ผมมีลุงคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เท่าที่จำความได้ก็ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาก่อน ไม่ว่าจะไปทำงานอะไรก็สร้างปัญหา ก่อเรื่องต่างๆ มากมาย วันๆ ก็อยู่บ้าน ตกกลางคืนก็เมา ก่อเรื่องแทบทุกครั้ง
ทีนี้เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 7 ปีก่อน จู่ๆ ก็ล้มลง และพบว่าเส้นเลือดในสมองแตก และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ยังไม่รู้จุดจบ
เมื่อเขาเส้นเลือดในสมองแตกก็กลายเป็นอัมพฤกต์ซึกซ้าย ตอนแรกนั้นได้พาไปอยู่สถานพักฟื้นแห่งหนึ่ง เสียเงินเยอะมากช่วงนั้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา จนหมอที่ศิริราชให้เข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลเลย เพื่อทำกายภาคบำบัด ตอนนั้นหมอประมาณว่า อาจจะ 3 เดือนก็จะหาย
แต่เนื่องจากความขี้เกียจ เลยไม่เคยทำกายภาคจริงจัง ผ่านไปหลายเดือนหมอก็ไล่กลับไป เพราะเปลืองที่ เอาเตียงให้คนป่วยที่คิดจะหายดีกว่า ดังนั้นเขาจึงกลับมาบ้าน
นิสัยเดิมออกมาหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เช้าตื่น จะกินข้าวก็มีเตรียมถึงที่ กินเสร็จนอนดูทีวี เที่ยงก็กินแล้วก็นอนต่อ เย็นก็เช่นเดียวกัน ดูทีวีก็เปิดเสียงดังๆ ถึงเกือบเที่ยงคืน
อาจจะเป็นเพราะย่าเป็นห่วงเขามาก เตรียมข้าว บริการทุกอย่างเต็มที่ จะเดินไปไหนก็กลัวเขาจะล้ม
ตอนออกจากโรงพยาบาลใหม่ๆ หมอให้ทำกายภาพ 2 วันต่ออาทิตย์ แต่ก็ลดเหลือ 1 วัน จนหมอบอกว่าไม่มีพัฒนาการใดใดเลย ไม่ต้องมาทำก็ได้เปลืองที่คนอื่น แต่ย่าก็ไปขอร้องให้ทำ เลยทำแค่อาทิตย์ละวันเดียว วันๆ อยู่บ้านก็เดินรวมกันไม่ถึง 10 นาที
ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ ชอบหงุดหงิดใส่ ไม่ได้ดั่งใจก็กระทีบเท้า จนย่าต้องยอมๆ ไป
นิสัยเสียส่วนตัวยังมีอีกเยอะ แต่ไม่รู้จะเล่ายังไงดี
จะไปรักษาไหนก็ไม่เอา ขี้เกียจ อยากได้แบบกินยาเม็ดเดียวหายเลย
เหนื่อยใจจริงๆ ครับ ผมควรทำไงดี
เหนื่อยใจกับความขี้เกียจและนิสัยเสีย ของคนป่วยครับ
ทีนี้เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 7 ปีก่อน จู่ๆ ก็ล้มลง และพบว่าเส้นเลือดในสมองแตก และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ยังไม่รู้จุดจบ
เมื่อเขาเส้นเลือดในสมองแตกก็กลายเป็นอัมพฤกต์ซึกซ้าย ตอนแรกนั้นได้พาไปอยู่สถานพักฟื้นแห่งหนึ่ง เสียเงินเยอะมากช่วงนั้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา จนหมอที่ศิริราชให้เข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลเลย เพื่อทำกายภาคบำบัด ตอนนั้นหมอประมาณว่า อาจจะ 3 เดือนก็จะหาย
แต่เนื่องจากความขี้เกียจ เลยไม่เคยทำกายภาคจริงจัง ผ่านไปหลายเดือนหมอก็ไล่กลับไป เพราะเปลืองที่ เอาเตียงให้คนป่วยที่คิดจะหายดีกว่า ดังนั้นเขาจึงกลับมาบ้าน
นิสัยเดิมออกมาหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เช้าตื่น จะกินข้าวก็มีเตรียมถึงที่ กินเสร็จนอนดูทีวี เที่ยงก็กินแล้วก็นอนต่อ เย็นก็เช่นเดียวกัน ดูทีวีก็เปิดเสียงดังๆ ถึงเกือบเที่ยงคืน
อาจจะเป็นเพราะย่าเป็นห่วงเขามาก เตรียมข้าว บริการทุกอย่างเต็มที่ จะเดินไปไหนก็กลัวเขาจะล้ม
ตอนออกจากโรงพยาบาลใหม่ๆ หมอให้ทำกายภาพ 2 วันต่ออาทิตย์ แต่ก็ลดเหลือ 1 วัน จนหมอบอกว่าไม่มีพัฒนาการใดใดเลย ไม่ต้องมาทำก็ได้เปลืองที่คนอื่น แต่ย่าก็ไปขอร้องให้ทำ เลยทำแค่อาทิตย์ละวันเดียว วันๆ อยู่บ้านก็เดินรวมกันไม่ถึง 10 นาที
ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ ชอบหงุดหงิดใส่ ไม่ได้ดั่งใจก็กระทีบเท้า จนย่าต้องยอมๆ ไป
นิสัยเสียส่วนตัวยังมีอีกเยอะ แต่ไม่รู้จะเล่ายังไงดี
จะไปรักษาไหนก็ไม่เอา ขี้เกียจ อยากได้แบบกินยาเม็ดเดียวหายเลย
เหนื่อยใจจริงๆ ครับ ผมควรทำไงดี