซต์แบบเวอร์ชั่นเต็ม ก็พบว่าใช้เวลาในการดาวน์โหลด 24 วินาที และทดลองลองดาวน์โหลดคลิปในYouTube ก็ใช้เวลาไม่นานและสามารถเล่นได้โดยไม่มีการBuffer ซ้ำ
อีกจุดที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นก็คือเรื่องของความเร็วโปรเซสเซอร์ Droid 2 ใช้ความเร็วโปรเซสเซอร์ 1GHz TI OMAP จึงทำให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ที่มีความเร็วเพียง 550MHz เท่านั้น จุดหนึ่งของความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ปราศจากปัญหาใดๆ แต่ก็อาจจะช้าบ้างนิดหน่อย เมื่อมีการสับเปลี่ยนระหว่างแอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัว และสุดท้ายผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกม Need for Speed Shift เวอร์ชั่นทดลองที่ติดตั้งมาให้ก็เล่นได้เพลินไม่มีปัญหา
Droid 2 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1400 mAh สามารถสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 9.6 ชั่วโมง และรอรับสายได้ถึง 13 วัน
ข้อดี : มันถูกออกแบบมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น, โปรเซสเซอร์ทำงานได้เร็วมากขึ้น และจุดเด่นที่สำคัญคือ การทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 2.2
ข้อเสีย : Droid 2 ไม่มีการติดตั้งกล้องหน้า,ไม่รองรับคุณสมบัติใหม่ของ Android 2.2 ในด้านการใช้งานกล้อง, ไม่มีพอร์ท HDMI รวมถึงแป้นพิมพ์ที่รู้สึกลำบากเมื่อใช้งาน
ทิ้งท้าย : Motorola Droid 2 ได้ถูกปรับปรุงและพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นในหลายส่วนๆ เหมาะทื่จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีแป้นพิมพ์
คะแนนจากผู้เขียน
การออกแบบ 9/10
คุณสมบัติ 8/10
ประสิทธิภาพ 8/10
ที่มา : http://reviews.cnet.com/motorola-droid-2-review?tag=centerColumnArea1.1
Motorola Droid 2 สมาร์ทโฟนขุมพลัง Android
(หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ทางผู้แปลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)
ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมาปีกว่าแล้วหลังจาก Motorola Droid รุ่นแรกวางจำหน่ายในท้องตลาด แต่อย่างที่เห็นกันว่า ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ระบบปฏิบัติการ Android ค่อนข้างที่จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ง่ายและเหมาะกับสมาร์ทโฟน จึงทำให้เกิดสมาร์ทโฟนทายาทที่มีชื่อว่า Motorola Droid 2 ออกมา ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกอัพเกรดมาจาก Droid รุ่นแรก ซึ่งได้มีการปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยมากขึ้น, แป้นพิมพ์ที่ดีกว่าเดิม, โปรเซสเซอร์ที่ทำงานได้ฉับไว และหัวใจสำคัญก็คือการทำงานด้วย Android OS เวอร์ชั่นล่าสุด แต่ก็ยังมีบางจุดที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับต้องอยู่ดี และน่าจะเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการได้ไม่ยาก แถมมีข่าวว่าในช่วงเดือนกันยายน ผู้ให้บริการเครือข่าย Verizon จะวางจำหน่าย Motorola Droid 2 แบบ limited edition โดยใช้ชื่อรุ่นว่า R2-D2 ที่ภายในแพคเกจจะประกอบไปด้วยความเป็น Star Wars และหน้าตาของโทรศัพท์ที่เหมือน R2-D2 อีกด้วย
Design
หลังจากที่เปิดตัว Motorola Droid เวอร์ชั่นแรก เรียกได้ว่าไม่ค่อยได้รับความดึงดูดใจจากผู้ใช้สักเท่าไหร่ จึงทำให้ Motorola ต้องทำการแปลงโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นน้องให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการออกแบบให้ดูสปอร์ต โค้งมน พร้อมกับการเลือกใช้โทนสีเงินและน้ำเงิน ซึ่งเมื่อได้สัมผัสแล้ว ไม่เพียงแต่จะรู้สึกได้ถึงความมีเสน่ห์ แต่มันยังโดดเด่นจากบรรดาสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปอีกด้วย ตัวเครื่องมีความกว้าง 2.38 นิ้ว สูง 4.58 นิ้ว และหนา 0.54 นิ้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับ Droid X และHTC Evo 4G จะรู้สึกได้ว่า Droid 2 มีขนาดที่เล็กกว่า แต่กลับมีน้ำหนักตัวถึง 5.96 ออนซ์ ซึ่งก็เป็นเพราะตัววัสดุที่นำมาใช้ค่อนข้างแข็งแรงและทนทาน
เริ่มต้นกันที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จะพบกับหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.7 นิ้ว แสดงผลที่ความละเอียดระดับ WVGA แม้หน้าจอจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ แต่ก็มีขนาดที่กำลังพอดีกับการใช้งาน มีความคมชัดและให้สีสันที่ดูมีชีวิตชีวา เมื่อได้ทดลองอ่านข้อความ เปิดเว็บไซต์ รูปภาพ หรือวีดีโอ การแสดงผลก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ยังสนับสนุน pinch-to-zoom และติดตั้งคุณสมบัติการหมุนหน้าจออัตโนมัติตามลักษณะการถือของผู้ใช้อีกด้วย ซึ่งเมื่อได้ลองใช้ทั้งสองฟังก์ชั่นก็พบว่ามันทำงานได้ราบรื่นดีมาก ซึ่งถ้าเลื่อนแป้นพิมพ์ออกมา หน้าจอก็จะทำการเปลี่ยนการแสดงผลเป็นแนวนอนในทันทีอีกด้วย หลังจากที่ได้ทดลองใช้แป้นพิมพ์ก็รู้สึกว่าปุ่มกดมันค่อนข้างที่จะแบนไปหน่อย รวมถึงปุ่ม D-pad ที่อยู่ทางด้ายขวา ที่ทำให้รู้สึกลำบากต่อการใช้งาน ซึ่งเมื่อเทียบกับ Samsung Epic 4G จะรู้สึกได้ว่ามันสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า เนื่องจากมีการเว้นช่องว่างระหว่างปุ่มแต่ละปุ่มนั่นเอง ถัดมาที่ด้านข้างบ้าง ที่ด้านขวาจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่มชัตเตอร์เพื่อการใช้คุณสมบัติกล้องหรือจับภาพ เลื่อนไปที่ด้านบนจะมีปุ่มเปิด/ปิดหรือล๊อคเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาที่ข้างซ้ายก็จะพบกับช่อง Micro-USB และปิดท้ายด้วยกล้องและแฟลช LED คู่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง
User interface
โดยทั่วไปแล้วยังมีการใช้งานที่เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ Droid X แต่จะมีการติดตั้งเครื่องมือ social-network, สภาพอากาศ, คลังภาพ และรายชื่อคนโปรด ไว้ให้ แต่ด้วยขนาดของเครื่องมือที่อาจจะกินพื้นที่ของหน้าจอ ผู้ใช้จึงสามารถที่จะลดขนาดของปุ่มเองได้ ซึ่งทำให้หน้าจอดูโล่งตามากขึ้น นอกจากจะมีเครื่องมือจาก Motorola แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถที่จะเพิ่มเครื่องมือของ Android ปุ่มลัดและโฟลเดอร์ไว้ที่หน้าจอได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ตัวซอฟท์แวร์ Motoblur ที่ใส่ลงมาได้รับการปรับปรุงในหลายจุด จึงส่งผลให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ที่เปลี่ยนใจมาจาก Droid รุ่นพี่ ก็คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับหน้าตาของอินเทอร์เฟสกันสักหน่อย
Features
Motorola Droid 2 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.2 จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Flash Player 10.1, การโทรด้วยบลูทูธ และกล้องได้ดีขึ้น ด้านคุณสมบัติมาตรฐานของสมาร์ทโฟน Android ก็ยังคงรองรับการใช้งานหลายบัญชีอีเมล์ในโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, POP3 และ IMAP รวมถึง social-network ด้วย ซึ่งเมื่อเริ่มต้นใช้งาน ก็จะปรากฏตัวเลือกบัญชีต่างๆ ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ทำการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ หรือถ้าต้องการจะซิงค์อีเมล์ที่ทำงาน ก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มข้อมูลอย่างที่อยู่เซิฟเวอร์ลงไปด้วย เมื่อผู้เขียนได้ทดลองใช้ทั้ง Gmail, Facebook, Outlook Web Access และ Twitter ก็ไม่เจอกับปัญหาใดๆ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งโปรโตคอลสำหรับความปลอดภัยเพื่อป้องกันการควบคุมในระยะไกล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ที่ทำงานอยู่ในองค์กรต่างๆ โดยที่มันจะช่วยป้องกันข้อมูลในโทรศัพท์ให้พ้นจากการสอดแนม
Droid 2 ยังมีคุณสมบัติด้านปฏิทิน ที่จะทำให้คุณสามารถเช็คตารางนัดหมายทั้งหมดได้ภายในครั้งเดียว แถมยังช่วยแจ้งเตือนกิจกรรมต่างๆ และวันเกิดเพื่อนๆ ได้อีกด้วย ซึ่งบรรดานัดหมายต่างๆ ก็จะมีการแยกสีสำหรับแต่ละชื่อบัญชี จึงทำให้สามารถตรวจเช็คได้ง่ายมากขึ้น ด้านการจัดการายชื่อ Droid 2 ได้ติดตั้งคุณสมบัติการรวมข้อมูลของรายชื่อจากอีเมลล์และsocial network มารวมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งก็นับว่ายิ่งทำให้ผู้ใช้สะดวกสะบาย
มาถึงคุณสมบัติด้านเสียงบ้าง Droid 2 รองรับทั้งการใช้งานลำโพง, โทรด่วน, คำสั่งเสียง, ประชุมสาย, Skype, รับส่งข้อความตัวอักษร, รวมถึงติดตั้งบลูทูธเวอร์ชั่น 2.1 , 3G, GPS และWi-Fi นอกเหนือจากแอพพลิเคชั่นมาตราฐานของ Android แล้ว Droid 2 ยังได้มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นพิเศษเพิ่มเติมมาให้ด้วย ซึ่งได้แก่ BlockBuster On Demand, Kindle for Android และเกม Need for Speed Shift เวอร์ชั่นทดลอง แถมยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเด็ดๆ จาก Android Market ที่มีมากกว่า 70,000 แอพฯได้อีกด้วย
Web browsing และ multimedia
ตามที่ได้บอกไปแล้วว่าหนึ่งในความสามารถของ Android เวอร์ชั่นนี้ก็คือการรองรับการใช้งานแฟลชเวอร์ชั่น10.1 ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจเราก็เลยพิสูจน์ด้วยการเปิดวีดีโอจากเว็บไซต์CNET และESPN ซึ่งก็พบว่ามันเป็นไปตามที่โฆษณาไว้จริงๆ แต่อาจจะใช้เวลาในการดาวน์โหลดสักเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเปิดเล่นก็พบว่ามันสามารถเล่นได้ต่อเนื่องและพอดีกับหน้าจอ ขั้นต่อไปจึงทดลองเล่นเกมแฟลชด้วยการเข้าเว็บฯ Kongregate.com และเล่นเกม Pitch Hitter ก็พบว่ามันสนุกและไม่มีการสะดุดให้เสียอารมณ์ โดยรวมแล้วถือว่าประสิทธิภาพการทำงานของ WebKit เบราเซอร์จาก Android ตัวนี้ค่อนข้างมีความสามารถและมีประสิทธิภาพเหมาะกับการทำงานบน Android 2.2 จริงๆ นอกจากความบันเทิงต่างๆ แล้วที่ขาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการรองรับไฟล์เพลงและวีดีโออย่าง MP3, AAC, WMA9, OGG, WMV, MPEG-4 และH.264
(รูปที่ได้จากกล้อง Motorola Droid 2)
มาถึงคุณสมบัติของกล้องกันบ้าง Motorola ไม่ได้ปรับปรุงในส่วนนี้สักเท่าไหร่นัก กล้องของDroid 2 ยังคงมีความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล และแฟลช LED คู่ พร้อมกับออฟชั่นอย่างการถ่ายภาพในโหมดที่แตกต่างกัน, เอฟเฟ็ค, ตรวจจับใบหน้า, การตั้งค่า ISO แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณสมบัติกล้องของ Android ในเวอร์ชันใหม่ก็คือการแสดงเครื่องมือบนหน้าจอ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แต่น่าเสียดายตรงที่ว่า Motorola เลือกที่จะไม่ติดตั้งคุณสมบัตินี้ลงใน Droid 2 แต่ผู้ใช้ก็สามารถที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ได้ด้วยการแตะบนปุ่มที่ด้านขวาบนหน้าจอเพื่อเลื่อนใช้งานเครื่องมือต่างๆ ด้านคุณภาพของไฟล์ที่ได้ภาพก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีความสดใส แต่อยากให้มีความคมชัดมากกว่านี้ และปิดท้ายด้วยการทดลองบันทึกวีดีโอระดับความละเอียดสูง(720x480 pixels) ซึ่งเมื่อได้เปิดเล่นก็ปรากฏว่าไม่มีความชัดเอาเสียเลย
Droid 2 มีหน่วยความจำออนบอร์ดขนาด 8GB รองรับการใส่การ์ด microSD ได้มากถึง 32 GB ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพและวีดีโอ ผ่านทางอีเมล์, ข้อความภาพ, บลูทูธ, เฟซบุ๊ค และอีกหนึ่งวิธี ด้วยการสตรีมไฟล์ต่างๆ จากมือถือของคุณไปสู่อุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับ Digital Living Network Alliance (DLNA) ได้ ซึ่งหากใครไม่คุ้นเคยกับวิธีสตรีมไฟล์ผ่าน DLNA ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถโอนถ่ายข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รูป หรือเพลง จากอุปกรณ์ไปสู่อุปกรณ์ ได้ง่ายๆ ด้วยตัว Droid 2 ที่รองรับคุณสมบัตินี้ จึงทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายไฟล์จากอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับ DLNA อย่าง Xbox 360 ได้ สำหรับสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อด้อยของ Droid 2 ก็คือการที่ไม่มีพอร์ทเชื่อมต่อ HDMI
Performance
เมื่อได้ทำการทดสอบการโทรผ่านเครือข่าย Verizon ในนิวยอร์ก ก็พบว่าคุณภาพเสียงในอยู่ในเกณฑ์ดี หลังจากที่ได้ทดลองเปิดลำโพง ก็รู้สึกว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก ด้วยเสียงที่ดังและชัดเจน จึงทำให้เหมาะกับการสนทนาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ถัดมาจึงได้ทดลองเชื่อมต่อเว็บไชต์CNET ผ่านทางเครือข่าย 3G โดยให้โหลดหน้าเว็บไซต์แบบเวอร์ชั่นเต็ม ก็พบว่าใช้เวลาในการดาวน์โหลด 24 วินาที และทดลองลองดาวน์โหลดคลิปในYouTube ก็ใช้เวลาไม่นานและสามารถเล่นได้โดยไม่มีการBuffer ซ้ำ
อีกจุดที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นก็คือเรื่องของความเร็วโปรเซสเซอร์ Droid 2 ใช้ความเร็วโปรเซสเซอร์ 1GHz TI OMAP จึงทำให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ที่มีความเร็วเพียง 550MHz เท่านั้น จุดหนึ่งของความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ปราศจากปัญหาใดๆ แต่ก็อาจจะช้าบ้างนิดหน่อย เมื่อมีการสับเปลี่ยนระหว่างแอพพลิเคชั่นหลายๆ ตัว และสุดท้ายผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกม Need for Speed Shift เวอร์ชั่นทดลองที่ติดตั้งมาให้ก็เล่นได้เพลินไม่มีปัญหา
Droid 2 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1400 mAh สามารถสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 9.6 ชั่วโมง และรอรับสายได้ถึง 13 วัน
ข้อดี : มันถูกออกแบบมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น, โปรเซสเซอร์ทำงานได้เร็วมากขึ้น และจุดเด่นที่สำคัญคือ การทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 2.2
ข้อเสีย : Droid 2 ไม่มีการติดตั้งกล้องหน้า,ไม่รองรับคุณสมบัติใหม่ของ Android 2.2 ในด้านการใช้งานกล้อง, ไม่มีพอร์ท HDMI รวมถึงแป้นพิมพ์ที่รู้สึกลำบากเมื่อใช้งาน
ทิ้งท้าย : Motorola Droid 2 ได้ถูกปรับปรุงและพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นในหลายส่วนๆ เหมาะทื่จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีแป้นพิมพ์
คะแนนจากผู้เขียน
การออกแบบ 9/10
คุณสมบัติ 8/10
ประสิทธิภาพ 8/10
ที่มา : http://reviews.cnet.com/motorola-droid-2-review?tag=centerColumnArea1.1