ความรู้สึกหลังจากดูจบคือ...เศร้าใจ
คิดนะว่าถ้าได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ตอนอายุ 12 จะดีแค่ไหน ตอนที่เรายังเป็นแค่เด็กน้อยที่ให้ความสำคัญกับโลกในจินตนาการพอๆกับโลกแห่งความเป็นจริง เราในตอนนั้นคงดูหนังเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกร่วมไปกับมันได้อย่างเต็มที่ พร้อมมองหาความประทับใจ ไม่ใช่แค่รอให้ตัวหนังสร้างความประทับใจให้กับเรา เหมือนเมื่อตอนที่ได้อ่านและดูLOTRsครั้งแรก ตอนนั้นประทับใจคอนเซ็ปต์สีเทาของความดีเลวจนเขียนออกมาได้เต็มหน้ากระดาษ ตอนนี้กลับได้ความประทับใจจากรีวิวของเด็กคนนึงที่ดูTHแล้วได้อะไรยิ่งกว่าเรามากมายนัก
สิ่งที่เขาได้คือแรงบันดาลใจที่จะทำตามความคิดความเชื่อของตัวเราเอง ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ไม่ว่าเราจะเป็นคนวงนอกหรือถูกมองว่าเป็นคนนอกวง เหตุผลของการกระทำอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ส่วนผลลัพธ์ที่ตามมาจะยิ่งใหญ่ก็ดี ไม่ยิ่งใหญ่ก็ช่าง ขอแค่ได้ทำตามที่ใจต้องการก็พอ
นี่คือสิ่งที่เด็กคนนึงได้จากการดูบิลโบระเห็จออกจากบ้าน ช่วยเหล่าคนแคระทวงคืนบ้านเกิด
ว่าแล้วก็อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึงจัง
จะว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ไม่ใช่ แต่ความเป็นเด็กในตัวมันเริ่มจางลงไปทุกที
The Hobbit กับวิกฤตคนกลางวัย
คิดนะว่าถ้าได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ตอนอายุ 12 จะดีแค่ไหน ตอนที่เรายังเป็นแค่เด็กน้อยที่ให้ความสำคัญกับโลกในจินตนาการพอๆกับโลกแห่งความเป็นจริง เราในตอนนั้นคงดูหนังเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกร่วมไปกับมันได้อย่างเต็มที่ พร้อมมองหาความประทับใจ ไม่ใช่แค่รอให้ตัวหนังสร้างความประทับใจให้กับเรา เหมือนเมื่อตอนที่ได้อ่านและดูLOTRsครั้งแรก ตอนนั้นประทับใจคอนเซ็ปต์สีเทาของความดีเลวจนเขียนออกมาได้เต็มหน้ากระดาษ ตอนนี้กลับได้ความประทับใจจากรีวิวของเด็กคนนึงที่ดูTHแล้วได้อะไรยิ่งกว่าเรามากมายนัก
สิ่งที่เขาได้คือแรงบันดาลใจที่จะทำตามความคิดความเชื่อของตัวเราเอง ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ไม่ว่าเราจะเป็นคนวงนอกหรือถูกมองว่าเป็นคนนอกวง เหตุผลของการกระทำอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ส่วนผลลัพธ์ที่ตามมาจะยิ่งใหญ่ก็ดี ไม่ยิ่งใหญ่ก็ช่าง ขอแค่ได้ทำตามที่ใจต้องการก็พอ
นี่คือสิ่งที่เด็กคนนึงได้จากการดูบิลโบระเห็จออกจากบ้าน ช่วยเหล่าคนแคระทวงคืนบ้านเกิด
ว่าแล้วก็อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึงจัง
จะว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ไม่ใช่ แต่ความเป็นเด็กในตัวมันเริ่มจางลงไปทุกที