บทความนี้แปลจาก RIM BlackBerry Torch 9800 (AT&T) โดย Bonnie Cha http://reviews.cnet.com/blackberry-torch-review?tag=topStories3#reviewPage1
(หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผู้แปลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
ด้วยความที่ Blackberry กำลังได้รับความนิยมท่วมถ้นอย่างไม่ขาดสาย จึงเป็นเหตุให้ RIM จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่เกมการแข่งขันและชิงชัยความเป็นที่หนึ่ง และเมื่อช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า Blackberry ก็ได้ทำการส่งวีดีโอพรีวิวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ออกมาเรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว ถึงตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาทำการทดสอบระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่นี้กันแบบจริงๆ จังๆ
Blackberry Torch 9800 เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6 โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 12 สิงหาคมเป็นครั้งแรก สนนราคา 199.99 เหรียญ พร้อมกับสัญญาการใช้เป็นเวลาสองปี และทางผู้เขียนก็ได้รับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาทดสอบก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกเมื่อมองไปรอบๆ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นแบบสไลด์ ซึ่งเป็นตัวแรกจาก RIM พร้อมกับนำหน้าจอทัชสกรีนและแป้นพิมพ์แบบเลื่อนมารวมเข้าไว้ด้วยกัน มีดีไซน์ที่กะทัดรัด เวอร์ชั่นใหม่ของ OS ได้เพิ่มเติมสิ่งที่จำเป็นเข้ามา อย่างการใช้งานเว็บเบราเซอร์ มัลติมีเดีย ยูเซอร์อินเทอร์เฟสที่ดีขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า RIM จะไม่ได้ทำการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลและโปรเซสเซอร์ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เหล่าสาวก Blackberry ก็พอใจแล้ว
ด้านการออกแบบ
Torch 9800 ถูกออกแบบจากแนวความคิดใหม่ของ RIM เป็นมือถือแบบสไลด์ตัวแรกของบริษัท มันคงไม่ได้เป็นมือถือที่ถูกออกแบบมาเป็นครั้งเดียว แต่มันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรี่ส์ใหม่ RIM และ AT&T ได้เริ่มต้นออกแบบมือถือโดยใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง สิ่งที่เป็นจุดเด่นของการออกแบบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการรวมเข้าด้วยกันของหน้าจอทัชสกรีน แป้นพิมพ์ และtrackpad ที่ดีที่สุดในโลก แต่มันยังคงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่เคยใช้หรือใช้ Blackberry อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้เขียนคิดว่า RIM ประสบความสำเร็จในด้านการออกแบบแล้ว
รูปร่างของ Torch 9800 มีขนาดเล็กกว่ารุ่น Storm และBold เล็กน้อย มีความสูง 4.4 นิ้ว กว้าง 2.4 นิ้ว หนา 0.6 นิ้ว และมีน้ำหนัก 5.7 ออนซ์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนัก ให้ความรู้สึกทนทานแต่อ่อนนุ่มเมื่อสัมผัสกับด้านหลัง ด้วยความที่มีขนาดตัวสั้นและบางจึงทำให้รู้สึกสบายขณะพกใส่กระเป๋ากางเกง
ด้านหน้า Torch มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ VGA 480X360 ซึ่งให้การแสดงผลที่ชัดเจนและสว่างเพียงพอสำหรับการอ่านข้อความและดูเว็บไซต์ รูปภาพ วีดีโอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งสมาร์ทโฟนในท้องตลาดปัจจุบันนี้อย่าง HTC Droid Incredible และ Samsung Captivate ด้วยผลของความละเอียดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ Torch ดูด้อยกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการที่ Torch ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี SurePress เหมือนอย่างรุ่นStorm
ส่วนสำคัญ ทัชสกรีนสามารถตอบสนองได้ดี สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นได้เร็วทันใจเมื่อสัมผัสกับไอคอนบนจอ ด้านการเลื่อนเป็นการเลื่อนแบบ pinch-to-zoom ไม่ราบรื่นหรือรวดเร็วเท่ากับเครื่องอื่นๆ ติดตั้งเซ็นเซอร์ที่หน้าจอ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการกดปุ่มผิดในขณะที่สนทนา และเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างรวดเร็วเมื่อคุณหมุนเครื่องโทรศัพท์ Torch สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้เหมาะสำหรับการเขียนข้อความแบบเร่งด่วน
ตัวกลไกเพื่อเลื่อนแป้นพิมพ์ให้ความรู้สึกพอดีและปลอดภัยเมื่อเลื่อนเก็บ มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์พอดีเมื่อเปิดใช้งาน ด้วยความที่ตัวแป้นพิมพ์มีขนาดที่บาง จึงทำให้เวลาที่พิมพ์ไม่รู้สึกเหมือนอย่างรุ่น Bold แต่ตัวปุ่มกดต่างๆ ก็นับว่ามีความแข็งแรงและเหมาะสม และขอชื่นชมกับการที่ RIM เว้นพื้นที่ช่องหว่างระหว่างแถวด้านบนของปุ่มกดกับขอบล่างของหน้าจอ เพื่อป้องกันนิ้วโป้งของผู้ใช้จะไปสัมผัสกับขอบล่างของหน้าจอ แต่โดยรวมแล้ว Torch สะดวกต่อการพิมพ์ข้อความ สำหรับผู้ใช้ที่มีนิ้วโป้งขนาดใหญ่ก็คงจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวสักระยะ
ด้านล่างของหน้าจอ จะพบกับปุ่มต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วอย่างปุ่มรับสายและวางสาย ปุ่มเข้าสู่เมนู BlackBerry ปุ่มย้อนกลับ และTrackpad สำหรับปุ่มล๊อคและปิดเสียงจะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ถัดมาที่ด้านขวาจะพบกับช่องเสียบหูฟังขนาด3.5 มิลลิเมตร ปุ่มปรับเสียง และปุ่มปรับแต่งการใช้งาน ปุ่มเปิดการใช้งานกล้องหรือจับภาพในขณะถ่ายรูป มีช่องเสียบ Micro-USB ที่ด้านซ้าย ด้านหลังประกอบด้วยกล้อง และไฟแฟลช ช่องใส่การ์ด microSD จะอยู่ที่ด้านหลังของแบตเตอรี่ สำหรับภายในกล่องจะพบกับอะแดปเตอร์, สาย USB, microSD ขนาด 4GB และหูฟัง
ด้านซอฟท์แวร์
Torch เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6 ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า RIM ต้องการที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ควบคู่กับความคุ้นเคยให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งมีสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าแทบจะเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่การใส่คุณสมบัติใหม่ๆ เข้าไปเท่านั้น
เริ่มแรก ผู้ใช้จะสามารถสังเกตได้ตั้งแต่หน้าจอหลักแบบใหม่ ด้านบนจะมีเมนู Quick Access ที่จะแสดงวันที่ เวลา สัญญาณ ระดับแบตเตอรี่ และให้ผู้ใช้จัดการการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ด้านล่างจะมีแถบการแจ้งเตือน ที่รวมถึงการกดปุ่มเดียวแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในโทรศัพท์ และค้นหา มันจะแจ้งเตือนข้อความใหม่ สายที่ไม่ได้รับ ตารางนัดหมายที่ใกล้จะถึง เป็นต้น เมื่อผู้ใช้แตะที่แถบดังกล่าวมันก็จะแสดงรายละเอียดนั้นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
โดยรวมแล้ว Torch 9800 ทำงานได้อยู่ในเกณฑ์ดี เข้าถึงและจัดการแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้โดยง่าย และปรับปรุงเพื่อการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บเบราเซอร์ และมัลติมีเดีย ทำให้รู้สึกได้เลยว่า RIM ได้เปรียบจากประสิทธิภาพของหน้าจอทัชสกรีนในเวลานี้ ตรงกันข้ามกับรุ่น Storm ที่ยังรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ
จากทั้งหมดที่เขียนมา อีกสิ่งที่ชื่นชอบไม่แพ้กันก็คือ การที่ BlackBerry OS 6 เพิ่มการค้นหาอเนกประสงค์ มาด้วย ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลที่ใกล้เคียงในทั้งหมดโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อ ข้อความ ปฏิทิน เพลง หรือรูปภาพ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาได้จากทั้ง Google, YouTube, BlackBerry App World และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นมันจะทำให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด
ด้านคุณสมบัติ
Torch 9800 รองรับการใช้ 4 คลื่นความถี่, 3G, Bluetooth 2.1, Wi-Fi และ GPS คุณสมบัติมาตรฐานอื่นๆ อย่างลำโพง, โทรออกด้วยเสียง, การโทรอัจฉริยะ, การประชุมสาย,โทรด่วน, ข้อความตัวอักษรและรูปภาพ ขาดไม่ได้กับการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนๆ ด้วย BlackBerry Messenger เช่นเดียวกับโปรแกรมสนทนาอย่าง Windows Live, Yahoo, Google Talk และAIM ที่ติดตั้งไว้ในโทรศัพท์เรียบร้อย อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการรับส่งเมลล์ Torch 9800 สามารถซิงค์อีเมลล์บริษัทโดยผ่าน BlackBerry Enterprise Server(BES) รองรับการทำงาน Microsoft Exchange, IBM Lotus Domino หรือNovell GroupWise ทำให้สามารถส่งเมลล์บริษัทได้อย่างทันใจ และเมื่อเร็วๆนี้ RIM ก็ได้เปิดตัว BlackBerry Enterprise Server Express ซึ่งเป็นบริการฟรี แต่จำกัดการใช้งานที่ช่วยให้บุคคลและธุรกิจขนาดเล็กสามารถซิงค์ข้อมูล รายชื่อ และเข้าถึงไฟล์งานบนเครือข่ายของบริษัทได้
ด้านอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเข้าอีเมลล์ได้ถึง 10 ชื่อบัญชี ไม่ว่าจะเป็น POP3 หรือ IMAP4 ตั้งค่าให้แยกกล่องจดหมายหรือรวมกันไว้ก็ได้ มีตัวช่วยเหลือการติดตั้งเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลได้โดยป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ในขณะที่ทดสอบ ผู้เขียนได้ทำการซิงค์ข้อมูลจาก Gmail และ Yahoo ก็ไม่พบปัญหาใดๆ
ณ วันนี้ การใช้งานอีเมลล์ในมือถืออย่างเดียวคงไม่พอ เพราะตอนนี้กระแส social networks ที่มาแรง ซึ่ง Torch ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยแอพพลิเคชั่น Social Feeds แอพฯ ที่รวบรวมความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้แอพพลิเคชั่นดึงข้อมูลมาจากเว็บฯ ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือTwitter พร้อมกับการตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือน
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ตัวนี้ได้จาก BlackBerry App World 2.0. แหล่งรวมแอพฯกว่า 9,000 ตัว ถึงจะน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับ iTunes และAndroid Market แต่การใช้งานใน App World รองรับการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ให้บริการเครือข่าย และบริการ BlackBerry ID ที่จะติดตามการดาวน์โหลดและค่าธรรมเนียมเมื่อคุณมี Blackberry เครื่องใหม่ เพียงแค่คุณป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านมันก็จะทำการดาวน์โหลดแอพฯ ให้โดยอัตโนมัติลงบนเครื่องใหม่ของคุณ ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในขณะนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับ OS6 ได้ แต่สิ่งที่แย่ก็คือ การที่ผู้ใช้จะต้องบันทึกแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลงบนหน่วยความจำโทรศัพท์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้านความบันเทิง
หลังจากที่ RIM ได้ทำการปรับปรุงเว็บเบราเซอร์ไปก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ มันสามารถใช้งานได้ง่ายและเร็วขึ้น อย่างการบุ๊คมาร์คหน้าเว็บไซต์ สนับสนุน pinch-to-zoom ถ้าผู้ใช้ดับเบิ้ลแท๊บส่วนใดส่วนหนึ่งในหน้าเว็บเพจก็จะกลายเป็นซูมเข้า ด้านเบราเซอร์เมื่อมีการเรียกหน้าเว็บขึ้นมาแล้ว พวกตัวอักษรต่างๆก็มีขนาดที่พอดีกับหน้าจอ อีกสิ่งที่ถูกปรับปรุงก็คือการแสดง HTML และJavaScript ที่รองรับ HTML5 และCSS3 เป็นบางส่วน น่าเสียดายที่ Torch ยังคงไม่รองรับการแสดงFlash
เมื่อใช้งานจริงผู้เขียนรู้สึกว่า เบราเซอร์ตัวนี้ทำงานได้ดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า สามารถตั้งค่าเบราเซอร์ให้มีการย่อขนาดเว็บเพจที่ดูอยู่ในปัจจุบันให้เล็กลงและแสดงเป็นรูปภาพขนาดเล็กสำหรับหน้าเว็บเพจที่เปิดอยู่ทั้งหมด เพื่อค้นหาหน้าที่คุณต้องการก็ได้
เมื่อได้ทดสอบความเร็วเทียบกับมือถืออื่นๆ พบว่าเบราเซอร์ของ BlackBerry ไม่ได้มีความเร็วไปมากกว่าเบราเซอร์ของมือถือยี่ห้ออื่นๆ สักเท่าใด เมื่อทดลองเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi และทดลองโหลดหน้าเว็บ Huffington Post Torch ใช้เวลาในการดาวน์โหลด50 วินาที ในขณะที่เว็บไซต์อื่นๆ อย่าง CNN และESPN ใช้เวลา7 และ6 วินาทีตามลำดับ ซึ่งเมื่อเทียบกับเบราเซอร์ของ Android ในNexus One กลับใช้เวลาเพียงแค่ 15 , 3 และ 4 วินาทีเท่านั้น สำหรับเบราเซอร์Safari ใน iPhone 3GS ใช้เวลาที่ 35, 6 และ5 วินาที ซึ่งก็ยังน้อยกว่าเบราเซอร์ Blackberry
ด้านความบันเทิง Torch รองรับการใช้งาน MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, FLAC ,OGG ,MPEG4, H.263, H.264 และ WMV BlackBerry Desktop Software 6 เวอร์ชั่นใหม่สามารถให้ผู้ใช้ซิงค์ไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ จากWindows Media Player หรือiTunes ได้โดยผ่าน Wi-Fi Music Sync ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพลงเข้าสู่สมาร์ทโฟนภายในบ้านได้ด้วยWi-Fi มีหน่วยความจำภายใน 4GB มาพร้อมกับการ์ดmicroSD 4GB ที่แถมมาในกล่องให้อีกด้วย ซึ่งสามารถใส่เพิ่มได้สูงสุดถึง 32GB
รูปภาพจากล้อง Torch 9800
Torch 9800 มาพร้อมกับกล้องขนาด 5ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ซูม2เท่า และแฟลช LED ซึ่งเป็นกล้องความละเอียดสูงสุดที่ RIM เคยใส่่ลงในโทรศัพท์ พร้อมกับเครื่องมือสำหรับการถ่ายรูปในที่ร่มและการจับภาพขณะเคลื่อนไหว จึงทำให้Torch ตัวนี้มีฟังก์ชั่นการตรวจจับใบหน้า การถ่ายโหมดต่างๆ และอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายขึ้น
ด้านประสิทธิภาพ
เราได้ทดสอบมือถือกับสี่คลื่นความถี่ (GSM 850/900/1800/1900) ในนิวยอร์ก โดยใช้เครือข่าย AT&T ก็นับว่าให้คุณภาพที่ดี ด้านของเสียงได้ยินชัดเจนและมีเสียงรบกวนรอบข้างเล็กน้อย บางครั้งก็อาจจะมีสัญญาณขาดหาย ทำให้มีเสียงเหมือนหุ่นยนต์บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้การสนทนาต้องชะงักลง ด้านลำโพงก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า แต่จากการใช้งานหลายๆ คนบอกว่าได้ยินเสียงสะท้อนกลับเหมือนกัน Torch 9800 ทำงานบนโปรเซสเซอร์ Marvell 624MHZ สามารถสนทนาต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมงสำหรับ 2G และ 5.8 ชั่วโมง สำหรับ3G รอรับสายได้ถึง 17 วัน (2G) และ13 วัน(3G) จากการทดสอบเมื่อใช้แบตเตอรี่จนหมด พบว่าสามารถสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง แต่ถ้าหากมีการใช้งานปานกลางอย่าง เข้าอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ดูวีดีโอ หรือรับส่งอีเมลล์ ก็จะสามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งวันก่อนจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตอีกครั้ง
ข้อดี : เป็นการรวมเอาหน้าจอทัชสกรีนและแป้นพิมพ์แบบ QWERTY มาเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยตัว OS เวอร์ชั่น 6 มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งยูเซอร์อินเทอร์เฟส การเชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ต และด้านความบันเทิง
ข้อเสีย : ขณะใช้งานตัวเครื่องมีการทำงานหน่วงบ้าง หน้าจอความละเอียดที่ค่อนข้างต่ำ แอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถบันทึกได้เฉพาะหน่าวยความจำโทรศัพท์เท่านั้น และกล้องสามารถถ่ายวีดีโอได้แค่ระดับ VGA
สรุป : แม้ว่าการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพจะทำได้ดีขึ้น แต่ BlackBerry Torch 9800 และBlackBerry OS 6 จำเป็นที่จะต้องได้รับการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอีกมากเพื่อการแข่งขันในอนาคต
คะแนนจากผู้เขียน
ด้านการออกแบบ 8 / 10
ด้านคุณสมบัติ 8 / 10
ด้านประสิทธิภาพ 8 / 10
สัมผัสจับต้อง BlackBerry Torch 9800 ก่อนตัวจริงจะมา
บทความนี้แปลจาก RIM BlackBerry Torch 9800 (AT&T) โดย Bonnie Cha http://reviews.cnet.com/blackberry-torch-review?tag=topStories3#reviewPage1
(หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผู้แปลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
ด้วยความที่ Blackberry กำลังได้รับความนิยมท่วมถ้นอย่างไม่ขาดสาย จึงเป็นเหตุให้ RIM จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่เกมการแข่งขันและชิงชัยความเป็นที่หนึ่ง และเมื่อช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า Blackberry ก็ได้ทำการส่งวีดีโอพรีวิวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ออกมาเรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว ถึงตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาทำการทดสอบระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่นี้กันแบบจริงๆ จังๆ
Blackberry Torch 9800 เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6 โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 12 สิงหาคมเป็นครั้งแรก สนนราคา 199.99 เหรียญ พร้อมกับสัญญาการใช้เป็นเวลาสองปี และทางผู้เขียนก็ได้รับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาทดสอบก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกเมื่อมองไปรอบๆ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นแบบสไลด์ ซึ่งเป็นตัวแรกจาก RIM พร้อมกับนำหน้าจอทัชสกรีนและแป้นพิมพ์แบบเลื่อนมารวมเข้าไว้ด้วยกัน มีดีไซน์ที่กะทัดรัด เวอร์ชั่นใหม่ของ OS ได้เพิ่มเติมสิ่งที่จำเป็นเข้ามา อย่างการใช้งานเว็บเบราเซอร์ มัลติมีเดีย ยูเซอร์อินเทอร์เฟสที่ดีขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า RIM จะไม่ได้ทำการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลและโปรเซสเซอร์ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เหล่าสาวก Blackberry ก็พอใจแล้ว
ด้านการออกแบบ
Torch 9800 ถูกออกแบบจากแนวความคิดใหม่ของ RIM เป็นมือถือแบบสไลด์ตัวแรกของบริษัท มันคงไม่ได้เป็นมือถือที่ถูกออกแบบมาเป็นครั้งเดียว แต่มันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรี่ส์ใหม่ RIM และ AT&T ได้เริ่มต้นออกแบบมือถือโดยใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง สิ่งที่เป็นจุดเด่นของการออกแบบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการรวมเข้าด้วยกันของหน้าจอทัชสกรีน แป้นพิมพ์ และtrackpad ที่ดีที่สุดในโลก แต่มันยังคงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่เคยใช้หรือใช้ Blackberry อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้เขียนคิดว่า RIM ประสบความสำเร็จในด้านการออกแบบแล้ว
รูปร่างของ Torch 9800 มีขนาดเล็กกว่ารุ่น Storm และBold เล็กน้อย มีความสูง 4.4 นิ้ว กว้าง 2.4 นิ้ว หนา 0.6 นิ้ว และมีน้ำหนัก 5.7 ออนซ์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนัก ให้ความรู้สึกทนทานแต่อ่อนนุ่มเมื่อสัมผัสกับด้านหลัง ด้วยความที่มีขนาดตัวสั้นและบางจึงทำให้รู้สึกสบายขณะพกใส่กระเป๋ากางเกง
ด้านหน้า Torch มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ VGA 480X360 ซึ่งให้การแสดงผลที่ชัดเจนและสว่างเพียงพอสำหรับการอ่านข้อความและดูเว็บไซต์ รูปภาพ วีดีโอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งสมาร์ทโฟนในท้องตลาดปัจจุบันนี้อย่าง HTC Droid Incredible และ Samsung Captivate ด้วยผลของความละเอียดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ Torch ดูด้อยกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการที่ Torch ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี SurePress เหมือนอย่างรุ่นStorm
ส่วนสำคัญ ทัชสกรีนสามารถตอบสนองได้ดี สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นได้เร็วทันใจเมื่อสัมผัสกับไอคอนบนจอ ด้านการเลื่อนเป็นการเลื่อนแบบ pinch-to-zoom ไม่ราบรื่นหรือรวดเร็วเท่ากับเครื่องอื่นๆ ติดตั้งเซ็นเซอร์ที่หน้าจอ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการกดปุ่มผิดในขณะที่สนทนา และเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างรวดเร็วเมื่อคุณหมุนเครื่องโทรศัพท์ Torch สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้เหมาะสำหรับการเขียนข้อความแบบเร่งด่วน
ตัวกลไกเพื่อเลื่อนแป้นพิมพ์ให้ความรู้สึกพอดีและปลอดภัยเมื่อเลื่อนเก็บ มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์พอดีเมื่อเปิดใช้งาน ด้วยความที่ตัวแป้นพิมพ์มีขนาดที่บาง จึงทำให้เวลาที่พิมพ์ไม่รู้สึกเหมือนอย่างรุ่น Bold แต่ตัวปุ่มกดต่างๆ ก็นับว่ามีความแข็งแรงและเหมาะสม และขอชื่นชมกับการที่ RIM เว้นพื้นที่ช่องหว่างระหว่างแถวด้านบนของปุ่มกดกับขอบล่างของหน้าจอ เพื่อป้องกันนิ้วโป้งของผู้ใช้จะไปสัมผัสกับขอบล่างของหน้าจอ แต่โดยรวมแล้ว Torch สะดวกต่อการพิมพ์ข้อความ สำหรับผู้ใช้ที่มีนิ้วโป้งขนาดใหญ่ก็คงจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวสักระยะ
ด้านล่างของหน้าจอ จะพบกับปุ่มต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วอย่างปุ่มรับสายและวางสาย ปุ่มเข้าสู่เมนู BlackBerry ปุ่มย้อนกลับ และTrackpad สำหรับปุ่มล๊อคและปิดเสียงจะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ถัดมาที่ด้านขวาจะพบกับช่องเสียบหูฟังขนาด3.5 มิลลิเมตร ปุ่มปรับเสียง และปุ่มปรับแต่งการใช้งาน ปุ่มเปิดการใช้งานกล้องหรือจับภาพในขณะถ่ายรูป มีช่องเสียบ Micro-USB ที่ด้านซ้าย ด้านหลังประกอบด้วยกล้อง และไฟแฟลช ช่องใส่การ์ด microSD จะอยู่ที่ด้านหลังของแบตเตอรี่ สำหรับภายในกล่องจะพบกับอะแดปเตอร์, สาย USB, microSD ขนาด 4GB และหูฟัง
ด้านซอฟท์แวร์
Torch เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6 ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า RIM ต้องการที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ควบคู่กับความคุ้นเคยให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งมีสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าแทบจะเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่การใส่คุณสมบัติใหม่ๆ เข้าไปเท่านั้น
เริ่มแรก ผู้ใช้จะสามารถสังเกตได้ตั้งแต่หน้าจอหลักแบบใหม่ ด้านบนจะมีเมนู Quick Access ที่จะแสดงวันที่ เวลา สัญญาณ ระดับแบตเตอรี่ และให้ผู้ใช้จัดการการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ด้านล่างจะมีแถบการแจ้งเตือน ที่รวมถึงการกดปุ่มเดียวแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในโทรศัพท์ และค้นหา มันจะแจ้งเตือนข้อความใหม่ สายที่ไม่ได้รับ ตารางนัดหมายที่ใกล้จะถึง เป็นต้น เมื่อผู้ใช้แตะที่แถบดังกล่าวมันก็จะแสดงรายละเอียดนั้นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
โดยรวมแล้ว Torch 9800 ทำงานได้อยู่ในเกณฑ์ดี เข้าถึงและจัดการแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้โดยง่าย และปรับปรุงเพื่อการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บเบราเซอร์ และมัลติมีเดีย ทำให้รู้สึกได้เลยว่า RIM ได้เปรียบจากประสิทธิภาพของหน้าจอทัชสกรีนในเวลานี้ ตรงกันข้ามกับรุ่น Storm ที่ยังรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ
จากทั้งหมดที่เขียนมา อีกสิ่งที่ชื่นชอบไม่แพ้กันก็คือ การที่ BlackBerry OS 6 เพิ่มการค้นหาอเนกประสงค์ มาด้วย ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลที่ใกล้เคียงในทั้งหมดโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อ ข้อความ ปฏิทิน เพลง หรือรูปภาพ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาได้จากทั้ง Google, YouTube, BlackBerry App World และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นมันจะทำให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด
ด้านคุณสมบัติ
Torch 9800 รองรับการใช้ 4 คลื่นความถี่, 3G, Bluetooth 2.1, Wi-Fi และ GPS คุณสมบัติมาตรฐานอื่นๆ อย่างลำโพง, โทรออกด้วยเสียง, การโทรอัจฉริยะ, การประชุมสาย,โทรด่วน, ข้อความตัวอักษรและรูปภาพ ขาดไม่ได้กับการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนๆ ด้วย BlackBerry Messenger เช่นเดียวกับโปรแกรมสนทนาอย่าง Windows Live, Yahoo, Google Talk และAIM ที่ติดตั้งไว้ในโทรศัพท์เรียบร้อย อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการรับส่งเมลล์ Torch 9800 สามารถซิงค์อีเมลล์บริษัทโดยผ่าน BlackBerry Enterprise Server(BES) รองรับการทำงาน Microsoft Exchange, IBM Lotus Domino หรือNovell GroupWise ทำให้สามารถส่งเมลล์บริษัทได้อย่างทันใจ และเมื่อเร็วๆนี้ RIM ก็ได้เปิดตัว BlackBerry Enterprise Server Express ซึ่งเป็นบริการฟรี แต่จำกัดการใช้งานที่ช่วยให้บุคคลและธุรกิจขนาดเล็กสามารถซิงค์ข้อมูล รายชื่อ และเข้าถึงไฟล์งานบนเครือข่ายของบริษัทได้
ด้านอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเข้าอีเมลล์ได้ถึง 10 ชื่อบัญชี ไม่ว่าจะเป็น POP3 หรือ IMAP4 ตั้งค่าให้แยกกล่องจดหมายหรือรวมกันไว้ก็ได้ มีตัวช่วยเหลือการติดตั้งเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลได้โดยป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ในขณะที่ทดสอบ ผู้เขียนได้ทำการซิงค์ข้อมูลจาก Gmail และ Yahoo ก็ไม่พบปัญหาใดๆ
ณ วันนี้ การใช้งานอีเมลล์ในมือถืออย่างเดียวคงไม่พอ เพราะตอนนี้กระแส social networks ที่มาแรง ซึ่ง Torch ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยแอพพลิเคชั่น Social Feeds แอพฯ ที่รวบรวมความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้แอพพลิเคชั่นดึงข้อมูลมาจากเว็บฯ ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือTwitter พร้อมกับการตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือน
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ตัวนี้ได้จาก BlackBerry App World 2.0. แหล่งรวมแอพฯกว่า 9,000 ตัว ถึงจะน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับ iTunes และAndroid Market แต่การใช้งานใน App World รองรับการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ให้บริการเครือข่าย และบริการ BlackBerry ID ที่จะติดตามการดาวน์โหลดและค่าธรรมเนียมเมื่อคุณมี Blackberry เครื่องใหม่ เพียงแค่คุณป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านมันก็จะทำการดาวน์โหลดแอพฯ ให้โดยอัตโนมัติลงบนเครื่องใหม่ของคุณ ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในขณะนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับ OS6 ได้ แต่สิ่งที่แย่ก็คือ การที่ผู้ใช้จะต้องบันทึกแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลงบนหน่วยความจำโทรศัพท์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้านความบันเทิง
หลังจากที่ RIM ได้ทำการปรับปรุงเว็บเบราเซอร์ไปก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ มันสามารถใช้งานได้ง่ายและเร็วขึ้น อย่างการบุ๊คมาร์คหน้าเว็บไซต์ สนับสนุน pinch-to-zoom ถ้าผู้ใช้ดับเบิ้ลแท๊บส่วนใดส่วนหนึ่งในหน้าเว็บเพจก็จะกลายเป็นซูมเข้า ด้านเบราเซอร์เมื่อมีการเรียกหน้าเว็บขึ้นมาแล้ว พวกตัวอักษรต่างๆก็มีขนาดที่พอดีกับหน้าจอ อีกสิ่งที่ถูกปรับปรุงก็คือการแสดง HTML และJavaScript ที่รองรับ HTML5 และCSS3 เป็นบางส่วน น่าเสียดายที่ Torch ยังคงไม่รองรับการแสดงFlash
เมื่อใช้งานจริงผู้เขียนรู้สึกว่า เบราเซอร์ตัวนี้ทำงานได้ดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า สามารถตั้งค่าเบราเซอร์ให้มีการย่อขนาดเว็บเพจที่ดูอยู่ในปัจจุบันให้เล็กลงและแสดงเป็นรูปภาพขนาดเล็กสำหรับหน้าเว็บเพจที่เปิดอยู่ทั้งหมด เพื่อค้นหาหน้าที่คุณต้องการก็ได้
เมื่อได้ทดสอบความเร็วเทียบกับมือถืออื่นๆ พบว่าเบราเซอร์ของ BlackBerry ไม่ได้มีความเร็วไปมากกว่าเบราเซอร์ของมือถือยี่ห้ออื่นๆ สักเท่าใด เมื่อทดลองเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi และทดลองโหลดหน้าเว็บ Huffington Post Torch ใช้เวลาในการดาวน์โหลด50 วินาที ในขณะที่เว็บไซต์อื่นๆ อย่าง CNN และESPN ใช้เวลา7 และ6 วินาทีตามลำดับ ซึ่งเมื่อเทียบกับเบราเซอร์ของ Android ในNexus One กลับใช้เวลาเพียงแค่ 15 , 3 และ 4 วินาทีเท่านั้น สำหรับเบราเซอร์Safari ใน iPhone 3GS ใช้เวลาที่ 35, 6 และ5 วินาที ซึ่งก็ยังน้อยกว่าเบราเซอร์ Blackberry
ด้านความบันเทิง Torch รองรับการใช้งาน MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, FLAC ,OGG ,MPEG4, H.263, H.264 และ WMV BlackBerry Desktop Software 6 เวอร์ชั่นใหม่สามารถให้ผู้ใช้ซิงค์ไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ จากWindows Media Player หรือiTunes ได้โดยผ่าน Wi-Fi Music Sync ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพลงเข้าสู่สมาร์ทโฟนภายในบ้านได้ด้วยWi-Fi มีหน่วยความจำภายใน 4GB มาพร้อมกับการ์ดmicroSD 4GB ที่แถมมาในกล่องให้อีกด้วย ซึ่งสามารถใส่เพิ่มได้สูงสุดถึง 32GB
รูปภาพจากล้อง Torch 9800
Torch 9800 มาพร้อมกับกล้องขนาด 5ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ซูม2เท่า และแฟลช LED ซึ่งเป็นกล้องความละเอียดสูงสุดที่ RIM เคยใส่่ลงในโทรศัพท์ พร้อมกับเครื่องมือสำหรับการถ่ายรูปในที่ร่มและการจับภาพขณะเคลื่อนไหว จึงทำให้Torch ตัวนี้มีฟังก์ชั่นการตรวจจับใบหน้า การถ่ายโหมดต่างๆ และอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายขึ้น
ด้านประสิทธิภาพ
เราได้ทดสอบมือถือกับสี่คลื่นความถี่ (GSM 850/900/1800/1900) ในนิวยอร์ก โดยใช้เครือข่าย AT&T ก็นับว่าให้คุณภาพที่ดี ด้านของเสียงได้ยินชัดเจนและมีเสียงรบกวนรอบข้างเล็กน้อย บางครั้งก็อาจจะมีสัญญาณขาดหาย ทำให้มีเสียงเหมือนหุ่นยนต์บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้การสนทนาต้องชะงักลง ด้านลำโพงก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า แต่จากการใช้งานหลายๆ คนบอกว่าได้ยินเสียงสะท้อนกลับเหมือนกัน Torch 9800 ทำงานบนโปรเซสเซอร์ Marvell 624MHZ สามารถสนทนาต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมงสำหรับ 2G และ 5.8 ชั่วโมง สำหรับ3G รอรับสายได้ถึง 17 วัน (2G) และ13 วัน(3G) จากการทดสอบเมื่อใช้แบตเตอรี่จนหมด พบว่าสามารถสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง แต่ถ้าหากมีการใช้งานปานกลางอย่าง เข้าอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ดูวีดีโอ หรือรับส่งอีเมลล์ ก็จะสามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งวันก่อนจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตอีกครั้ง
ข้อดี : เป็นการรวมเอาหน้าจอทัชสกรีนและแป้นพิมพ์แบบ QWERTY มาเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยตัว OS เวอร์ชั่น 6 มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งยูเซอร์อินเทอร์เฟส การเชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ต และด้านความบันเทิง
ข้อเสีย : ขณะใช้งานตัวเครื่องมีการทำงานหน่วงบ้าง หน้าจอความละเอียดที่ค่อนข้างต่ำ แอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถบันทึกได้เฉพาะหน่าวยความจำโทรศัพท์เท่านั้น และกล้องสามารถถ่ายวีดีโอได้แค่ระดับ VGA
สรุป : แม้ว่าการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพจะทำได้ดีขึ้น แต่ BlackBerry Torch 9800 และBlackBerry OS 6 จำเป็นที่จะต้องได้รับการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอีกมากเพื่อการแข่งขันในอนาคต
คะแนนจากผู้เขียน
ด้านการออกแบบ 8 / 10
ด้านคุณสมบัติ 8 / 10
ด้านประสิทธิภาพ 8 / 10