ความรู้สึกแรกที่ได้รับหลังจากดูหนังเรื่องนี้คืองุนงงต่อสิ่งที่หนังตั้งคำถามต่อเรา ทั้งที่ตอนที่แวะเข้าร้านหนังสือเห็นหนังสือเล่มนี้วางไว้ในชั้นหนังสือแนะนำก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรนัก เพราะรสนิยมที่ไม่ที่ค่อยสนใจในเรื่องของความเชื่อในศาสนา หรือศรัทธาในพระเป็นเจ้า เนื่องจากการที่ได้ศึกษามาในสายวิทยาศาสตร์มา แต่หลังจากดูหนังเรื่องนี้เสร็จ ต้องตรงดิ่งไปร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือเรื่องนี้กลับมาอ่านเลยทีเดียว
หนังเปิดเรื่องขึ้นมาด้วยหนึ่งในคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับสังคมมนุษย์สมัยใหม่เช่นพวกเรานั้นคือ ระหว่างหลักเหตุและผลตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่พาเราออกไปสำรวจและเข้าใจในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ กับความเชื่อและศรัทธาในศาสนาที่ช่วยให้เข้าใจความมืดมิดในตัวของมนุษย์ เราควรยึดถือสิ่งใด พร้อมกับการดำเนินเรื่องผ่านชีวิตของพาย (ไม่ขอลงรายละเอียดในเนื้อเรื่องนะ เพราะจะเป็นการสปอยล์มากไป) ในรูปแบบของเรื่องเล่าซึ่งก็สนุก ตื่นเต้น เหมือนการผจญภัยดีๆเรื่องหนึ่ง ก่อนที่จะมาหักหลังเราด้วยเรื่องเล่าอีกแบบซึ่งชวนสยองมากๆ
ในส่วนของภาพนั้นเนื่องจากระบบเสียงซาวน์แทร็ก มีเฉพาะ 3มิติจึงจำใจต้องเลือกดู 3 มิติทั้งที่ไม่ได้ชอบในระบบนี้เท่าไรนัก (ผมยังมีความคิดส่วนตัวว่าการจัดภาพแบนให้มีความลึกเป็นหนึ่งในศิลปะที่สำคัญของหนัง และบ่งบอกถึงฝีมือของผู้กำกับได้ แต่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะ) ต้องยอมรับว่าสวยมากสำหรับหนังเรื่องนี้ อาจจะมีบางตอนที่ชวนเวียนหัวไปบ้างเช่นตอนที่ต้องเผชิญพายุ ที่สำหรับคนที่ไม่ถูกกับการโคลงเคลงไปมามากๆอย่างผมก็ชวนเวียนหัวจนต้องหลับตาหนีเลยทีเดียว แต่นอกนั้นต้องบอกว่าทั้งมุมกล้อง การจัดภาพ การใช้สี ทำได้ดีและสวยงามมากครับ
เป็นหนังเรื่องเยี่ยมอีกเรื่องของปีนี้ และสมราคาหนังเข้าชิงรางวัลอย่างยิ่งอีกเรื่อง คอหนังทั้งหลายไม่ควรพลาดครับ
[รีวิว] Life of Pi
หนังเปิดเรื่องขึ้นมาด้วยหนึ่งในคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับสังคมมนุษย์สมัยใหม่เช่นพวกเรานั้นคือ ระหว่างหลักเหตุและผลตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่พาเราออกไปสำรวจและเข้าใจในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ กับความเชื่อและศรัทธาในศาสนาที่ช่วยให้เข้าใจความมืดมิดในตัวของมนุษย์ เราควรยึดถือสิ่งใด พร้อมกับการดำเนินเรื่องผ่านชีวิตของพาย (ไม่ขอลงรายละเอียดในเนื้อเรื่องนะ เพราะจะเป็นการสปอยล์มากไป) ในรูปแบบของเรื่องเล่าซึ่งก็สนุก ตื่นเต้น เหมือนการผจญภัยดีๆเรื่องหนึ่ง ก่อนที่จะมาหักหลังเราด้วยเรื่องเล่าอีกแบบซึ่งชวนสยองมากๆ
ในส่วนของภาพนั้นเนื่องจากระบบเสียงซาวน์แทร็ก มีเฉพาะ 3มิติจึงจำใจต้องเลือกดู 3 มิติทั้งที่ไม่ได้ชอบในระบบนี้เท่าไรนัก (ผมยังมีความคิดส่วนตัวว่าการจัดภาพแบนให้มีความลึกเป็นหนึ่งในศิลปะที่สำคัญของหนัง และบ่งบอกถึงฝีมือของผู้กำกับได้ แต่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะ) ต้องยอมรับว่าสวยมากสำหรับหนังเรื่องนี้ อาจจะมีบางตอนที่ชวนเวียนหัวไปบ้างเช่นตอนที่ต้องเผชิญพายุ ที่สำหรับคนที่ไม่ถูกกับการโคลงเคลงไปมามากๆอย่างผมก็ชวนเวียนหัวจนต้องหลับตาหนีเลยทีเดียว แต่นอกนั้นต้องบอกว่าทั้งมุมกล้อง การจัดภาพ การใช้สี ทำได้ดีและสวยงามมากครับ
เป็นหนังเรื่องเยี่ยมอีกเรื่องของปีนี้ และสมราคาหนังเข้าชิงรางวัลอย่างยิ่งอีกเรื่อง คอหนังทั้งหลายไม่ควรพลาดครับ