ป้าทารุณนำน้องหมาตัวน้อยเร่ขอทานหาเงิน ผลิตผลจากวงจรอุบาทว์ฟาร์มหมานรก{แตกประเด็นจาก J13059784}

กระทู้สนทนา

อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. อยู่ที่ คห.264 ค่ะ

คห.264 ถูกลบค่ะ สามารถอ่านข้อมูลอัพเดทใน คห.269 และ คห.270 อีกครั้งนะคะ

จากที่มีภาพป้าเข็นรถมีน้องหมาชิวาว่า น้องปอม น้องหมาพันธุ์เล็กหลายตัว นอนนิ่งซึมอยู่บนรถเข็น และมีหลายตัวที่พิการ ตาบอด จมูกโหว่ หลายตัวมีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด เดินเร่ขอทานไปทั่วทั้งสำเพ็ง พาหุรัด เยาวราช บางลำภู สาทร งานภูเขาทอง ฯลฯ ทั้งในช่วงสายๆบ่ายๆที่มีอาการร้อนอบอ้าว ในชุมชนที่มีผู้คนแออัด และยามค่ำคืนที่มีอากาศเย็นชื้น บางวันก็มีฝนตกในช่วงที่ผ่านมา 

ภาพที่เห็นคือ การทารุณกรรมน้องหมาตัวเล็กๆ เพื่อหวังใช้ประโยชน์จากสภาพน่าเวทนาของน้องหมา หลอกลวงให้คนบริจาคเงินด้วยความสงสาร โดยไม่ทราบว่า กำลังถูกคนใจบาปใช้เป็นเครื่องมือและร่วมกับป้า ทารุณเด็กๆที่น่าสงสารเหล่านี้ต่อไปไม่จบสิ้น

หลังจากที่ทีมอาสาได้พยายามติดตามสืบหา เก็บรวบรวมข้อมูลมานาน 2-3 เดือน และประสานองค์กรหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง 

โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณโรเจอร์ แห่งสมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) เข้าร่วมเจรจาเพื่อหาทางช่วยเหลือน้องหมาทั้ง 14 ชีวิต(ทราบจำนวนที่แน่นอนภายหลัง) และประสานตำรวจสน.จักรวรรดิและเจ้าหน้าที่พื้นที่เขตเทศกิจ โดยมีกลุ่มอาสาคุณอ้อ คุณตั้ม คุณแหวนและจขกท. ดักชาร์จหยุดรถเข็นของป้า ที่มีน้องหมาตัวน้อยๆนอนหลับอย่างอ่อนเพลียอยู่ภายในรถเข็น แออัดยัดเยียดอยู่รวม 7 ชีวิต ได้ในช่วงบ่ายที่แดดกำลังแรง อากาศร้อนอบอ้าวมาก ของวันศุกร์ที่ 21/12/2012

สภาพที่เห็นคือ น้องหมาชิวาว่า ปอม ที่มีทั้งพิการตาบอด จมูกโหว่ สะลึมสะลือนิ่งซึมผิดธรรมชาติของน้องหมาพันธุ์เล็กเหล่านี้ ที่จะมีความร่าเริง ซุกซนเป็นธรรมชาติ

อีกทั้งภายใต้รถเข็น ป้ายังเอาขวดน้ำเย็นแช่แข็ง วางไว้ด้านล่าง แล้ววางผ้ารองให้เด็กๆนอนทับอยู่ ด้วยสภาพอากาศที่มีแดดจัดร้อนอบอ้าวที่คนยังหายใจแทบไม่ออก น้ำแข็งละลายเป็นไอน้ำซับจนผ้าเปียกชื้น น้องหมาที่อุ้มขึ้นมาจากรถเข็นตัวเย็น เปียกชื้น น่าสงสารจริงๆ และก็ยังมีน้ำแข็งละลายโอวัลตินสีขุ่นๆเทให้เด็กๆกินเวลาหิวน้ำ ถามป้าว่า ทำไมไม่ให้เด็กๆกินน้ำเปล่าที่สะอาด ป้าเถียงว่า หมอที่พาเด็กๆไปหา บอกให้เด็กๆกินน้ำหวาน

เมื่อได้มีการพูดคุยซักพัก ป้ายังไม่ยอมรับว่าทำความผิด ทารุณกรรมน้องหมาตัวเล็กๆเหล่านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวป้าไปเจรจากันที่สน.จักรวรรดิ์

ป้าคนนี้ชื่อ นฤมล มีบ้านเป็นตึกแถวอยู่ภายในซอยเทอดไท 33 อยู่กับลูกชาย 2 คนและป้าก็ยังมีลูกสาวด้วย จากการพูดคุย ป้าไม่ยอมรับว่า ทารุณน้องหมาและทำความผิด โดยพาสัตว์เลี้ยงออกมาเร่ร่อนในที่สาธารณะ ตามข้อบัญญัติทางกฎหมาย ที่ต้องดูแลสัตว์เลี้ยงในเคหะสถาน เพื่อเรียไรเงิน หรือ พูดง่ายๆว่า หากินกับหมาหรือให้หมาหาเลี้ยง นั่นเอง

จากการเจรจา เจ้าหน้าที่ตำรวจและคุณโรเจอร์ได้แจ้งให้ป้าทราบว่า ป้าไม่สามารถนำน้องหมาออกมาใส่รถเข็นเดินเร่ขอทานเช่นนี้อีกต่อไป และขอให้ป้ายอมมอบน้องหมาทั้งหมดรวมทั้งที่ยังอยู่ในบ้านให้กลุ่มคนรักสัตว์ นำเด็กๆไปตรวจร่างกาย รักษาฟื้นฟูสภาพให้เด็กๆปลอดภัยายเป็นปกติแข็งแรงต่อไป

ป้านฤมลไม่ยอม พยายามยื้อว่าจะขอตัวที่รักไว้ซัก 5 ตัว ซึ่งในความเป็นจริง หากป้าไม่สามารถนำเด็กๆออกมาเร่ขอทานได้แล้ว ป้าก็คงไม่สามารถรับภาระดูแลเด็กๆเหล่านี้ต่อไปได้

และจากการสังเกตุ ป้าจะรักน้องหมาตัวที่พิการ สภาพย่ำแย่ เช่น น้องชิมิ น้องปอมตัวน้อยๆที่นิ่งซึม พิการจมูกโหว่ และน้องหมาที่ป้าพาออกมาในวันนี้ทั้งหมด ได้แก่ น้องโมโม่ น้องชิวาว่าขนยาว ผอม น้ำหนักเพียงกิโลเศษ ที่ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

โดยในเบื้องต้น ทางตำรวจได้บันทึกลงประจำวัน และปรับป้านฤมล เป็นจำนวนเงิน 100 บาท เป็นค่าปรับในการพาน้องหมาออกมาเรี่ยไรเงิน และให้ทางกลุ่มอาสาดำเนินการต่อไป

ทางกลุ่มอาสาประกอบด้วยคุณอ้อ คุณตั้ม คุณแหวนและจขกท. จึงได้ติดตามไปที่บ้านป้า พบน้องหมาอีก 7 ชีวิตรวมเป็นน้องหมาทั้งสิ้น 14 ชีวิต อยู่กันอย่างแออัดในพื้นที่เล็กๆด้านหลังของตึกแถว โดยระหว่างที่อยู่บนรถสามล้อ ป้าได้โทรบอกให้คนที่บ้าน คาดว่าจะเป็นลูกชายเปิดประตูด้านหลังบ้าน ไม่ให้เข้าทางหน้าบ้าน เมื่อไปถึงก็ไม่พบใคร

จากการพูดคุย ป้าเล่าว่า ป้าเคยคิดที่จะขายของพร้อมหยิบของมาให้ดู เป็นเสื้อน้องหมา ตุ๊กตาพวงกุญแจ ที่ติดตู้เย็น ฯลฯ แต่ขายไมได้เพราะถูกมาเฟียไล่ที่ บางที่ก็เรียกค่าวางขายแพง ทำให้ไม่มีเงิน

เมื่อถามป้าว่า ถ้าหางานให้ป้าทำ เป็นงานดูแลน้องหมาที่ป้าชอบ แล้วให้ป้ามอบน้องหมาทั้งหมดออกมาดูแลรักษาหาบ้านใหม่ให้เด็กๆต่อไป ป้าคิดว่ายังไง ป้าบอกว่า ป้าทำงานเลี้ยงน้องหมาไม่ได้ เพราะแพ้ขนหมา (ฟังแล้วถึงกับงง @_@) แล้วป้าก็เป็นเบาหวาน ป้าชอบงานค้าขาย อิสระ ไม่อยากเป็นลูกจ้าง ถ้าสามารถขายของ มีรายได้พอ ก็ยินดี

ป้าอยู่ตึกแถว เล่าว่า มีที่ทางรอขาย มีลูกชายลูกสาว ซึ่งจากที่ประเมิน การเอาน้องหมาสภาพน่าสงสารมาเร่ขอทานตามชุนชน อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ สร้างรายได้หลักให้ป้าและครอบครัว เป็นสิ่งที่ป้าคำนึงถึงมากกว่าชีวิตจิตใจของน้องหมาตัวน้อยทั้ง 10 กว่าชีวิต แม้ป้าจะบอกว่ารักผูกพันและดูแลเด็กๆอย่างดี

แต่นับจากนี้ต่อไป เมื่อเรื่องถูกตีแผ่ออกไป ป้าก็จะไม่สามารถพาเด็กๆออกมาทรมานเร่ขอทานอย่างนี้อีกแล้ว เพราะเมื่อมีการเสนอข่าวออกไป ก็จะมีกระแสสังคมทั้งจากผู้ที่เห็นข่าวจากทีวีและรับทราบข่าวของป้าทางเฟซบุ๊ค

ไม่เพียงผลกระทบจะเกิดกับป้าเท่านั้น แต่ยังต้องส่งผลกระทบไปถึงครอบครัว รวมทั้งลูกชายลูกสาว ให้ได้รับความอับอาย ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม เป็นที่รังเกียจของญาติมิตร เพื่อนฝูง คนรู้จัก อย่างหลีกเลี่ยงไมได้

** ล่าสุด เวลาประมาณ 16.00 น.ของวันนี้ (22/12/2012) คุณตั้มที่ประสานงานอยู่ที่รพส.คริสตัลเพ็ท แจ้งมาว่า อาการของน้องหมา ทุกตัวอยู่ในสภาพที่ แย่มากอย่างน้องปอมตัวเล็กที่สุด ถ้าพามาถึงมือคุณหมอช้ากว่านี้อีกไม่นาน น้องจะต้องเสียชีวิตแน่ๆ ตัวอื่นๆก็เป็นพยาธิเม็ดเลือด และยังมีอาการอื่นๆ หนักหนาสาหัสกันทุกตัว สรุปแล้ว น้องหมาทั้ง 14 ตัวนี้ ต้องอยู๋ในการดูแลรักษาภายในรพส.ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดที่จะสามารถให้ออกจากรพส.ได้ T T

หากป้าบอกว่า ดูแลสุขภาพของน้องหมาทั้งหมดอย่างดี ก็เทียบไม่ได้กับ จำนวนเงินที่เด็กๆหามาเลี้ยงป้าและครอบครัว ป้าไม่สามารถที่จะดูแลน้องหมาที่ป้านำมาเป็นเครื่องมือหาเงินได้แม้แต่นิดเดียว

และจะต้องมีน้องหมาจากฟาร์มหมานรกอีกกี่ชีวิต ที่จะต้องสังเวยคนเลวๆกลุ่มนึง ด้วยความทรมานและชีวิต ที่ผ่านมาป้าบอกว่า มีน้องหมาบางตัวที่ตายไปแล้ว

เคสนี้ยังต้องสาวลึกลงไปอีกมาก ทั้งแหล่งที่มาของน้องหมาตัวน้อยๆที่น่าสงสารเหล่านี้ วงจรอุบาทว์ของคนที่หากินกับสัตว์อย่างไร้มนุษยธรรม แต่ยังเชิดหน้าชูตาเป็นคนมีเงิน ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มหมา ซึ่งก็คงต้องมีทั้งเจ้าของฟาร์หมาที่มีความเป็นคน และไม่มีความเป็นคน เพราะป้านฤมลบอกว่า พาน้องหมาเร่ขอทานหากินมาอย่างนี้เป็น 10 ปีแล้ว ไม่รู้เลยว่า มีชีวิตเล็กๆจำนวนเท่าไหร่ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน หรือสังเวยความโหดร้ายเลวทรามของคนไปกี่สิบกี่ร้อยชีวิต

คนรักน้องหมาสามารถช่วยน้องหมาได้ทุกท่านค่ะ เมื่อรับรู้ ระดมความคิด สรุปแนวทางและลงมือทำ

ขอบพระคุณคุณอ้อ Surinee Thanasombutsakul ที่ติดตามลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ของเคสนี้อย่างเต็มกำลัง เวลาเที่ยงคืน คุณอ้อยังโทรหาจขกท.พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แค้นใจว่า... อ้อเห็นอิป้ามันจิกตัวเด็กๆแล้วโยนลงพื้นให้ทำธุระส่วนตัว ระหว่างที่รอสามล้อเจ้าประจำมารับไปส่งบ้านต่อไปเหมือนทุกวัน ...ป้าที่รักและผูกพันน้องหมาตัวน้อยๆ... ในความดูแล... เอ้อ ไม่ใช่ น้องหมาตัวน้อยๆที่คอยหาเลี้ยงป้าและครอบครัว... ใช้วิธีจิกน้องหมาตัวเล็กๆโยนขึ้น โยนลงจากรถเข็น...ด้วยความรักและผูกพัน

ขอบพระคุณพี่หมู อ.พวงเพชร ผู้ใหญ่ที่จขกท.เคารพ ช่วยประสานการติดต่อสื่อและนำมาซึ่งการประสานองค์การหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจนสำเร็จ

ขอบพระคุณคุณอัจฉรา คุณจ๊อบและทีมข่าว ที่รับเคสและลงพื้นที่ติดตามหาความจริง เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงออกสื่อให้สาธาณชนรับทราบความจริง ไม่ใช่ คนไม่กี่คนที่ฟัง คำป้าโดยไม่พิจารณาถึง สภาพความทุกข์ทรมานของน้องหมาเหมือนบางคนที่ออกมาเถียงแทนป้า

ขอบพระคุณคุณโรเจอร์ แห่งสมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) ที่ให้คำปรึกษา ชี้แนะแนวทางตามกฎหมาย ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เขตเทศกิจของพื้นที่ และร่วมเจรจากับป้าที่สน.จักรวรรดิ์จนแล้วเสร็จ ขอบพระคุณคุณโรเจอร์เป็นอย่างสูงมาอีกครั้งนะคะ

ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.จักรวรรดิ์ หลายระดับ ที่ช่วยเจรจาพูดคุยกับป้านฤมล อย่างเป็นธรรมและมีเมตตาในจิตใจต่อน้องหมาตัวน้อยๆเหล่านี้นะคะ

ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่เขตเทศกิจ ที่สมทบกกำลัง ร่วมอำนวยการจับกุมป้า ทำให้ทุกคนที่เดินผ่านไปมาเห็นว่า พฤติกรรมปกติของป้าที่ทำมาเป็น 10 ปี ไม่ใช่ เรื่องปกติธรรมดาที่ทุกคนจะมองข้าม เดินผ่านไปหรือให้เงินกับป้า ซึ่งเป็นการเพิ่มความทรมานให้น้องหมาตัวน้อยๆนี้ต่อไปไม่จบสิ้น

ขอบพระคุณ คุณเจี๊ยบ SOS ANIMALS Thailand สำหรับคำปรึกษาและมอบหมายให้น้องๆทีมอาสาของ SOS ได้แก่ คุณตั้มและคุณแหวน ร่วมลงพื้นที่ดำเนินการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ต้นจนแล้วเสร็จ สามารถนำน้องหมาทั้ง 14 ชีวิตเข้าเซฟเฮ้าส์ได้เรียบร้อยพร้อมกับคุณอ้อและจขกท. ก่อนที่จะย้ายเด็กๆเข้าตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่รพส.คริสตัลเพ็ทต่อไป

ขอบพระคุณคุณหมอทู แห่งรพส.คริสตัลเพ็ท ที่รับเคสดูแล ตรวจร่างกาย เพื่อให้ได้ทราบปัญหาสุขภาพ อาการที่แท้จริงของน้องหมาทั้ง 14 ชีวิตนี้นะคะ

ขอบพระคุณคุณชิน ชินพ่อลูกอ้วน รถอาสาที่นำรถตู้วีไอพี อย่างหรู กว้างขวาง ให้อาสาทั้ง 4 และน้องหมาอีก 14 รวม 18 ชีวิต เดินทางจากบ้านป้าสู่เซฟเฮ้าส์ในเวลาเกือบตี 1 นะคะ

และขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นเสียงของกลุ่มคนรักสัตว์ ให้เป็นเสียงที่ดังไปถึงสังคมส่วนรวมและทุกองค์การหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะคะ ยังมีเบื้องลึกของการทารุณสัตว์เพื่อหาผลประโยชน์กันเป็นขบวนการ ที่รอทุกท่านร่วมประสานเสียงเพื่อน้องหมาที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือเองต่อไปนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

 

เครดิตรูปภาพจาก คุณแหวน Vivi Onsirin


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่