อีก ๓ วัน

กระทู้สนทนา
บันทึกของผู้เฒ่า ๒๘ ธ.ค.๕๕

อีก ๓ วัน
ก็จะหมดเวลาเข้าพันทิปเก่าแล้ว และจะได้พบพันทิปโฉมใหม่ ที่ไฉไลกว่าเดิม

แต่วันนี้วางกระทู้แลหลังไปดูสามก๊ก ตั้งแต่ตีห้ากว่า ๆ ก็ยังไม่มีเพื่อนเข้ามาคุยเลย
ปรากฏว่า กระทู้ไม่ขึ้นในหน้ารวม แต่เปิด mykratoo ก็เจอตามปกติ
ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวนี้เราคุยได้แล้วว่า มีคติประจำตัวใหม่
ซึ่งความจริงปฏิบัติมานานแล้ว คือ

อดได้ ทนได้ รอได้ ให้ได้ อภัยได้

เมื่อกระทู้เมื่อเช้าไม่มา เขียนใหม่ก็ได้

หัวข้อ กินด้วยกิเลส

เรื่องของเรามีแต่ซ้ำซาก เพราะไม่ค่อยได้ออกไปเห็นโลกบ่อยนัก

เมื่อวันที่ ๒๕ ธ.ค. มีเวลาเหมาะจึงออกไปตัดผม ถอนขนตา
ขึ้นรถเมล์จากหน้าวชิรพยาบาล ไปลงหน้ามหาวิทยาลัยสวนดุสิต เพียงสองป้าย เสียดายค่าแท็กซี่
เอาสองมือเกาะราว สองเท้ายัน เดี๋ยวเดียวก็ถึง

ตัดผมที่ปากตรอกวัดราชาเสร็จแล้วออกมาข้ามถนนกลับฝั่งสวนสุนันทา
เมื่อนั่งในร้านตัดผม ไม่เห็นมีคนข้ามถนนกดไฟแดงสำหรับคนข้ามเลย กี่กลุ่ม ๆ ทั้งเด็กผู้ใหญ่ นิสิตนักศึกษา
เหลียวซ้ายแลขวาข้ามให้รถชลอให้ทั้งนั้น

เมื่อถึงตาเราจึงกดให้ดูเป็นตัวอย่าง จึงมีคนยืนรอด้วยหลายคน แต่ถึงกระนั้น พอไฟเขียวให้ข้ามได้ ก็ยังมีคนอุตส่าห์บอกว่า ไปได้แล้วลุ้ง

ขึ้นรถเมล์อีกสองป้ายไปลงเทเวศร์ ซื้อยาที่ร้านฝั่งตลาด
คนแน่นเหมือนเขาแจกฟรี
จนต้องมีเชือกกั้นเข้าทางออกทาง

เมื่อยืนจัดกระเป๋าสะพายเอายายัดใส่ไม่ให้เกะกะ
ก็มีชายกลางคนมาถามว่า ทำไมร้านนี้คนเข้าจนแน่นขนาดนี้
ก็บอกว่า เขาขายถูกกว่าร้านอื่นมาก
ยกตัวอย่างยาช่วยบันเทาโรคกระเพาะ ขายกันซองละ ๕ บาท
ที่นี่ขายซองละ ๓.๕๐ บาท
ร้อยเม็ดลดลงไปเท่าไร ๑๕๐ บาทเชียวนะ

เขาถามต่อว่า มียาครบทุกอย่างไหม
เราก็ว่ายาออกเต็มหิ้งเต็มตู้รอบร้านขนาดนี้ คงครบมั้ง
เขาก็เข้าไปต่อคิว เรายังไม่ทันเสร็จเรื่องก็ออกมา
บอกว่ายาที่จะซื้อหมด คงจะเชื่อตามที่เราบอกแล้วนะ

ออกมายืนริมถนน รอรถเมล์สาย ๕๓ จะไปวัดมหาธาตุท่าพระจันทร์
บริจาคเงินทำบุญ ถวายภัตตาหารเพล นักศึกษามหาวิทยาลัยสงฆ์ที่วังน้อย

แต่รออยู่หลายอึดใจ รถสายนี้ก็ยังไม่มา ชักเบื่อ
เดี๋ยวเปลี่ยนใจไปทางทิศตรงข้ามดีกว่า


เมื่อรอรถเมล์สาย ๕๓ นานพอสมควรไม่มา
ก็ข้ามฟากไปริมคลอง ขึ้นรถแท็กซี่ไปมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

บริจาคเงินบำรุงกิจการเก็บขนศพ และเผาใบเสร็จอุทิศส่วนกุศล
ให้พ่อแม่และผู้มีคุณแล้ว ก็เดินลัดเลาะมาทางโรงพยาบาลกลาง
วันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์ จึงไม่มีการติดตลาดคลองถม เดินได้สบายมาก

ผ่านหน้าโรงพยาบาล มีอาหารที่กินได้หลายอย่าง
แต่ตั้งใจจะไปหาร้านรถเข็นในตรอกข้างโรงพยาบาล

สั่งข้าว ขนมจีน ราดแกงปลาดุก ใส่น้ำแกงนี้ดเดียว
เอาน้ำปลาราด กินให้หายอยาก เพราะไม่ได้กินมานานม้าก

เผ็ดก็กินน้ำแข็งเปล่าตาม ข้าวคำน้ำคำ จนหมดจาน
ต้องกินน้ำแข็งแก้เผ็ดอยู่อีกพักใหญ่ พอทุเลาจึงออกมาที่ป้ายหน้าโรงพยาบาล
คอยรถปรับอากาศสาย ๔๙ จนแทบอ่อนใจ
เพราะคันที่แล้วออกไปหลัด ๆ เมื่อยังเดินไม่ถึงป้าย

ในที่สุดก็มีรถสีแดงฟรีมาจอดรับ เลยไม่เสียค่าโดยสาร ๑๐ บาท
ชดเชยค่าแท็กซี่ขามาจากเทเวศร์ ซึ่งจ่ายไป ๘๐ บาท

ได้บุญเท่าไรไม่ทราบ แต่มีความสุขมากครับ

ปัจจุบันนี้เวลาเดินผ่านร้านข้าวแกง เห็นขนมจีนน้ำยา
แกงปลาดุก แกงปลาช่อน แกงลูกชิ้นปลากราย
จะเกิดกิเลส คือความอยากกินมาก

แต่ก็ทนได้ นานน้านจึงจะกินสักครั้ง ก็เหมือนกิน
อะไรที่มันมีไฟลุกท่วมจานน่ะแหละ
นี่คือการกินตามใจกิเลสละ.

#########
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่