TIP-TODAY มาฝึกภาษาอังกฤษพร้อมกับการฟังเพลงด้วย Jet Audio กันดีกว่า
(เรียบเรียงโดย นายบิ๊กเสี่ยว BIGSIAW)
ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการเล่นเพลงมาแล้วครั้งหนึ่ง และก็มีผู้สนใจนำไปโพสต์ในเว็บส่วนตัวของตัวพอสมควร ถ้าท่านใดจำได้ก็คงร้องอ๋อกระมังครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการแสดงชื่อเพลง ที่เล่นจาก Audio CD ด้วยเจ้า Jet Audio นั่นเอง
คราวนี้ผมก็นึกลูกเล่นของเจ้า Jet Audio ได้ว่ามันแสดงเนื้อเพลงไปพร้อมๆ กับที่เล่นเพลงได้ด้วย หรือที่ในวงการเพลงคุ้นเคยก็คือ โชว์ Lyric นั่นเอง ว่าแล้วเลยหยิบมาปัดฝุ่นซะหน่อย แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แถมปัจจุบันก็มีโปรแกรมที่ทำหน้าที่เช่นนี้ได้ดีเยี่ยมอีกหลายตัว ความสามารถเกินกว่าเจ้า Jet Audio อีกหลายขุมด้วย แต่เหตุที่ผมเลือกเจ้า Jet Audio เนื่องจาก
1. เป็นความชอบส่วนตัวของผม
2. คงมีใครชอบนั่งเครื่องบินเจ็ทฟังเพลงอยู่ไม่น้อย
3. ไม่ต้องไปสรรค์หาโปรแกรมอื่นมาลงให้เมื่อยตุ้ม
4. เผยแพร่ความสามารถเจ้าเจ็ท เผื่อมีใครชอบมันแบบผมบ้าง
5. นึกสนุก... อยากเขียนบทความเป็นวิทยาทานไว้
ขอทำความเข้าใจกับแต่ละบรรทัดก่อนดังนี้
1. แต่ละบรรทัดจะขึ้นต้นด้วย Time Code ใน Format [mm:ss:ttt]
2. ด้านหลังของ Time Code คือข้อความที่เป็นเนื้อเพลง
3. จากรูปจะสังเกตเห็นว่า ผมใส่ข้อความ Intro: เข้าไปด้วย ซึ่งหมายถึง ดนตรีก่อนร้องเพลงนั่นเอง
4. Time Code ที่แสดงจะเป็นเวลาที่เริ่มต้นของการเริ่มระบายข้อความใน Lyric
5. เมื่อโปรแกรมเจอ Time Code ของบรรทัดถัดไป ก็จะเริ่มระบายข้อความนั้น เมื่อถึงเวลา
6. แต่ละบรรทัดไม่ควรยาวมาก ถ้าเป็นไปได้ควรทำทีละวรรคของเพลง
7. ควรแทรกบรรทัดว่าง ระหว่าง Time Code ด้วย เพื่อให้โปรแกรมตัดเนื้อเพลง และแสดงในเวลาที่เหมาะสม มิฉะนั้นโปรแกรมจะแสดงบรรทัดยาวมากๆ จนล้นหน้าจอ
หลักการใส่ Time Code คือ
1. สำหรับเพลงที่มีดนตรีนำก่อนการร้องเพลง ให้ใส่ข้อความ [00:00:000]Intro:
2. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อฟังเพลง
3. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อหยุดเพลง ก่อนที่จะมีการร้อง
4. คลิกปุ่ม Insert Time Code
5. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อฟังเพลงต่อจนจบวรรคที่เตรียมไว้
6. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อหยุดเพลง ก่อนที่จะมีการร้องวรรคต่อไป
7. คลิกปุ่ม Insert Time Code
8. ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนจบเพลง จากนั้นคลิกที่ File > Save Lyric to Tag
หมายเหตุ ช่วงกลางเพลง โดยมากแล้วจะมีดนตรีแทรกอยู่ สามารถใส่ข้อความ Solo: หรือ Instru: เข้าไปด้วย เพื่อรอจนกว่าจะมีการร้องเพลงต่อไป
เมื่อเจ้าเจ็ท Save Lyric ลงใน Tag ของเพลงเสร็จจะมีหน้าต่างปรากฏดังรูป
กลับเข้าสู่หน้าจอหลัก ด้วยการคลิก Exit
เล่นเพลงใหม่ จะพบว่าเจ้า Lyric มันทำงานแล้ว หน้าที่ของคุณตอนนี้คือ ตรวจสอบว่าการระบายข้อความตรงกับเพลงที่ร้องหรือไม่
ถ้าการระบายเนื้อเพลงไม่ตรงความเป็นจริง ให้กลับเข้าไปแก้ไขใน Lyric Maker โดยการกดปุ่ม F4 และให้เลือกที่ Load lyric in ID3v2 tag แล้วตอบ OK
เมื่อกลับเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ให้คลิกระบาย Time Code ที่ต้องการแก้ไข จากนั้นเลื่อน Time Step ไปยังตำแหน่งก่อนหน้าเวลาที่ต้องการแก้ไขนิดหน่อย แล้วใช้การ Insert Time Codeตามขั้นตอนก่อนหน้านี้ Time Code อันใหม่จะทับ Time Code อันเก่า เมื่อทำเสร็จก็อย่าลืม คลิกที่ File > Save Lyric to Tag เพื่ออัพเดท Tag ด้วย
การทำ Lyric นอกจากเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ยังสามารถทำเป็นภาษาไทยได้ด้วย ดังรูป
สำหรับท่านที่เชี่ยวชาญโปรแกรมอื่นๆ ที่ความสามารถมากกว่าเจ้าเจ็ทสุดโปรดของผม ก็ลองทำดูก็ได้ครับ หลักการคล้ายกันนั่นแหละ
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นความรู้ใหม่ๆ แต่อย่างใด ตามที่ผมแจ้งไว้ตั้งแต่ตอนต้นนะครับ แต่หลายคนหลายท่านบางทีมีของดีอยู่ในมือ ก็ไม่เคยได้หัด ได้ลองฝึกเสที ก็ให้ใช้เทคนิคต่างๆ ที่ผมเขียนไว้เป็นแนวทางแบบ Step by Step ได้เลยครับ มาถึงขั้นตอนนี้ คุณก็พร้อมที่จะโชว์เพลงพร้อม Lyric ฝีมือคุณให้ใครต่อใครได้หัดร้องเพลง หรือหัดฟังภาษาอังกฤษได้แล้ว แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าคุณคงภูมิใจไม่น้อย
ปล. ยินดีที่ได้แบ่งปัน
บิ๊กเสี่ยว
ถ้าท่านใดยังนึกไม่ออกว่าผมกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ก็ลองดูรูปผลลัพธ์ด้านล่างนี้ก่อนแล้วกันครับว่า เมื่อจบครบถ้วนทุกกระบวนท่าแล้ว เราจะได้อะไรจากเจ้าเจ็ท มันคล้ายๆ กับคาราโอเกะนั่นแหละครับ แต่มีข้อจำกัดกว่าตรงที่ว่า เจ้าเจ็ทจะระบายข้อความพร้อมกันทั้งบรรทัดเลย แทนที่จะเป็นการระบายทีละคำพร้อมกับที่เพลงเล่นแบบคาราโอเกะที่พวกเราคุ้นเคยกัน
หมายเหตุ ถ้าจะดัดแปลงมันให้เป็นคาราโอเกะก็พอได้นะ แต่ขอบอกว่าเหนื่อยแน่ครับ
ลีลาอยู่นั่นแหละ ไม่เข้าเรื่องสักที... อิอิ นี่แหละครับสไตล์นายบิ๊กเสี่ยว ทนๆ อ่านกันหน่อยแล้วกัน
เข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ ก่อนอื่นขอเช็คความพร้อมกันก่อนว่าจะต้องมีอะไรบ้าง
สิ่งที่ต้องมีและควรมี
1. โปรแกรม Jet Audio
(ถ้าไม่มีให้โหลดจากที่นี่ครับ http://www.filehippo.com/download_jetaudio/ ผมแนะนำให้ใช้เวอร์ชัน 6 นะครับ สำหรับตัวผมใช้เวอร์ชัน 6.2.8 Build 9938 อยู่)
2. มีเนื้อเพลงที่คุณต้องการทำ Lyric และควรพิมพ์ให้เสร็จใน Notepad
(ถ้าไม่มีให้ลองค้นจาก Google ครับ)
3. มีรูปปกอัลบั้ม หรือรูปที่คุณต้องการ
(ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เนื่องจากมันไม่ใช่สิ่งบังคับ)
4. มีรายละเอียดของเพลงเช่น ชื่อเพลง ชื่ออัลบั้ม ชื่อผู้แต่ง ชื่อวงดนตรี เป็นต้น
(ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เนื่องจากมันไม่ใช่สิ่งบังคับ)
ผลลัพธ์ที่ได้
1. ขณะเล่นเพลงจะมีเนื้อเพลงปรากฏให้อ่านด้วย
2. ถ้าเป็นเพลงภาษาอังกฤษ ก็จะได้ฝึกฟังภาษา ฝึกออกเสียง และฝึกอ่านไปในตัว ได้ประโยชน์ไปอีกแบบ
หลังจากที่มีทุกอย่างตามขั้นตอนที่แล้วเรียบร้อย ก็มาดูทีละขั้นตอนแล้วกันครับ... เริ่มต้นด้วยเปิดไฟล์เพลง MP3 ที่ต้องการทำ Lyric จากนั้นกดปุ่ม F4 เพื่อเข้าสู่คลิกหน้าของ Tag Edit
หมายเหตุ ผมทดลองแค่ไฟล์นามสกุล MP3 แต่ไฟล์นามสกุลอื่นผมยังไม่ได้ลองนะ แต่โดยหลักการแล้วก็น่าจะใช้ได้ โดยเฉพาะไฟล์นามสกุล WMA เป็นต้น
อีกวิธีการหนึ่งสำหรับการเข้าสู่หน้า Tag Edit คือ คลิกที่ Playlist
จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์เพลง เลือก Edit > Edit Tag ตามรูป
ให้ป้อนรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องการ เช่น
File Name: ชื่อไฟล์เพลง
Title: ชื่อที่ต้องการให้แสดงใน Lyric
Artist: ชื่อศิลปิน หรือชื่อวง
Album: ชื่ออัลบั้ม
Year: ปีที่ออกเผยแพร่
Track: ลำดับเพลงในอัลบั้ม
Comment: รายละเอียดที่ต้องการให้เพิ่มเติม เช่น ข้อมูลได้มาจากแหล่งใด หรือข้อความใดๆ ตามต้องการ เป็นต้น
Genre: แนวเพลง
ควรติ๊กตรงช่อง Write to ID3v2 tag also
หากต้องการใส่รูปปกอัลบั้ม หรือรูปศิลปิน หรือรูปที่ต้องการ ให้เลือกที่แท็บ Picture แล้ว Browse ไปยังตำแหน่งรูป หากต้องการเอารูปออกให้คลิกที่ Clear
หมายเหตุ วันและเวลาของไฟล์เพลงที่มีการ Edit Tag จะอัพเดทใหม่ ทันทีที่ตอบ OK และขนาดของไฟล์เพลง MP3 นั้นจะโตขึ้นตามรูปที่ใส่เข้าไปด้วย
มาถึงขั้นตอนที่เป็นพระเอกของเรื่องแล้วนะครับ ที่แท็บ Lyric ให้คลิกที่ Run Lyric Maker (for synchronized lyric)
ถ้าเพลงที่เลือกนั้น ไม่เคยมีการใส่ Lyric เลยก็จะเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ทันที แต่ถ้าเพลงนั้นมี Lyric อยู่แล้ว จะมีกรอบหน้าต่างเล็กๆ อีกอันหนึ่งซ้อนขึ้นมาด้วย ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ
Load lyric in ID3v2 tag หมายถึง โหลด Lyric ที่มีอยู่เดิม (ควรเลือก Option นี้)
Dont load หมายถึง แม้ว่าจะมี Lyric อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องการโหลดมาใช้
เมื่อเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ให้คัดลอกเนื้อเพลงที่เตรียมไว้ใน Notepad มาวางลงใน พื้นที่ที่โปรแกรมเตรียมไว้ ดังรูป
จะสังเกตเห็นว่ามี Tool ที่ให้ใช้งานอยู่หลายตัว อยากจะรู้ว่ามันทำอะไรให้ลองคลิก Play/Pause ดู จากนั้นให้คลิกปุ่มที่ต้องการทดสอบ (หรือถ้าใครมีพื้นการใช้งานโปรแกรมอยู่แล้ว ก็จะทราบได้ทันทีว่าปุ่มต่างๆ มีไว้เพื่ออะไร)
ในที่นี้ผมจะใช้เพียงแค่ 2 ปุ่มเท่านั้นคือ
1. ปุ่ม Play/Pause และ
2.ปุ่ม Insert Time Code
ขั้นตอนนี้สำคัญครับ คือ ต้องใช้โสตประสาทฟังเพลง และมือคลิกปุ่มให้ทันเวลา ถ้าไม่ทันก็รูด Time Step ย้อนกลับมาใหม่ หรือจะใช้ปุ่มที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้ก็ได้
TIP-TODAY มาฝึกภาษาอังกฤษพร้อมกับการฟังเพลงด้วย Jet Audio กันดีกว่า
TIP-TODAY มาฝึกภาษาอังกฤษพร้อมกับการฟังเพลงด้วย Jet Audio กันดีกว่า
(เรียบเรียงโดย นายบิ๊กเสี่ยว BIGSIAW)
ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการเล่นเพลงมาแล้วครั้งหนึ่ง และก็มีผู้สนใจนำไปโพสต์ในเว็บส่วนตัวของตัวพอสมควร ถ้าท่านใดจำได้ก็คงร้องอ๋อกระมังครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการแสดงชื่อเพลง ที่เล่นจาก Audio CD ด้วยเจ้า Jet Audio นั่นเอง
คราวนี้ผมก็นึกลูกเล่นของเจ้า Jet Audio ได้ว่ามันแสดงเนื้อเพลงไปพร้อมๆ กับที่เล่นเพลงได้ด้วย หรือที่ในวงการเพลงคุ้นเคยก็คือ โชว์ Lyric นั่นเอง ว่าแล้วเลยหยิบมาปัดฝุ่นซะหน่อย แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แถมปัจจุบันก็มีโปรแกรมที่ทำหน้าที่เช่นนี้ได้ดีเยี่ยมอีกหลายตัว ความสามารถเกินกว่าเจ้า Jet Audio อีกหลายขุมด้วย แต่เหตุที่ผมเลือกเจ้า Jet Audio เนื่องจาก
1. เป็นความชอบส่วนตัวของผม
2. คงมีใครชอบนั่งเครื่องบินเจ็ทฟังเพลงอยู่ไม่น้อย
3. ไม่ต้องไปสรรค์หาโปรแกรมอื่นมาลงให้เมื่อยตุ้ม
4. เผยแพร่ความสามารถเจ้าเจ็ท เผื่อมีใครชอบมันแบบผมบ้าง
5. นึกสนุก... อยากเขียนบทความเป็นวิทยาทานไว้
ขอทำความเข้าใจกับแต่ละบรรทัดก่อนดังนี้
1. แต่ละบรรทัดจะขึ้นต้นด้วย Time Code ใน Format [mm:ss:ttt]
2. ด้านหลังของ Time Code คือข้อความที่เป็นเนื้อเพลง
3. จากรูปจะสังเกตเห็นว่า ผมใส่ข้อความ Intro: เข้าไปด้วย ซึ่งหมายถึง ดนตรีก่อนร้องเพลงนั่นเอง
4. Time Code ที่แสดงจะเป็นเวลาที่เริ่มต้นของการเริ่มระบายข้อความใน Lyric
5. เมื่อโปรแกรมเจอ Time Code ของบรรทัดถัดไป ก็จะเริ่มระบายข้อความนั้น เมื่อถึงเวลา
6. แต่ละบรรทัดไม่ควรยาวมาก ถ้าเป็นไปได้ควรทำทีละวรรคของเพลง
7. ควรแทรกบรรทัดว่าง ระหว่าง Time Code ด้วย เพื่อให้โปรแกรมตัดเนื้อเพลง และแสดงในเวลาที่เหมาะสม มิฉะนั้นโปรแกรมจะแสดงบรรทัดยาวมากๆ จนล้นหน้าจอ
หลักการใส่ Time Code คือ
1. สำหรับเพลงที่มีดนตรีนำก่อนการร้องเพลง ให้ใส่ข้อความ [00:00:000]Intro:
2. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อฟังเพลง
3. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อหยุดเพลง ก่อนที่จะมีการร้อง
4. คลิกปุ่ม Insert Time Code
5. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อฟังเพลงต่อจนจบวรรคที่เตรียมไว้
6. คลิกปุ่ม Play/Pause เพื่อหยุดเพลง ก่อนที่จะมีการร้องวรรคต่อไป
7. คลิกปุ่ม Insert Time Code
8. ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนจบเพลง จากนั้นคลิกที่ File > Save Lyric to Tag
หมายเหตุ ช่วงกลางเพลง โดยมากแล้วจะมีดนตรีแทรกอยู่ สามารถใส่ข้อความ Solo: หรือ Instru: เข้าไปด้วย เพื่อรอจนกว่าจะมีการร้องเพลงต่อไป
เมื่อเจ้าเจ็ท Save Lyric ลงใน Tag ของเพลงเสร็จจะมีหน้าต่างปรากฏดังรูป
กลับเข้าสู่หน้าจอหลัก ด้วยการคลิก Exit
เล่นเพลงใหม่ จะพบว่าเจ้า Lyric มันทำงานแล้ว หน้าที่ของคุณตอนนี้คือ ตรวจสอบว่าการระบายข้อความตรงกับเพลงที่ร้องหรือไม่
ถ้าการระบายเนื้อเพลงไม่ตรงความเป็นจริง ให้กลับเข้าไปแก้ไขใน Lyric Maker โดยการกดปุ่ม F4 และให้เลือกที่ Load lyric in ID3v2 tag แล้วตอบ OK
เมื่อกลับเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ให้คลิกระบาย Time Code ที่ต้องการแก้ไข จากนั้นเลื่อน Time Step ไปยังตำแหน่งก่อนหน้าเวลาที่ต้องการแก้ไขนิดหน่อย แล้วใช้การ Insert Time Codeตามขั้นตอนก่อนหน้านี้ Time Code อันใหม่จะทับ Time Code อันเก่า เมื่อทำเสร็จก็อย่าลืม คลิกที่ File > Save Lyric to Tag เพื่ออัพเดท Tag ด้วย
การทำ Lyric นอกจากเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ยังสามารถทำเป็นภาษาไทยได้ด้วย ดังรูป
สำหรับท่านที่เชี่ยวชาญโปรแกรมอื่นๆ ที่ความสามารถมากกว่าเจ้าเจ็ทสุดโปรดของผม ก็ลองทำดูก็ได้ครับ หลักการคล้ายกันนั่นแหละ
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นความรู้ใหม่ๆ แต่อย่างใด ตามที่ผมแจ้งไว้ตั้งแต่ตอนต้นนะครับ แต่หลายคนหลายท่านบางทีมีของดีอยู่ในมือ ก็ไม่เคยได้หัด ได้ลองฝึกเสที ก็ให้ใช้เทคนิคต่างๆ ที่ผมเขียนไว้เป็นแนวทางแบบ Step by Step ได้เลยครับ มาถึงขั้นตอนนี้ คุณก็พร้อมที่จะโชว์เพลงพร้อม Lyric ฝีมือคุณให้ใครต่อใครได้หัดร้องเพลง หรือหัดฟังภาษาอังกฤษได้แล้ว แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าคุณคงภูมิใจไม่น้อย
ปล. ยินดีที่ได้แบ่งปัน
บิ๊กเสี่ยว
ถ้าท่านใดยังนึกไม่ออกว่าผมกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ก็ลองดูรูปผลลัพธ์ด้านล่างนี้ก่อนแล้วกันครับว่า เมื่อจบครบถ้วนทุกกระบวนท่าแล้ว เราจะได้อะไรจากเจ้าเจ็ท มันคล้ายๆ กับคาราโอเกะนั่นแหละครับ แต่มีข้อจำกัดกว่าตรงที่ว่า เจ้าเจ็ทจะระบายข้อความพร้อมกันทั้งบรรทัดเลย แทนที่จะเป็นการระบายทีละคำพร้อมกับที่เพลงเล่นแบบคาราโอเกะที่พวกเราคุ้นเคยกัน
หมายเหตุ ถ้าจะดัดแปลงมันให้เป็นคาราโอเกะก็พอได้นะ แต่ขอบอกว่าเหนื่อยแน่ครับ
ลีลาอยู่นั่นแหละ ไม่เข้าเรื่องสักที... อิอิ นี่แหละครับสไตล์นายบิ๊กเสี่ยว ทนๆ อ่านกันหน่อยแล้วกัน
เข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ ก่อนอื่นขอเช็คความพร้อมกันก่อนว่าจะต้องมีอะไรบ้าง
สิ่งที่ต้องมีและควรมี
1. โปรแกรม Jet Audio
(ถ้าไม่มีให้โหลดจากที่นี่ครับ http://www.filehippo.com/download_jetaudio/ ผมแนะนำให้ใช้เวอร์ชัน 6 นะครับ สำหรับตัวผมใช้เวอร์ชัน 6.2.8 Build 9938 อยู่)
2. มีเนื้อเพลงที่คุณต้องการทำ Lyric และควรพิมพ์ให้เสร็จใน Notepad
(ถ้าไม่มีให้ลองค้นจาก Google ครับ)
3. มีรูปปกอัลบั้ม หรือรูปที่คุณต้องการ
(ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เนื่องจากมันไม่ใช่สิ่งบังคับ)
4. มีรายละเอียดของเพลงเช่น ชื่อเพลง ชื่ออัลบั้ม ชื่อผู้แต่ง ชื่อวงดนตรี เป็นต้น
(ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เนื่องจากมันไม่ใช่สิ่งบังคับ)
ผลลัพธ์ที่ได้
1. ขณะเล่นเพลงจะมีเนื้อเพลงปรากฏให้อ่านด้วย
2. ถ้าเป็นเพลงภาษาอังกฤษ ก็จะได้ฝึกฟังภาษา ฝึกออกเสียง และฝึกอ่านไปในตัว ได้ประโยชน์ไปอีกแบบ
หลังจากที่มีทุกอย่างตามขั้นตอนที่แล้วเรียบร้อย ก็มาดูทีละขั้นตอนแล้วกันครับ... เริ่มต้นด้วยเปิดไฟล์เพลง MP3 ที่ต้องการทำ Lyric จากนั้นกดปุ่ม F4 เพื่อเข้าสู่คลิกหน้าของ Tag Edit
หมายเหตุ ผมทดลองแค่ไฟล์นามสกุล MP3 แต่ไฟล์นามสกุลอื่นผมยังไม่ได้ลองนะ แต่โดยหลักการแล้วก็น่าจะใช้ได้ โดยเฉพาะไฟล์นามสกุล WMA เป็นต้น
อีกวิธีการหนึ่งสำหรับการเข้าสู่หน้า Tag Edit คือ คลิกที่ Playlist
จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์เพลง เลือก Edit > Edit Tag ตามรูป
ให้ป้อนรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องการ เช่น
File Name: ชื่อไฟล์เพลง
Title: ชื่อที่ต้องการให้แสดงใน Lyric
Artist: ชื่อศิลปิน หรือชื่อวง
Album: ชื่ออัลบั้ม
Year: ปีที่ออกเผยแพร่
Track: ลำดับเพลงในอัลบั้ม
Comment: รายละเอียดที่ต้องการให้เพิ่มเติม เช่น ข้อมูลได้มาจากแหล่งใด หรือข้อความใดๆ ตามต้องการ เป็นต้น
Genre: แนวเพลง
ควรติ๊กตรงช่อง Write to ID3v2 tag also
หากต้องการใส่รูปปกอัลบั้ม หรือรูปศิลปิน หรือรูปที่ต้องการ ให้เลือกที่แท็บ Picture แล้ว Browse ไปยังตำแหน่งรูป หากต้องการเอารูปออกให้คลิกที่ Clear
หมายเหตุ วันและเวลาของไฟล์เพลงที่มีการ Edit Tag จะอัพเดทใหม่ ทันทีที่ตอบ OK และขนาดของไฟล์เพลง MP3 นั้นจะโตขึ้นตามรูปที่ใส่เข้าไปด้วย
มาถึงขั้นตอนที่เป็นพระเอกของเรื่องแล้วนะครับ ที่แท็บ Lyric ให้คลิกที่ Run Lyric Maker (for synchronized lyric)
ถ้าเพลงที่เลือกนั้น ไม่เคยมีการใส่ Lyric เลยก็จะเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ทันที แต่ถ้าเพลงนั้นมี Lyric อยู่แล้ว จะมีกรอบหน้าต่างเล็กๆ อีกอันหนึ่งซ้อนขึ้นมาด้วย ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ
Load lyric in ID3v2 tag หมายถึง โหลด Lyric ที่มีอยู่เดิม (ควรเลือก Option นี้)
Dont load หมายถึง แม้ว่าจะมี Lyric อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องการโหลดมาใช้
เมื่อเข้าสู่หน้าต่างของ Lyric Maker ให้คัดลอกเนื้อเพลงที่เตรียมไว้ใน Notepad มาวางลงใน พื้นที่ที่โปรแกรมเตรียมไว้ ดังรูป
จะสังเกตเห็นว่ามี Tool ที่ให้ใช้งานอยู่หลายตัว อยากจะรู้ว่ามันทำอะไรให้ลองคลิก Play/Pause ดู จากนั้นให้คลิกปุ่มที่ต้องการทดสอบ (หรือถ้าใครมีพื้นการใช้งานโปรแกรมอยู่แล้ว ก็จะทราบได้ทันทีว่าปุ่มต่างๆ มีไว้เพื่ออะไร)
ในที่นี้ผมจะใช้เพียงแค่ 2 ปุ่มเท่านั้นคือ
1. ปุ่ม Play/Pause และ
2.ปุ่ม Insert Time Code
ขั้นตอนนี้สำคัญครับ คือ ต้องใช้โสตประสาทฟังเพลง และมือคลิกปุ่มให้ทันเวลา ถ้าไม่ทันก็รูด Time Step ย้อนกลับมาใหม่ หรือจะใช้ปุ่มที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้ก็ได้