อีกหนึ่งบันทึกความภาคภูมิใจของทีมชาติไทยกับ " สนามศุภชราศัยฯ "

กระทู้สนทนา
ทีมชาติไทยของพวกเรา..........

ประสบความสำเร็จกับสนามแห่งนี้มาหลายศตวรรษ

เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2481 และปี 2485 เปลี่ยนชื่อเป็น "  สนามศุภชราศัยกรีฑาสถาน " จนถึงปัจจุบัน

สำหรับผมแล้ว สนามศุภฯ คือสนามแห่งฝัน ที่วาดไว้ว่าซักวันจะต้องลงเตะบอลที่สนามแห่งนี้ใ้ห้ได้

สนามแห่งนี้ เคยเป็นสังเวียนที่พาทีมชาติไทยไปเตะโอลิมปิคครั้งที่ 16 ที่ ออสเตรเลีย

สนามแห่งนี้พาทีมชาติไทยไปโอลิมปิคอีกครั้ง ที่เม็กซิโก เมื่อปี 2511

ทีมชาติไทยของเรายืนแป้นชนะเลิศครั้งแรกที่สนามแห่งนี้ในปี 2518 ด้วยการ
ชนะทีมชาติมาเลเซีย 2-1 หยิบเหรียญทองกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 8

และอีกหลายรายการที่ทีมชาติไทยของเราสร้างความสุขให้แก่ปวงชนชาวไทย

มานับไม่ถ้วน..

สนามแห่งนี้ทีมชาติไทยของเราเคยยิงประตูคู่ต่อสู้ได้สูงสุดคือ นัดที่ชนะบรูไน 10 - 0 ในรายการเอเชี่ยนคัพ ( รอบคัดเลือก ) เมื่อปี 2514

และแพ้เยอะสุดต่อ เกาหลีใต้ ในรายการคิงคัพ เมื่อปี 2518 ด้วยสกอร์ 0 - 6  

สนามแห่งนี้เคยเป็นนัดประกาศอำลาทีมชาิติของนักเตะที่เคยได้ชื่อว่า " สิงห์สนามศุภฯ " นิวัิติ ศรีสวัสดิ์ ในการแข่งขันคิงคัพ ครั้งที่ 12 เมื่อปี 2522 โดยหลังเสร็จสิ้นนัดชิงชนะเลิศ ที่ทีมชาติไทยชนะเกาหลีใต้ 2-1  นิวัติ ศรีสวัสดิ์ ได้หยิบไมร์ประกาศด้วยตัวเองว่า เขาจะยุติการเล่นทีมชาติหลังจากนัดนี้ ด้วยคราบน้ำตา

สนามแห่งนี้ มีนักเตะชื่อดังระดับโลกมาโชว์ฝีเท้ามากมาย เช่น เปเล่ รุมเมนิเ้ก้ ชไมเคิล มาร์ค ฮิวส์ กุลลิส บักโจ้ ฯลฯ

เรื่องราวหลากหลายในสนามศุภฯ มีให้เล่าเป็นตำนาน อย่างมากมาย สนามแห่งนี้เป็นอะไรมากกว่า สนามกีฬาแห่งชาติ เป็นอะไรที่มากกว่าสนามฟุตบอลประจำชาติไทย เรื่องราวต่างๆ ในสนามศุภฯ กับทีมชาิติมีหลายความทรงจำ ที่แฟนบอลหลายคนต้องจดจำ ไว้เ่ล่าขานให้ลูกหลานสืบทอดไปอีกนานแสนนาน  

และ อีกหนึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับสนามศุภฯ ที่พวกเราจะต้องจดจำและบันทึกเพิ่มเติมก็คือ

" ในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2555 "

ทีมชาติไทย ภายใต้โค้ชที่ชื่อ วินนี่ เชฟเฟอร์ ได้พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ อาเชี่ยนคัพ ( ซูซูกิคัพ ) ที่สนามแห่งนี้ด้วยชัยชนะเหนือทีมชาติสิงค์โปร์ โดยมีกองหน้ทีมชาิติไทยที่ชื่อ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นผู้ทำประตูสูงสุดประจำทัวร์นาเม้น ..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่