ไม่ได้จะมาดราม่าครับ เห็นหลายกระทู้แล้ว คนตั้งจะโดนเหน็บแนมตลอด ...
ส่วนตัวจากที่ได้อ่านและได้คิดตาม ก็ไม่ได้คิดจะสนใจว่าใครจะเดือดร้อนหรือเปล่า
เพราะมันเป็นชีวิตของเขา ไม่อยากจะมานั่งคิดแทน ใครที่ไม่พร้อมแล้วทะลึ่งออกรถ
ก็เดือดร้อนรับกรรมที่ก่อกันไปเอง ผมไม่ได้คิดถึงตรงจุดนี้

แต่สิ่งที่คิดคือหากมีนโยบายนี้ออกมา ทำไมจะต้องกำหนดกรอบเวลา และทำไม
ไม่กำหนดไปเลยว่าตลอดไป หากคิดจะทำเพื่อคนที่อยากจะมีรถใช้งานส่วนตัวจริงๆ
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่รีบออกรถเพราะคิดอยากจะได้ส่วนต่างตรงนี้ ทั้งที่ยังไม่พร้อม
หากว่านโยบายนี้ไม่กำหนดกรอบเวลา แต่ให้คนที่ยังไม่เคยมีรถได้ใช้โอกาสนี้โดยทั่วกัน
ผมคิดว่าอนาคตอาจจะมีคนที่จะเกิดปัญหาเรื่องไม่มีกำลังพอที่จะส่งรถน้อยลง
เพราะเขาจะคิดมีรถก็ต่อเมื่อพร้อมจริงๆ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร

สังเกตดูทุกๆ คนทั่วไป หากจะคิดซื้ออะไรซักอย่าง แต่มีกฏเกณฑ์เรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง
มักจะมีปัญหากับของที่ซื้อมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไม่ถูกใจ ของราคาแพง ฯลฯ
ส่วนตัวคนในครอบครัวก็มีสิทธิ์ด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องใช้ เพราะรถก็มีอยู๋แล้ว
ใช้ด้วยกันได้ หรือหากจะซื้อใหม่จริงๆ ก็คงจะซื้อและไม่ได้คาดหวังกับนโยบายนี้
เลยคิดว่ามันจะเป็นดาบสองคม สำหรับคนที่คิดว่าเอาตัวรอดได้ผมว่ามีและเยอะด้วย
แต่ที่คิดว่าเอาตัวรอดไม่ได้ คิดว่าก็มีและเยอะด้วยเหมือนกัน เพราะเห็ฯจากคนรอบข้าง

บ้านมีรถอยู่แล้ว แต่ลูกอยากได้เลยซื้อให้ บ้างก็อยากเห็นลูกสบาย แต่ไม่คิดว่า
ลูกจะลำบาก จะเครียดเพราะเรื่องผ่อนรถไม่ไหวแทน บ้างก็ซื้อมาจอด(ซื้อมาทำไมเนี้ย) ...

สำหรับกระทู้นี้เพื่ออยากจะรู้ความคิดเป็นของคนอื่นอย่างเป็นกลาง สำหรับผมแล้ว
มันคือนโยบายเพื่อประชานิยม ในกลุ่มของคนส่วนน้อย เพราะจะมีอีกส่วนหนึ่งที่จะลำบาก
เพราะไม่ประเมินกำลังตัวเอง และความโลภครอบงำ หากนโยบายนี้มีความจริงใจ
ไม่ควรมีกำหนดกรอบเวลา เพราะทุกๆ คนจะได้ใช้สิทธิ์ของตนเองที่พึงมีโดยเท่าเทียมกัน ...

หลายกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเห็น คห.แรก อ่านแล้วก็ปิดเลย เพราะเหน็บแนมกันไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นรบกวนขอความคิดเห็นที่เป็นกลางของเพื่อนสมาชิกด้วยครับ และใครจะมารับภาระในวันที่ผิดสัญญา ...
ผมมองไม่ออกจริงๆ ...