เย็นวันอาทิตย์อากาศดีๆแบบนี้ บ้าน จขกท. หนาวมากค่ะ (อยู่บนดอย เป็นคนเขา Ha Ha Ha ล้อเล่นนร๊า) แค่ทุ่มกว่าๆก็นั่งสั่นกันแล้ว เดียวนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ อิอิ (ด้วยความเป็นห่วง ผู้อ่านทุกท่าน) เพ้อ!! ตลอดเลยเรา แต่ก็จริงนะค่ะ บ้าน จขกท. ตอนเช้าๆนี้ 14 15 องศา หนาวมาก
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้วันอาทิตย์ วันสุดท้ายแห่งการพักผ่อน พูดแล้วก็เซ็ง!!(อย่างเจ๊บานฉ่ำในหนังเลย) วันพรุ่งนี้ชีวิตก็จะกลับมา วุ่นวะวุ่นวายอีกเหมือนเดิม ไหนๆก็วันอากาศดีๆแบบนี้ จขกท. ก็เลยไปคุ้ยหาหนังเรื่องนึงมาดูอีกรอบ (คือ ช่วงนี้เป็นเทศกาล ไล่หาหนัง ลุง TOM HANKS เก่าๆ เอามาดูอีก เจอเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย พอดี )
Larry Crowne เป็นหนังโทน โรแมนติก คอมเมดี้ Feel Good (จริงๆ) ที่เข้าฉายในบ้านเราตั้งแต่ปีที่แล๊วววววว ซึ่งหนังเรื่องนี้ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า กวาดรายได้ ไม่เป็นที่น่าพึงพอหฤทัยเท่าไหรนัก (คือไม่ได้เจ๊ง รายได้พอไปวัดไปวาได้ แต่ต่ำกว่าความคาดหวังอยู่มาก) แถมกระแสวิจารณ์ก็ค่อนข้างจะโหดไปนิส (IMDB 5 กว่าๆ ในเว็บมะเขือ 35% ตัวหลังนี้กดคะแนนได้โหดร้าย มั๊กๆ) แต่เอาเถอะเราอย่าไปพูดถึงมันก็แล้วกัน โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับเรา เราว่าตัวหนังก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่ก็พอจะเข้าใจจุดว่าทำไมนักวิจารณ์ไม่ปลื้มกันเท่าไหร
Larry Crowne เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่สองของลุง ทอม แฮงค์ นับตั้งแต่ That Thing You Do เมื่อ 16 ปีก่อน (แม่ จร๊าววววว) ซึ่งเรื่องนั้น ลุงทอม ก็ได้โผล่มาแซมในหนัง นิสนึง (รึปล่าว เราไม่ได้ดู อิอิ) แต่เรื่องนี้ลุงทอม ของเรากลับมาทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ เขียนบท ยันกำกับ นั่งแท่นโพรดิวเซอร์ และ แสดง(นำ)เองด้วย (ถ้าจะทำเยอะขนาดนี้นะ) โดยเรื่องนี้ก็ได้มา จ๊ะเอ๋ กับเจ๊บานฉ่ำ จูเลีย โรเบิร์ตอีกครั้ง หลังจากที่เล่นด้วยกันเรื่องก่อน (Charlie Wilsons War) ซึ่งทั้งคู่บอกว่าเข้าฉากด้วยกันน้อยไปหน่อย (ก็จริง) เลยบอกว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาร่วมงานกันอีก และแล้วในที่สุดก็เป็นจริง!! (เจ๊บานฉ่ำ เล่าว่าตอนที่ลุงทอม ติดต่อชวนมาเล่นเรื่องนี้ เจ๊ Say Yes โดยไม่คิดมากเลย ฮือ!! ขนาดนั้น)
Larry Crowne เล่าเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่า Larry (รับบทโดย IDOL เราเอง ลุงทอม แฮงค์) กับช่วงที่ชีวิตของเค้าต้องผลิกผันหักมุม จากหน้ามือเป็นหน้าแข่ง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Larry หนุ่มวัยกลางคน ซื่อๆ ใสๆ ไร้เล่ห์เหลี่ยม ผู้ทำงานเป็นพนักอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ยู มาร์ท ต้องถูกไล่ออก (ทั้งๆที่เค้าตั้งในได้เป็นพนักงานดีเด่นถึง 9 ครั้ง ขนาดนั้น) สาเหตุเพราะว่า เค้าไม่จบมหาลัย (คือไปเป็น ทหารเรือ อยู่ 20 ปีในตำแหน่งพ่อครัว) ทำให้ Larry Crowne ถึงกับซึม แต่ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจลุกขึ้นอีกครั้ง แต่เนื่องจากพิษเศรษฐกิจ ทำให้เค้าหางานทำไม่ได้เลย (แถมหนี้ท้วมหัวอีก) ในที่สุด ลามา เพื่อนบ้านของ Larry จึงแนะนำให้เค้ากลับไปเรียน มหาลัย ซึ่ง Larry ก็เห็นด้วยจึงไปสมัครเป็นนักศึกษา ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง โดย Larry ได้เลือกลงเรียนวิชา เศรษฐศาสตร์ และวิชาการพูด หลักสูตร 217 (วิชาหลังนี้ ท่านอธิการบอกว่า คลาสนี้เปลี่ยนชีวิตคุณได้ ซึ่งก็จริง อิอิ) โดยหนึ่งในครูของนาย Larry ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นางเอกของท้องเรื่อง เมอร์ซีเดส เทโน (เจ๊ จูเลีย คนงาม) คุณครูสาว (เร๊อะ) สุดเนี๊ยบ ประจำวิชาการพูด 217 ซึ่งหลังจากที่ จ๊ะ เอ๋กัน ทั้งสองก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ (ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจ) จะเป็นยังไง ไม่เล่า หาดูเองเดี๋ยวเสียอรรถรส นะจร๊า
ต่อจากนี้คือการ เม้ามอยด์ + สปอยด์ขั้นรุนแรง
จขกท. ชอบอยู่หลายฉากมากเลย (ถึงนักวิจารณ์จะไม่ปลื้ม เพราะมันคงเป็นหนังที่มองโลกในแง่ดีมากไปหน่อย แต่เรากลับชอบนะ เพราะมันเป็นอะไรที่ แฮบปี้ดีดูแล้วไม่เครียด) อย่างฉากตอนลุงทอม ไปเติมน้ำมัน และรีบดึงหัวจ่ายน้ำมันออก แบบท่าทางลุงเค้าทำให้อมยิ้มได้จริงๆ หรือ ฉากที่ เจ๊จูเลีย เดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วนับจำนวนนักเรียน แล้ว This is it และก็บอกว่า คลาสต้องนี้งดเพราะมีนักเรียนแค่เก้าคน (คือจะได้ไม่ต้องสอน) พอกำลังจะออกไป ลุงทอมก็ โผล่เข้าห้องมาพอดี แบบ ฮ่าๆๆ ฉากตอนที่ เจ๊จูเลียแนะนำตัวก็ฮา แบบถ้าใครไม่สนคลาสนี้ ก็ Get out go right now go และนักเรียนทั้งห้องยังนั่งน่าสลอนอยู่ คือแบบ ยังไง กูก็ต้องหอบสังขาล มาสอน แปดโมงใช่มั้ย ฉากในรถก็ชอบนะที่ เจ๊จูเลียบอก Stop This Car แล้วสามีก็บอก I take it back เพราะดันไปว่าเจ๊ น่าอกเล็ก แล้วเจ๊ก็ระเบิด Let me out from this f.g car และก็ต้องไปนั่งรอรถเมย์ ลุงทอม ขี่สกู๊ดเตอร์ผ่านมาพอดี เลยอาสาไปส่ง ทีแรกก็เล่นตัว (เพราะตอนนั้น ยังโกรธลุงทอม อยู่) เลยตอบไปว่า Seriously I can walk ลุงทอมเลยถามว่า Those shoes เพราะนางใส่รองเท้าส้นสูง เจ๊จูเลยพุดแบบจำใจว่า ก็ได้แต่ชั้นจะไม่เอาหมวกนั่นใส่หัวชั้นหรอกนะ แล้วก็ตัดมาฉากนั่งซ้อนท้ายลุงทอม โดนสวมหมวกกันน๊อกด้วยสีหน้าจำใจ ฮ่าๆๆ พอถึงบ้านดันรั่วเพราะเมาอีก ดันไปถามลุงทอมว่า Would you like to kiss me ฮ่าๆๆๆ ฉากนั้นใครดูแล้วคงจะรู้ว่าน่ารักจริงๆ พอมาช่วงท้ายๆ ตอนท ลุงทอม สอบไฟนอลวิชา เจ๊จูเลีย ที่ลุงเค้าเล่าถึงประสบการณ์ตอนเป็นทหารเรือ และแบบดนตรีประกอบตอนนั้นคือ รู้สึกมีความสุขตามหนังไปเลย จนพอมาฉากสุดท้ายก็ ก็ยิ้มบานตลอดจนจบ ชอบคุ่ลุงทอม กับ เจ๊จูเลีย ที่สู๊ดดด เรย น่ารักมาก คือไม่ได้กุ๊กกิ๊ก อะไรมากมาย แต่มันดูพอดี เป็นเสน่ห์ไปอีกแบบ
หลังจากที่ จขกท. ดูหนังเรื่องนี้ (คือ รอบนี้ยังไม่ได้ดู มาตั้งกระทู้ก่อน) จขกท. รู้สึก Feel Good มากๆอย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในหนัง โรเมนติกที่ดูแล้ว อารมณ์ดีขึ้นมากๆในบัดดล ที่ จขกท. ชอบจากหนังเรื่องนี้สิ่งหนึ่งก็ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ จริง ดี คือในสังคมเรา มีคนเยอะแยะมากมายที่ตกงาน สูญเสียความมั่นใจ เบื่อโลก เซ็งชีวิต (อันหลังนี้ จขกท. เต็มๆ) แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นี่ต่างหากสำคัญกว่า เห็นได้ชัดอย่างตัวเอก พระ นาง ในท้องเรื่อง ที่มีปมปัญหาในชีวิตเหมือนกับเราๆในสังคม (แลรี่ > หย่า ตกงาน หนี้ท้วม ล้มเหลวในชีวิต , เมอร์ซี้ > ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง สามีบ้ากาม ชีวิตแต่งงานน่าเบื่อ เซ็งโลก) ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจริงให้เราเห็นได้ง่ายๆในชีวิต แต่ตัวละครในหนัง ก็ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ และก้าวต่อไปในที่สุด ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ เรื่อง รักๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งๆที่ไม่ได้มองหา แต่กลับเกิดขึ้นเอง นี่แหละค่ะที่ จขกท. ว่ามันน่ารักมากเลย ยังไงก็แนะนำลองหามาดูนะค่ะ ถึงหนังจะไม่ได้ ฮากระจายมากมาย หรือโรเมนติกกุ๊กกิ๊กขนาดนั้น แต่รับรองถ้าชอบหนัง Feel Good ดูแล้วผ่อนคลาย เรื่องนี้ค่อนข้างเหมาะเลยทีเดียว
มีใครจำนายคนนี้ได้บ้าง >> Larry Crowne <<[เพราะ ความรัก ไม่ไเกิดจากการ เฝ้ามองหา เพียงอย่างเดียว]
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้วันอาทิตย์ วันสุดท้ายแห่งการพักผ่อน พูดแล้วก็เซ็ง!!(อย่างเจ๊บานฉ่ำในหนังเลย) วันพรุ่งนี้ชีวิตก็จะกลับมา วุ่นวะวุ่นวายอีกเหมือนเดิม ไหนๆก็วันอากาศดีๆแบบนี้ จขกท. ก็เลยไปคุ้ยหาหนังเรื่องนึงมาดูอีกรอบ (คือ ช่วงนี้เป็นเทศกาล ไล่หาหนัง ลุง TOM HANKS เก่าๆ เอามาดูอีก เจอเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย พอดี )
Larry Crowne เป็นหนังโทน โรแมนติก คอมเมดี้ Feel Good (จริงๆ) ที่เข้าฉายในบ้านเราตั้งแต่ปีที่แล๊วววววว ซึ่งหนังเรื่องนี้ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า กวาดรายได้ ไม่เป็นที่น่าพึงพอหฤทัยเท่าไหรนัก (คือไม่ได้เจ๊ง รายได้พอไปวัดไปวาได้ แต่ต่ำกว่าความคาดหวังอยู่มาก) แถมกระแสวิจารณ์ก็ค่อนข้างจะโหดไปนิส (IMDB 5 กว่าๆ ในเว็บมะเขือ 35% ตัวหลังนี้กดคะแนนได้โหดร้าย มั๊กๆ) แต่เอาเถอะเราอย่าไปพูดถึงมันก็แล้วกัน โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับเรา เราว่าตัวหนังก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่ก็พอจะเข้าใจจุดว่าทำไมนักวิจารณ์ไม่ปลื้มกันเท่าไหร
Larry Crowne เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่สองของลุง ทอม แฮงค์ นับตั้งแต่ That Thing You Do เมื่อ 16 ปีก่อน (แม่ จร๊าววววว) ซึ่งเรื่องนั้น ลุงทอม ก็ได้โผล่มาแซมในหนัง นิสนึง (รึปล่าว เราไม่ได้ดู อิอิ) แต่เรื่องนี้ลุงทอม ของเรากลับมาทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ เขียนบท ยันกำกับ นั่งแท่นโพรดิวเซอร์ และ แสดง(นำ)เองด้วย (ถ้าจะทำเยอะขนาดนี้นะ) โดยเรื่องนี้ก็ได้มา จ๊ะเอ๋ กับเจ๊บานฉ่ำ จูเลีย โรเบิร์ตอีกครั้ง หลังจากที่เล่นด้วยกันเรื่องก่อน (Charlie Wilsons War) ซึ่งทั้งคู่บอกว่าเข้าฉากด้วยกันน้อยไปหน่อย (ก็จริง) เลยบอกว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาร่วมงานกันอีก และแล้วในที่สุดก็เป็นจริง!! (เจ๊บานฉ่ำ เล่าว่าตอนที่ลุงทอม ติดต่อชวนมาเล่นเรื่องนี้ เจ๊ Say Yes โดยไม่คิดมากเลย ฮือ!! ขนาดนั้น)
Larry Crowne เล่าเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่า Larry (รับบทโดย IDOL เราเอง ลุงทอม แฮงค์) กับช่วงที่ชีวิตของเค้าต้องผลิกผันหักมุม จากหน้ามือเป็นหน้าแข่ง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Larry หนุ่มวัยกลางคน ซื่อๆ ใสๆ ไร้เล่ห์เหลี่ยม ผู้ทำงานเป็นพนักอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ยู มาร์ท ต้องถูกไล่ออก (ทั้งๆที่เค้าตั้งในได้เป็นพนักงานดีเด่นถึง 9 ครั้ง ขนาดนั้น) สาเหตุเพราะว่า เค้าไม่จบมหาลัย (คือไปเป็น ทหารเรือ อยู่ 20 ปีในตำแหน่งพ่อครัว) ทำให้ Larry Crowne ถึงกับซึม แต่ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจลุกขึ้นอีกครั้ง แต่เนื่องจากพิษเศรษฐกิจ ทำให้เค้าหางานทำไม่ได้เลย (แถมหนี้ท้วมหัวอีก) ในที่สุด ลามา เพื่อนบ้านของ Larry จึงแนะนำให้เค้ากลับไปเรียน มหาลัย ซึ่ง Larry ก็เห็นด้วยจึงไปสมัครเป็นนักศึกษา ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง โดย Larry ได้เลือกลงเรียนวิชา เศรษฐศาสตร์ และวิชาการพูด หลักสูตร 217 (วิชาหลังนี้ ท่านอธิการบอกว่า คลาสนี้เปลี่ยนชีวิตคุณได้ ซึ่งก็จริง อิอิ) โดยหนึ่งในครูของนาย Larry ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นางเอกของท้องเรื่อง เมอร์ซีเดส เทโน (เจ๊ จูเลีย คนงาม) คุณครูสาว (เร๊อะ) สุดเนี๊ยบ ประจำวิชาการพูด 217 ซึ่งหลังจากที่ จ๊ะ เอ๋กัน ทั้งสองก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ (ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจ) จะเป็นยังไง ไม่เล่า หาดูเองเดี๋ยวเสียอรรถรส นะจร๊า
ต่อจากนี้คือการ เม้ามอยด์ + สปอยด์ขั้นรุนแรง
จขกท. ชอบอยู่หลายฉากมากเลย (ถึงนักวิจารณ์จะไม่ปลื้ม เพราะมันคงเป็นหนังที่มองโลกในแง่ดีมากไปหน่อย แต่เรากลับชอบนะ เพราะมันเป็นอะไรที่ แฮบปี้ดีดูแล้วไม่เครียด) อย่างฉากตอนลุงทอม ไปเติมน้ำมัน และรีบดึงหัวจ่ายน้ำมันออก แบบท่าทางลุงเค้าทำให้อมยิ้มได้จริงๆ หรือ ฉากที่ เจ๊จูเลีย เดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วนับจำนวนนักเรียน แล้ว This is it และก็บอกว่า คลาสต้องนี้งดเพราะมีนักเรียนแค่เก้าคน (คือจะได้ไม่ต้องสอน) พอกำลังจะออกไป ลุงทอมก็ โผล่เข้าห้องมาพอดี แบบ ฮ่าๆๆ ฉากตอนที่ เจ๊จูเลียแนะนำตัวก็ฮา แบบถ้าใครไม่สนคลาสนี้ ก็ Get out go right now go และนักเรียนทั้งห้องยังนั่งน่าสลอนอยู่ คือแบบ ยังไง กูก็ต้องหอบสังขาล มาสอน แปดโมงใช่มั้ย ฉากในรถก็ชอบนะที่ เจ๊จูเลียบอก Stop This Car แล้วสามีก็บอก I take it back เพราะดันไปว่าเจ๊ น่าอกเล็ก แล้วเจ๊ก็ระเบิด Let me out from this f.g car และก็ต้องไปนั่งรอรถเมย์ ลุงทอม ขี่สกู๊ดเตอร์ผ่านมาพอดี เลยอาสาไปส่ง ทีแรกก็เล่นตัว (เพราะตอนนั้น ยังโกรธลุงทอม อยู่) เลยตอบไปว่า Seriously I can walk ลุงทอมเลยถามว่า Those shoes เพราะนางใส่รองเท้าส้นสูง เจ๊จูเลยพุดแบบจำใจว่า ก็ได้แต่ชั้นจะไม่เอาหมวกนั่นใส่หัวชั้นหรอกนะ แล้วก็ตัดมาฉากนั่งซ้อนท้ายลุงทอม โดนสวมหมวกกันน๊อกด้วยสีหน้าจำใจ ฮ่าๆๆ พอถึงบ้านดันรั่วเพราะเมาอีก ดันไปถามลุงทอมว่า Would you like to kiss me ฮ่าๆๆๆ ฉากนั้นใครดูแล้วคงจะรู้ว่าน่ารักจริงๆ พอมาช่วงท้ายๆ ตอนท ลุงทอม สอบไฟนอลวิชา เจ๊จูเลีย ที่ลุงเค้าเล่าถึงประสบการณ์ตอนเป็นทหารเรือ และแบบดนตรีประกอบตอนนั้นคือ รู้สึกมีความสุขตามหนังไปเลย จนพอมาฉากสุดท้ายก็ ก็ยิ้มบานตลอดจนจบ ชอบคุ่ลุงทอม กับ เจ๊จูเลีย ที่สู๊ดดด เรย น่ารักมาก คือไม่ได้กุ๊กกิ๊ก อะไรมากมาย แต่มันดูพอดี เป็นเสน่ห์ไปอีกแบบ
หลังจากที่ จขกท. ดูหนังเรื่องนี้ (คือ รอบนี้ยังไม่ได้ดู มาตั้งกระทู้ก่อน) จขกท. รู้สึก Feel Good มากๆอย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในหนัง โรเมนติกที่ดูแล้ว อารมณ์ดีขึ้นมากๆในบัดดล ที่ จขกท. ชอบจากหนังเรื่องนี้สิ่งหนึ่งก็ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ จริง ดี คือในสังคมเรา มีคนเยอะแยะมากมายที่ตกงาน สูญเสียความมั่นใจ เบื่อโลก เซ็งชีวิต (อันหลังนี้ จขกท. เต็มๆ) แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นี่ต่างหากสำคัญกว่า เห็นได้ชัดอย่างตัวเอก พระ นาง ในท้องเรื่อง ที่มีปมปัญหาในชีวิตเหมือนกับเราๆในสังคม (แลรี่ > หย่า ตกงาน หนี้ท้วม ล้มเหลวในชีวิต , เมอร์ซี้ > ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง สามีบ้ากาม ชีวิตแต่งงานน่าเบื่อ เซ็งโลก) ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจริงให้เราเห็นได้ง่ายๆในชีวิต แต่ตัวละครในหนัง ก็ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ และก้าวต่อไปในที่สุด ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ เรื่อง รักๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งๆที่ไม่ได้มองหา แต่กลับเกิดขึ้นเอง นี่แหละค่ะที่ จขกท. ว่ามันน่ารักมากเลย ยังไงก็แนะนำลองหามาดูนะค่ะ ถึงหนังจะไม่ได้ ฮากระจายมากมาย หรือโรเมนติกกุ๊กกิ๊กขนาดนั้น แต่รับรองถ้าชอบหนัง Feel Good ดูแล้วผ่อนคลาย เรื่องนี้ค่อนข้างเหมาะเลยทีเดียว