Review : Red Faction: Guerrilla (PC)
สารภาพตามตรงเกมในซีรีย์ Red Factions นั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของผมมาก่อน ทั้ง 2 ภาคก่อนหน้า (Red Faction 1 และ 2 ในปี 2001 และ 2003 ตามลำดับ) และจนภาคสุดท้าย Red Faction: Guerrilla ที่อยู่ในบทความนี้ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมแม้แต่นิดเดียว แต่ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างทั้งจากพวกพ้องเกมเมอร์ และคะแนนรีวิวที่ทุกเว็บไซต์ดังพร้อมใจกันเทคะแนนให้อย่างหลากหลาย (และแน่นอนสังเกตได้จากจำนวนกระทู้ในห้อง Games) ทำให้ผมต้องขวนขวายหามันมาเล่นจนได้ และผมก้ได้รู้ว่าความมันส์แบบ “ระเบิดระเบ้อ” ที่แท้จริงนั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ภาพ : เฮ้ ! คุณชอบเสียงระเบิดใช่ไหม?
Red Faction: Guerrilla เป็นเกมที่สามในซีรีย์ Red Faction ซึ่งผู้พัฒนาอย่าง Volition Incorporated ได้อวดไว้ว่าใช้เวลากว่า 4 ปีในการพัฒนามันขึ้นมาทั้งระบบกราฟฟิก Geo-Mod 2.0 และเอนจิ้นระบบฟิสิกส ์Havok แม้ว่าบรรดาเหล่าเกม Open World แบบ Sand-Box จะทยอยกันออกมาให้เราได้เล่นกันมากมายภายในปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็น inFamous, Prototype, Death to Spies หรือแม้กระทั่งเกมในซีรีย์ GTA จริงอยู่ที่ทุกเกมที่กล่าวมานั้นได้มอบประสบการณ์ “ทำลายล้าง” ที่ต่างกันออกไปในแต่ละเกม แต่เชื่อผมเถอะไม่มีเกมไหนที่จะให้ความรู้สึกสะใจในการพังทลายตึกรามบ้านช่องเท่ากับ Red Faction: Guerrilla แน่นอน
ภาพ : ใช่แล้วล่ะ ผมชอบเสียงระเบิดจริงๆ
ใน Red Faction: Guerrilla ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Alec Mason ผู้ซึ่งเป็นคนจร พี่ชาย วิศวะกรขุดเจาะ และนักปฎิวัติมือหนึ่ง , Alec มาที่ดาวอังคารเพื่อหางานและพบกับ Dan น้องชายของเขา ไม่นานหลังจากนั้น Alec ก็ได้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นบนดาวสีแดงดวงนี้ที่ซึ่งฝ่ายสหพันธ์รัฐโลก (Earth Defense Force) หรือ EDF ที่ปกครองพื้นที่อย่างโหดร้ายทารุณและปฎิบัติกับกลุ่มชาวดาวอังคารเยี่ยงทาส และซ้ำร้ายกว่านั้นพวก EDF ยังพรากเอาชีวิตน้องชายของเขาไปต่อหน้าต่อหน้าทั้งพยายามฆ่าปิดปากเขาอย่างเลือดเย็น แต่ด้วยโชคและความเป็นพระเอกทำให้ฝ่ายกองกำลังต่อต้านเข้ามาช่วยเหลือเขาอย่างทันท่วงทีพร้อมๆ กับยัดเยียดตำแหน่งวีรบุรุษผู้นำทัพกบฎให้กับเขาอย่างงงๆ (ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นพี่ชายของ Dan และใช้ระเบิดเป็น) เพื่อเป็นผู้นำในการกอบกู้อิสระภาพของดาวสีแดงดวงนี้กลับมา (ดราม่า จ๊าดๆ ~)
ภาพ : Set เนื้อเรื่องแบบย่อของเกม
หลังจากการเล่น Red Faction: Guerrilla แบบติดหนึบถึงกว่าสามวันเต็มๆ ผมเชื่อว่าถ้าหากมีการจัดอันดับเกมนอกสายตาแห่งปี Red Faction: Guerrilla จะต้นติดอยู่บนอันดับต้นๆ เป็นแน่แท้ แม้ว่าการนำเสนอเกมแบบ Open World อาจจะเหมือนการนำนิทานเก่ามาเล่าใหม่ แต่ความสามารถในการทำลายล้างระดับรายละเอียดปลีกย่อยของ Red Faction: Guerrilla อาจทำให้คุณต้องมองนิทานเรื่องเก่านี้อีกครั้งหนึ่ง ระบบการทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้เต็มไปด้วยรายละเอียดและความสุดยอดของทั้งในแง่ของกราฟฟิกและอารมณ์ คุณสามารถระเบิดและทุบทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างด้วยน้ำมือมนุษย์ให้แหลกละเอียดได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างหรือยานพาหนะ และทุกอย่างที่ว่ามันคือทุกอย่างที่อัดแน่นด้วยรายละเอียดจริงๆ ยกตัวอย่างเช่นการที่คุณจะเหวี่ยงฆ้อนคู่ใจทำลายตึกเป้าหมายสักตึก คุณจะได้พบเจอกับเกราะชั้นแรก คอนกรีตชั้นในและสุดท้ายคุณก็จะได้พบเจอกับเส้นแกนเหล็กเสริมของตึกนั้นๆ ก่อนที่มันจะถล่มถลายลงมาอย่างสมจริงด้วยเอนจิ้นฟิสิกส์ Havok
ภาพ : หุ่นยนต์ Walker ที่คุณจะได้บังคับมันกวาดล้าง EDF เป้นครั้งคราว
การถล่มถลายของสิ่งก่อสร้างไม่เพียงแต่สร้างสุนทรีย์อารมณ์ทางสายตาเท่านั้น มันยังเกี่ยวเนื่องไปยังเกมเพลย์การเล่นโดยรวมหรือภารกิจในฉากนั้นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณได้รับภารกิจสังหารผู้นำกองทัพสักคนนึงคุณอาจจะลอบเร้นฝ่าดงกระสุนและระเบิดมือของกองทัพ EDF เข้าไปเพื่อฟาดเป้าหมายสักตุ้บ หรือเลือกที่จะถล่มตึกจากระยะไกลด้วยอาวุธหนักให้พังทลายตามโครงสร้างแบบวิศวะกรรม เพื่อยืนยิ้มดูเป้าหมายที่อยู่ในสิ่งก่อสร้างย่อยยับลงพร้อมๆ กัน ระดับขีดจำกัดของการทำลายล้างข้าวของใน Red Faction: Guerrilla เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเจอในเกมไหนๆ มาก่อนเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องลองเองถึงจะรู้จริงๆ
ภาพ : การควงฆ้อนไล่ทุบ EDF ก็สนุกพอๆ กับการระเบิดทำลายตึกนั่นเเหละ
แม้ว่าจะประกอบไปด้วยภารกิจหลัก ภารกิจเสริมและมินิเกมมากมายหลายหลาก แต่โดยหลักแล้วการเล่นในโหมดเนื้อเรื่องของ Red Faction: Guerrilla ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ก.) ไล่ทุบ ยิง ระเบิดกองทัพ EDF ตามที่กำหนด หรือ ข.) ไล่ทุบ ระเบิด ถล่ม สิ่งปลูกสร้างของกองทัพ EDF และสุดท้าย ค.) ทำทั้งข้อ ก. และ ข. พร้อมๆ กัน โดยอาจะมีรายละเอียดแยกย่อยไปตามภารกิจที่ได้รับ อาทิเช่น ขับรถเป็นตัวล่อในการเคลื่อนย้ายฐานพร้อมๆ กับทำลายเสาจับสัญญาณไปด้วย (ตอบข้อ ค.) บุกไปช่วยเหลือตัวประกันในสิ่งปลูกสร้างที่กำหนด (ตอบข้อ ก.) หรือนั่งไปบนรถติดอาวุธหนักของ NPC เพื่อสร้างความเสียหายให้ได้ตามที่กำหนด (ตอบข้อ ข.) และอาจมีมินิเกมอีกเล็กน้อยที่ไม่ได้เข้าข่าย กขค. แต่อย่างไรก็ดีภารกิจโดยรวมของ Red Faction: Guerrilla ก็ไม่พ้นคอนเซปท์ล้างบางฝ่ายตรงข้าม (EDF) อยู่ดี ข้อเสียของการมีภารกิจมากมายเยอะแยะที่ผมเห็นได้เด่นชัดที่สุดก็คือผมมักจะยืนหมุนไปหมุนมาไม่รู้ทางไปต่ออยู่บ่อยๆ เนื่องจากตัวเกมค่อนข้างเปิดอิสระในการเลือกภารกิจให้กับผู้เล่นมากไปหน่อย และไม่ได้ระบุว่าภารกิจไหนคือภารกิจหลักที่จะทำให้เนื้อเรื่องก้าวหน้า ผมจึงต้องดาหน้าเลือกเล่นภารกิจทุกอันที่ขวางหน้าเพื่อที่จะให้เนื้อเรื่องหลักดำเนินต่อไป
ภาพ : อย่างไรก็ตามพระเอกของเราก็ไม่ใช่อมตะ
ระบบอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ใน Red Faction: Guerrilla ทำให้เกมสนุกขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น คุณไม่ต้องพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะอัพเกรดอุปกรณ์ในการเล่นเนื้อเรื่องหลัก เนื่องจากหากว่าไม่มีพวกมันแค่คุณใช้การวางแผนและความระมัดระวังที่มากขึ้นคุณก็สามารถจบเกมได้ด้วยอุปกรณ์พื้นฐานที่อัพเกรดนิดๆ หน่อยๆ อาวุธและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากการอัพเกรด (ด้วยการสะสมซากสิ่งของมาให้ SAM ช่างสาวนางเอกคนสวย) จะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกและเพิ่มความสนุกให้กับเกมมากว่าที่จะให้มันเป็นคีย์หลักในการผ่านเนื้อเรื่องเหมือนกับเกมอื่นๆ (อาจเนื่องเพราะหลังๆ อาวุธมีอานุภาพทำลายล้างที่เวอร์มากไปหน่อย เช่น Nano Rifle ที่ฉีกกระชากทุกอย่างได้ในนัดเดียว) ระบบแผนที่และการทำทางในเกมก็เป็นสิ่งที่น่าเชยชมเช่นเดียวกัน คุณสามารถดูที่ตั้งสิ่งต่างๆ ในฉากได้อย่างง่ายๆ และสามารถวางระบบทำทางไปหาสิ่งนั้นๆ ได้เพียงแค่คลิ๊กเดียวเท่านั้น
ภาพ : แค่ Rocker Luncher ก็ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นโขแล้ว
ภาพ : Interface MiNi Map ที่แสนสะดวก
แต่ในขณะเดียวกันแผนที่ขนาดมหึมาที่ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นของเกมแบบ Open World ของ Red Faction: Guerrilla ถูกทำร้ายด้วยเนื้อเรื่องและฉากของตัวเกมอย่างไม่น่าให้อภัย ในการท่องเที่ยวพจญภัยไล่ทุบทหารและระเบิดสิ่งปลูกสร้างสิ่งที่คุณจะได้พบเจอระหว่างทางก็คือ พื้นสีแดง ภูเขาสีแดงและเหวสีแดง (ปนน้ำตาลหน่อยๆ ) อันแห้งแล้งปราศจากสิ่งมีชีวิตอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งเกม มันน่าเบื่อเสียจนผมแทบไม่อยากทำลายสิ่งปลูกสร้างของ EDF ที่ตั้งอยู่ริมทางเลยจริงๆ
ภาพ : แดง น้ำตาล แดง แดง แดง
ระบบ Ai ของฝ่าย EDF มีความฉลาดพอประมาณพวกมันสามารถเสริมกำลังได้ค่อนข้างรวดเร็วและสามารถดักทางหนีของผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ พาหนะและจำนวน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ Ai NPC สนับสนุนของฝ่ายเรามีมักจะโผล่แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยในจังหวะที่เราไม่ต้องการ แถมความฉลาดและประโยชน์ของ Ai ฝ่ายเดียวกับเรานั้นเข้าขั้นแย่มาก (/Facepalm) พวกเขามักจะเสนอหน้าเข้ามาในเวลาและสถานที่ๆ เราไม่ต้องการอยู่เสมอ ( เช่นหน้ารถในเวลาที่เราอยากจะขับหลบหนี และถุกเราทับตายแต้มหายหด)และนอกจากการเป็นตัวล่อกระสุนเล้วพวกเขาก็แทบไม่มีประโยชน์อันใดไปมากกว่านั้นเลยจริงๆ
ภาพ : ถ้า AI ทั้ง 2 ฝ่ายมีความฉลาดเท่ากันจะดีมาก
Red Faction: Guerrilla มีโหมดการเล่นแบบเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างสั้น และแม้ว่ามันจะสามารถกลับมาเล่นได้อีกเรื่อยๆ แต่สักวันคุณก็ต้องเบื่อมันอยู่ดี ในส่วนนี้ผู้พัฒนาย่อมรู้ทันคุณเช่นเดียวกันพวกเขาจึงได้ใส่ระบบผู้เล่นหลายคนออนไลน์ที่มันสุดๆ เข้ามาใน Red Faction: Guerrilla ด้วย ในโหมดออนไลน์คุณจะได้พบกับบรรดาเหล่าอาวุธที่พึกลึกพิลั่นและเข้าฟาดฟันกันด้วยโหมดที่มีให้เลือกหลากหลายเช่น deathmatch, team deathmatch หรือ capture the flag (ยึดธง) ความสนุกของโหมดออนไลน์นั้นไม่สามรถบรรยายได้หมดจริงๆ (เพราะบรรยายไปก็เท่านั้น หามาเล่นเองดีกว่าครับ)
ภาพ : Online ด้วย Games on Windows live
โดยรวมแล้วก็ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า Red Faction: Guerrilla เป็นเกมนอกสายตาที่สนุกอย่างเหลือเชื่อจริงๆ ข้อด้อยทั้งหลากหลายที่ปรากฎอยู่ในเกมถูกชะล้างไปด้วยความสนุกในการทำลายล้างทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้าในโลกแบบ Open world ที่คุณสามารถกำหนดทางเดินและความเป็นไปได้ด้วยตัวคุณเอง หากคุณหน่ายกับการรักษาสภาพของทุกๆ อย่างในโลกแห่งความจริงเสียงระเบิดและการทุบทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าใน Red Faction: Guerrilla จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ที่บีบคั้นจนคุณเลิกที่จะเสพย์ (เล่น) มันไม่ได้แน่นอน
ภาพ : ฮว้ากกกกกก ! ไปซื้อของแท้มาเล่นซะ !
เพิ่มเติม : คำนิยามจากนักวิจารณ์เกมนอกเหนือจากผู้เขียน.
Jokeby : ชอบระเบิด ชอบระเบิด ชอบระเบิด ซื้อ Red Faction: Guerrilla
S.Logan : โดนใจใครที่เล่นเกมแบบ "เอามันส์"
ภาพ : ระเบิดมั้ย?
Review : Red Faction: Guerrilla (PC)
สารภาพตามตรงเกมในซีรีย์ Red Factions นั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของผมมาก่อน ทั้ง 2 ภาคก่อนหน้า (Red Faction 1 และ 2 ในปี 2001 และ 2003 ตามลำดับ) และจนภาคสุดท้าย Red Faction: Guerrilla ที่อยู่ในบทความนี้ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมแม้แต่นิดเดียว แต่ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างทั้งจากพวกพ้องเกมเมอร์ และคะแนนรีวิวที่ทุกเว็บไซต์ดังพร้อมใจกันเทคะแนนให้อย่างหลากหลาย (และแน่นอนสังเกตได้จากจำนวนกระทู้ในห้อง Games) ทำให้ผมต้องขวนขวายหามันมาเล่นจนได้ และผมก้ได้รู้ว่าความมันส์แบบ “ระเบิดระเบ้อ” ที่แท้จริงนั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ภาพ : เฮ้ ! คุณชอบเสียงระเบิดใช่ไหม?
Red Faction: Guerrilla เป็นเกมที่สามในซีรีย์ Red Faction ซึ่งผู้พัฒนาอย่าง Volition Incorporated ได้อวดไว้ว่าใช้เวลากว่า 4 ปีในการพัฒนามันขึ้นมาทั้งระบบกราฟฟิก Geo-Mod 2.0 และเอนจิ้นระบบฟิสิกส ์Havok แม้ว่าบรรดาเหล่าเกม Open World แบบ Sand-Box จะทยอยกันออกมาให้เราได้เล่นกันมากมายภายในปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็น inFamous, Prototype, Death to Spies หรือแม้กระทั่งเกมในซีรีย์ GTA จริงอยู่ที่ทุกเกมที่กล่าวมานั้นได้มอบประสบการณ์ “ทำลายล้าง” ที่ต่างกันออกไปในแต่ละเกม แต่เชื่อผมเถอะไม่มีเกมไหนที่จะให้ความรู้สึกสะใจในการพังทลายตึกรามบ้านช่องเท่ากับ Red Faction: Guerrilla แน่นอน
ภาพ : ใช่แล้วล่ะ ผมชอบเสียงระเบิดจริงๆ
ใน Red Faction: Guerrilla ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Alec Mason ผู้ซึ่งเป็นคนจร พี่ชาย วิศวะกรขุดเจาะ และนักปฎิวัติมือหนึ่ง , Alec มาที่ดาวอังคารเพื่อหางานและพบกับ Dan น้องชายของเขา ไม่นานหลังจากนั้น Alec ก็ได้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นบนดาวสีแดงดวงนี้ที่ซึ่งฝ่ายสหพันธ์รัฐโลก (Earth Defense Force) หรือ EDF ที่ปกครองพื้นที่อย่างโหดร้ายทารุณและปฎิบัติกับกลุ่มชาวดาวอังคารเยี่ยงทาส และซ้ำร้ายกว่านั้นพวก EDF ยังพรากเอาชีวิตน้องชายของเขาไปต่อหน้าต่อหน้าทั้งพยายามฆ่าปิดปากเขาอย่างเลือดเย็น แต่ด้วยโชคและความเป็นพระเอกทำให้ฝ่ายกองกำลังต่อต้านเข้ามาช่วยเหลือเขาอย่างทันท่วงทีพร้อมๆ กับยัดเยียดตำแหน่งวีรบุรุษผู้นำทัพกบฎให้กับเขาอย่างงงๆ (ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นพี่ชายของ Dan และใช้ระเบิดเป็น) เพื่อเป็นผู้นำในการกอบกู้อิสระภาพของดาวสีแดงดวงนี้กลับมา (ดราม่า จ๊าดๆ ~)
ภาพ : Set เนื้อเรื่องแบบย่อของเกม
หลังจากการเล่น Red Faction: Guerrilla แบบติดหนึบถึงกว่าสามวันเต็มๆ ผมเชื่อว่าถ้าหากมีการจัดอันดับเกมนอกสายตาแห่งปี Red Faction: Guerrilla จะต้นติดอยู่บนอันดับต้นๆ เป็นแน่แท้ แม้ว่าการนำเสนอเกมแบบ Open World อาจจะเหมือนการนำนิทานเก่ามาเล่าใหม่ แต่ความสามารถในการทำลายล้างระดับรายละเอียดปลีกย่อยของ Red Faction: Guerrilla อาจทำให้คุณต้องมองนิทานเรื่องเก่านี้อีกครั้งหนึ่ง ระบบการทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้เต็มไปด้วยรายละเอียดและความสุดยอดของทั้งในแง่ของกราฟฟิกและอารมณ์ คุณสามารถระเบิดและทุบทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างด้วยน้ำมือมนุษย์ให้แหลกละเอียดได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างหรือยานพาหนะ และทุกอย่างที่ว่ามันคือทุกอย่างที่อัดแน่นด้วยรายละเอียดจริงๆ ยกตัวอย่างเช่นการที่คุณจะเหวี่ยงฆ้อนคู่ใจทำลายตึกเป้าหมายสักตึก คุณจะได้พบเจอกับเกราะชั้นแรก คอนกรีตชั้นในและสุดท้ายคุณก็จะได้พบเจอกับเส้นแกนเหล็กเสริมของตึกนั้นๆ ก่อนที่มันจะถล่มถลายลงมาอย่างสมจริงด้วยเอนจิ้นฟิสิกส์ Havok
ภาพ : หุ่นยนต์ Walker ที่คุณจะได้บังคับมันกวาดล้าง EDF เป้นครั้งคราว
การถล่มถลายของสิ่งก่อสร้างไม่เพียงแต่สร้างสุนทรีย์อารมณ์ทางสายตาเท่านั้น มันยังเกี่ยวเนื่องไปยังเกมเพลย์การเล่นโดยรวมหรือภารกิจในฉากนั้นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณได้รับภารกิจสังหารผู้นำกองทัพสักคนนึงคุณอาจจะลอบเร้นฝ่าดงกระสุนและระเบิดมือของกองทัพ EDF เข้าไปเพื่อฟาดเป้าหมายสักตุ้บ หรือเลือกที่จะถล่มตึกจากระยะไกลด้วยอาวุธหนักให้พังทลายตามโครงสร้างแบบวิศวะกรรม เพื่อยืนยิ้มดูเป้าหมายที่อยู่ในสิ่งก่อสร้างย่อยยับลงพร้อมๆ กัน ระดับขีดจำกัดของการทำลายล้างข้าวของใน Red Faction: Guerrilla เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเจอในเกมไหนๆ มาก่อนเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องลองเองถึงจะรู้จริงๆ
ภาพ : การควงฆ้อนไล่ทุบ EDF ก็สนุกพอๆ กับการระเบิดทำลายตึกนั่นเเหละ
แม้ว่าจะประกอบไปด้วยภารกิจหลัก ภารกิจเสริมและมินิเกมมากมายหลายหลาก แต่โดยหลักแล้วการเล่นในโหมดเนื้อเรื่องของ Red Faction: Guerrilla ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ก.) ไล่ทุบ ยิง ระเบิดกองทัพ EDF ตามที่กำหนด หรือ ข.) ไล่ทุบ ระเบิด ถล่ม สิ่งปลูกสร้างของกองทัพ EDF และสุดท้าย ค.) ทำทั้งข้อ ก. และ ข. พร้อมๆ กัน โดยอาจะมีรายละเอียดแยกย่อยไปตามภารกิจที่ได้รับ อาทิเช่น ขับรถเป็นตัวล่อในการเคลื่อนย้ายฐานพร้อมๆ กับทำลายเสาจับสัญญาณไปด้วย (ตอบข้อ ค.) บุกไปช่วยเหลือตัวประกันในสิ่งปลูกสร้างที่กำหนด (ตอบข้อ ก.) หรือนั่งไปบนรถติดอาวุธหนักของ NPC เพื่อสร้างความเสียหายให้ได้ตามที่กำหนด (ตอบข้อ ข.) และอาจมีมินิเกมอีกเล็กน้อยที่ไม่ได้เข้าข่าย กขค. แต่อย่างไรก็ดีภารกิจโดยรวมของ Red Faction: Guerrilla ก็ไม่พ้นคอนเซปท์ล้างบางฝ่ายตรงข้าม (EDF) อยู่ดี ข้อเสียของการมีภารกิจมากมายเยอะแยะที่ผมเห็นได้เด่นชัดที่สุดก็คือผมมักจะยืนหมุนไปหมุนมาไม่รู้ทางไปต่ออยู่บ่อยๆ เนื่องจากตัวเกมค่อนข้างเปิดอิสระในการเลือกภารกิจให้กับผู้เล่นมากไปหน่อย และไม่ได้ระบุว่าภารกิจไหนคือภารกิจหลักที่จะทำให้เนื้อเรื่องก้าวหน้า ผมจึงต้องดาหน้าเลือกเล่นภารกิจทุกอันที่ขวางหน้าเพื่อที่จะให้เนื้อเรื่องหลักดำเนินต่อไป
ภาพ : อย่างไรก็ตามพระเอกของเราก็ไม่ใช่อมตะ
ระบบอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ใน Red Faction: Guerrilla ทำให้เกมสนุกขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น คุณไม่ต้องพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะอัพเกรดอุปกรณ์ในการเล่นเนื้อเรื่องหลัก เนื่องจากหากว่าไม่มีพวกมันแค่คุณใช้การวางแผนและความระมัดระวังที่มากขึ้นคุณก็สามารถจบเกมได้ด้วยอุปกรณ์พื้นฐานที่อัพเกรดนิดๆ หน่อยๆ อาวุธและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากการอัพเกรด (ด้วยการสะสมซากสิ่งของมาให้ SAM ช่างสาวนางเอกคนสวย) จะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกและเพิ่มความสนุกให้กับเกมมากว่าที่จะให้มันเป็นคีย์หลักในการผ่านเนื้อเรื่องเหมือนกับเกมอื่นๆ (อาจเนื่องเพราะหลังๆ อาวุธมีอานุภาพทำลายล้างที่เวอร์มากไปหน่อย เช่น Nano Rifle ที่ฉีกกระชากทุกอย่างได้ในนัดเดียว) ระบบแผนที่และการทำทางในเกมก็เป็นสิ่งที่น่าเชยชมเช่นเดียวกัน คุณสามารถดูที่ตั้งสิ่งต่างๆ ในฉากได้อย่างง่ายๆ และสามารถวางระบบทำทางไปหาสิ่งนั้นๆ ได้เพียงแค่คลิ๊กเดียวเท่านั้น
ภาพ : แค่ Rocker Luncher ก็ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นโขแล้ว
ภาพ : Interface MiNi Map ที่แสนสะดวก
แต่ในขณะเดียวกันแผนที่ขนาดมหึมาที่ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นของเกมแบบ Open World ของ Red Faction: Guerrilla ถูกทำร้ายด้วยเนื้อเรื่องและฉากของตัวเกมอย่างไม่น่าให้อภัย ในการท่องเที่ยวพจญภัยไล่ทุบทหารและระเบิดสิ่งปลูกสร้างสิ่งที่คุณจะได้พบเจอระหว่างทางก็คือ พื้นสีแดง ภูเขาสีแดงและเหวสีแดง (ปนน้ำตาลหน่อยๆ ) อันแห้งแล้งปราศจากสิ่งมีชีวิตอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งเกม มันน่าเบื่อเสียจนผมแทบไม่อยากทำลายสิ่งปลูกสร้างของ EDF ที่ตั้งอยู่ริมทางเลยจริงๆ
ภาพ : แดง น้ำตาล แดง แดง แดง
ระบบ Ai ของฝ่าย EDF มีความฉลาดพอประมาณพวกมันสามารถเสริมกำลังได้ค่อนข้างรวดเร็วและสามารถดักทางหนีของผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ พาหนะและจำนวน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ Ai NPC สนับสนุนของฝ่ายเรามีมักจะโผล่แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยในจังหวะที่เราไม่ต้องการ แถมความฉลาดและประโยชน์ของ Ai ฝ่ายเดียวกับเรานั้นเข้าขั้นแย่มาก (/Facepalm) พวกเขามักจะเสนอหน้าเข้ามาในเวลาและสถานที่ๆ เราไม่ต้องการอยู่เสมอ ( เช่นหน้ารถในเวลาที่เราอยากจะขับหลบหนี และถุกเราทับตายแต้มหายหด)และนอกจากการเป็นตัวล่อกระสุนเล้วพวกเขาก็แทบไม่มีประโยชน์อันใดไปมากกว่านั้นเลยจริงๆ
ภาพ : ถ้า AI ทั้ง 2 ฝ่ายมีความฉลาดเท่ากันจะดีมาก
Red Faction: Guerrilla มีโหมดการเล่นแบบเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างสั้น และแม้ว่ามันจะสามารถกลับมาเล่นได้อีกเรื่อยๆ แต่สักวันคุณก็ต้องเบื่อมันอยู่ดี ในส่วนนี้ผู้พัฒนาย่อมรู้ทันคุณเช่นเดียวกันพวกเขาจึงได้ใส่ระบบผู้เล่นหลายคนออนไลน์ที่มันสุดๆ เข้ามาใน Red Faction: Guerrilla ด้วย ในโหมดออนไลน์คุณจะได้พบกับบรรดาเหล่าอาวุธที่พึกลึกพิลั่นและเข้าฟาดฟันกันด้วยโหมดที่มีให้เลือกหลากหลายเช่น deathmatch, team deathmatch หรือ capture the flag (ยึดธง) ความสนุกของโหมดออนไลน์นั้นไม่สามรถบรรยายได้หมดจริงๆ (เพราะบรรยายไปก็เท่านั้น หามาเล่นเองดีกว่าครับ)
ภาพ : Online ด้วย Games on Windows live
โดยรวมแล้วก็ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า Red Faction: Guerrilla เป็นเกมนอกสายตาที่สนุกอย่างเหลือเชื่อจริงๆ ข้อด้อยทั้งหลากหลายที่ปรากฎอยู่ในเกมถูกชะล้างไปด้วยความสนุกในการทำลายล้างทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้าในโลกแบบ Open world ที่คุณสามารถกำหนดทางเดินและความเป็นไปได้ด้วยตัวคุณเอง หากคุณหน่ายกับการรักษาสภาพของทุกๆ อย่างในโลกแห่งความจริงเสียงระเบิดและการทุบทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าใน Red Faction: Guerrilla จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ที่บีบคั้นจนคุณเลิกที่จะเสพย์ (เล่น) มันไม่ได้แน่นอน
ภาพ : ฮว้ากกกกกก ! ไปซื้อของแท้มาเล่นซะ !
เพิ่มเติม : คำนิยามจากนักวิจารณ์เกมนอกเหนือจากผู้เขียน.
Jokeby : ชอบระเบิด ชอบระเบิด ชอบระเบิด ซื้อ Red Faction: Guerrilla
S.Logan : โดนใจใครที่เล่นเกมแบบ "เอามันส์"
ภาพ : ระเบิดมั้ย?