เหรียญมี 2 ด้านต้องมองให้ครบทุกด้านครับ
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20121218/482577/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99F&N-%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2.htmlวันที่ 18 ธันวาคม 2555 18:34
'เจริญ'ส่อแห้วซื้อหุ้นF&N เฮดจ์ฟันด์เมินขาย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"เจ้าสัวเจริญ"ส่อคว้าน้ำเหลวซื้อหุ้น F&N หลังเฮดจ์ฟันด์ไม่ยอมปล่อยหุ้นที่ถืออยู่ในมือ
แหล่งข่าวสองราย กล่าวว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ประสบความล้มเหลวในความพยายามเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ของสิงคโปร์
แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า การเจรจาระหว่างไทยเบฟ และนักลงทุนสถาบันได้เริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีซิตี้กรุ๊ปทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์ในการเจรจาครั้งนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้ที่มีแนวโน้มขายหุ้นเอฟแอนด์เอ็น รวมถึงกองทุนเฮดจ์ฟันด์ 2 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง แต่ต่อมากองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั้ง 2 แห่งดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะขายหุ้นให้แก่ไทยเบฟ
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเพราะเหตุใดกองทุน 2 แห่งนี้จึงปฏิเสธการขายหุ้นเอฟแอนด์เอ็นให้แก่ไทยเบฟ
โฆษกของซิตี้กรุ๊ปในฮ่องกงปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ นับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา นายเจริญได้แข่งขันกับกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัทโอเวอร์ซีส์ ยูเนียน เอ็นเตอร์ไพรเซส (โอยูอี) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ที่เสนอซื้อหุ้นในเอฟแอนด์เอ็น โดยนายสตีเฟน ไรดี้ เป็นประธานโอยูอี และเป็นประธานกลุ่มบริษัทลิปโปของอินโดนีเซียด้วย
ขณะนี้กลุ่มของนายเจริญ ซึ่งรวมถึงไทยเบฟเวอเรจ และบริษัททีซีซี แอสเซ็ท ถือครองหุ้น 34% ในเอฟแอนด์เอ็น หากนายเจริญประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งล่าสุดในการซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นที่ราคา 9.60 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น กลุ่มของนายเจริญก็จะถือครองหุ้นมากกว่า 44% ในเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งจะสร้างความยากลำบากให้แก่คู่แข่งรายใดก็ตามที่ต้องการแข่งขันกับนายเจริญ
หากกลุ่มบริษัทของนายเจริญประสบความสำเร็จในการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น 10% เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะส่งผลให้กลุ่มของนายเจริญต้องเพิ่มวงเงินในข้อเสนอซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8.88 ดอลลาร์ สิงคโปร์ต่อหุ้นด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อเสนอของไทยเบฟในการซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นในปัจจุบันจะครบกำหนดในวันที่ 2 มกราคม 2556 แต่มีแนวโน้มที่จะมีการต่ออายุออกไป
กลุ่มบริษัทของนายเจริญระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ถือหุ้นควรตระหนักว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ยังไม่มีความแน่นอน แต่อย่างใดว่าจะมีการทำธุรกรรม หรือจะมีการปรับทบทวนราคาเสนอซื้อใดๆ
ราคาหุ้นเอฟแอนด์เอ็นพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 50% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนีสเตรทไทม์สของตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับขึ้นเพียง 18% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะที่ราคาหุ้นเอฟแอนด์เอ็นขยับขึ้น 0.6 % สู่ 9.63 ดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อวานนี้
บริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ทีซีซี แอสเซ็ท และไทยเบฟเวอเรจ ขณะที่เอฟแอนด์เอ็นครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (6.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมทั้งถือครองธุรกิจเครื่องดื่มและการพิมพ์ด้วย
ข่าวอีกกระแส BJC "เจ้าสัวเจริญ"ส่อคว้าน้ำเหลวซื้อหุ้น F&N หลังเฮดจ์ฟันด์ไม่ยอมปล่อยหุ้นที่ถืออยู่ในมือ
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20121218/482577/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99F&N-%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html
วันที่ 18 ธันวาคม 2555 18:34
'เจริญ'ส่อแห้วซื้อหุ้นF&N เฮดจ์ฟันด์เมินขาย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"เจ้าสัวเจริญ"ส่อคว้าน้ำเหลวซื้อหุ้น F&N หลังเฮดจ์ฟันด์ไม่ยอมปล่อยหุ้นที่ถืออยู่ในมือ
แหล่งข่าวสองราย กล่าวว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ประสบความล้มเหลวในความพยายามเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ของสิงคโปร์
แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า การเจรจาระหว่างไทยเบฟ และนักลงทุนสถาบันได้เริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีซิตี้กรุ๊ปทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์ในการเจรจาครั้งนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้ที่มีแนวโน้มขายหุ้นเอฟแอนด์เอ็น รวมถึงกองทุนเฮดจ์ฟันด์ 2 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง แต่ต่อมากองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั้ง 2 แห่งดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะขายหุ้นให้แก่ไทยเบฟ
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเพราะเหตุใดกองทุน 2 แห่งนี้จึงปฏิเสธการขายหุ้นเอฟแอนด์เอ็นให้แก่ไทยเบฟ
โฆษกของซิตี้กรุ๊ปในฮ่องกงปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ นับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา นายเจริญได้แข่งขันกับกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัทโอเวอร์ซีส์ ยูเนียน เอ็นเตอร์ไพรเซส (โอยูอี) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ที่เสนอซื้อหุ้นในเอฟแอนด์เอ็น โดยนายสตีเฟน ไรดี้ เป็นประธานโอยูอี และเป็นประธานกลุ่มบริษัทลิปโปของอินโดนีเซียด้วย
ขณะนี้กลุ่มของนายเจริญ ซึ่งรวมถึงไทยเบฟเวอเรจ และบริษัททีซีซี แอสเซ็ท ถือครองหุ้น 34% ในเอฟแอนด์เอ็น หากนายเจริญประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งล่าสุดในการซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นที่ราคา 9.60 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น กลุ่มของนายเจริญก็จะถือครองหุ้นมากกว่า 44% ในเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งจะสร้างความยากลำบากให้แก่คู่แข่งรายใดก็ตามที่ต้องการแข่งขันกับนายเจริญ
หากกลุ่มบริษัทของนายเจริญประสบความสำเร็จในการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น 10% เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะส่งผลให้กลุ่มของนายเจริญต้องเพิ่มวงเงินในข้อเสนอซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8.88 ดอลลาร์ สิงคโปร์ต่อหุ้นด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อเสนอของไทยเบฟในการซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นในปัจจุบันจะครบกำหนดในวันที่ 2 มกราคม 2556 แต่มีแนวโน้มที่จะมีการต่ออายุออกไป
กลุ่มบริษัทของนายเจริญระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ถือหุ้นควรตระหนักว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ยังไม่มีความแน่นอน แต่อย่างใดว่าจะมีการทำธุรกรรม หรือจะมีการปรับทบทวนราคาเสนอซื้อใดๆ
ราคาหุ้นเอฟแอนด์เอ็นพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 50% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนีสเตรทไทม์สของตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับขึ้นเพียง 18% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะที่ราคาหุ้นเอฟแอนด์เอ็นขยับขึ้น 0.6 % สู่ 9.63 ดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อวานนี้
บริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ทีซีซี แอสเซ็ท และไทยเบฟเวอเรจ ขณะที่เอฟแอนด์เอ็นครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (6.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมทั้งถือครองธุรกิจเครื่องดื่มและการพิมพ์ด้วย