สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
พูกตรงๆ เลยว่า ครูไม่สมควรที่จะมาก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งแบบนี้ครับ
ในฐานะนักกฏหมาย ผมคงถามครูว่า คุณครูมีสิทธิอะไรเข้าไปพูดกับเด็กในลักษณะอย่างนี้
การไปพูดกับเด็กในลักษณะอย่างนี้ ไม่ส่าจะหวังดีอย่างไร ไม่สมควรครับ
มีระเบียบที่ไหนที่ให้คุณครูก้าวล่วงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวคนอื่นแบบนี้
และกระทบต่อความรู้สึกของเด็กซึ่งมีผลต่อสภาพจิตใจของเด็ก
ก็ปล่อยไปเถิดครับ
ไม่อยากให้แจ้งผอ. ครับ
แต่หากมีครั้งที่ 2 ลุยเลยครับ
ในฐานะนักกฏหมาย ผมคงถามครูว่า คุณครูมีสิทธิอะไรเข้าไปพูดกับเด็กในลักษณะอย่างนี้
การไปพูดกับเด็กในลักษณะอย่างนี้ ไม่ส่าจะหวังดีอย่างไร ไม่สมควรครับ
มีระเบียบที่ไหนที่ให้คุณครูก้าวล่วงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวคนอื่นแบบนี้
และกระทบต่อความรู้สึกของเด็กซึ่งมีผลต่อสภาพจิตใจของเด็ก
ก็ปล่อยไปเถิดครับ
ไม่อยากให้แจ้งผอ. ครับ
แต่หากมีครั้งที่ 2 ลุยเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 18
คุณแม่อธิบายได้ดีและชัดเจนมากแล้วค่ะ ไม่มีอะไรผิดพลาดเลย และสิ่งที่คุณแม่กำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ — ทั้งไม่สบายใจ โกรธ เศร้า และสับสน — เป็น ความรู้สึกที่ถูกต้องและชอบธรรมทุกอย่าง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น “ไม่เหมาะสม” และ “ละเมิดขอบเขต” อย่างเห็นได้ชัด
⸻
💬 ประโยคของครูนั้นไม่เหมาะสมอย่างไร?
“อย่าหยิ่งกับพ่อให้มากนัก ทางบ้านเขามีเงิน ควรทำดีกับเขาเข้าไว้”
1.❌ เป็นการก้าวก่ายความสัมพันธ์ในครอบครัว
ครูไม่มีสิทธิไปชี้นำหรือสั่งสอนความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อ โดยเฉพาะเมื่อไม่ทราบพื้นฐานหรือบาดแผลที่เด็กเคยเจอมา
2.❌ ส่งสารผิดด้านคุณค่าและจริยธรรม
ข้อความนี้สื่อไปในทางว่า “เงิน” สำคัญกว่าความรู้สึกหรือศักดิ์ศรีของเด็ก ซึ่งขัดแย้งกับหน้าที่การเป็นครูโดยสิ้นเชิง
3.❌ ทำให้เด็กไม่สบายใจ และรู้สึกถูกตำหนิในเรื่องส่วนตัว
ลูกชายของคุณแม่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย การถูกพูดแบบนี้ในที่ส่วนตัว ยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่าคนไม่เข้าใจเขาอีก
⸻
💡 คุณแม่ควรทำอย่างไร?
✅ 1. พูดกับลูกให้ชัดเจนก่อนว่า “แม่อยู่ข้างลูก”
เช่น:
“ลูกจ๋า แม่ขอบใจที่ลูกกล้ามาเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังนะ แม่เข้าใจลูกเลยว่าคำพูดแบบนั้นมันทำให้รู้สึกไม่ดี และแม่ก็อยากให้ลูกรู้ว่า… ลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ความสัมพันธ์ของลูกกับพ่อ แม่ก็รู้ว่ามันมีเหตุผลของมัน ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ลูกไม่ต้องฝืนใจเพื่อเอาใจใครเลยนะ”
✅ จุดสำคัญคือ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกรู้ว่าเขาไม่ผิด และแม่อยู่ข้างเขาเสมอ
✅ 2. เขียนจดหมายหาครู (หรือ ผอ.) แบบสุภาพ แต่ชัดเจน
คุณแม่อาจไม่ต้องไปพูดตรง ๆ ถ้ายังกังวลเรื่องผลกระทบกับลูก แต่สามารถเขียนข้อความถึงครูหรือผู้อำนวยการโรงเรียนได้ เช่น:
เรียนคุณครู/ท่านผู้อำนวยการ
ดิฉันเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.3 (ชื่อ…)
ได้รับทราบจากบุตรชายว่า มีการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างบุตรกับบิดา
ด้วยถ้อยคำที่อาจกระทบจิตใจและเสี่ยงต่อการตีความว่าเป็นการก้าวก่ายเรื่องครอบครัว
จึงอยากขอความกรุณาให้เว้นการพูดเรื่องส่วนตัวของเด็กในลักษณะนี้อีก
เพื่อให้บุตรของดิฉันรู้สึกปลอดภัยในสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน
ขอบพระคุณที่รับฟังค่ะ
(ชื่อคุณแม่ / เบอร์ติดต่อ)
✅ 3. แจ้งผ่านช่องทางทางการของโรงเรียน (ถ้ามี)
หลายโรงเรียนมีช่องทางร้องเรียน เช่น
• แบบฟอร์มรับฟังความคิดเห็นผู้ปกครอง
• กล่องรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์
⸻
🧠 ฝากไว้เป็นกำลังใจ:
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคนมีสิทธิ์ “ปกป้องลูก”
ไม่ว่าคนอื่นจะรู้เรื่องครอบครัวมากน้อยแค่ไหนไม่มีใครมีสิทธิไปตัดสิน “ความสัมพันธ์ของครอบครัว” โดยใช้แค่ความคิดตัวเองครับ
สิ่งที่คุณแม่กำลังทำอยู่ — ทั้งฟังลูก พยายามเข้าใจ และกำลังหาทางออกอย่างมีสติ —
คือ การเป็นแม่ที่เข้มแข็งและน่าชื่นชมมาก ค่ะ
❤️
⸻
💬 ประโยคของครูนั้นไม่เหมาะสมอย่างไร?
“อย่าหยิ่งกับพ่อให้มากนัก ทางบ้านเขามีเงิน ควรทำดีกับเขาเข้าไว้”
1.❌ เป็นการก้าวก่ายความสัมพันธ์ในครอบครัว
ครูไม่มีสิทธิไปชี้นำหรือสั่งสอนความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อ โดยเฉพาะเมื่อไม่ทราบพื้นฐานหรือบาดแผลที่เด็กเคยเจอมา
2.❌ ส่งสารผิดด้านคุณค่าและจริยธรรม
ข้อความนี้สื่อไปในทางว่า “เงิน” สำคัญกว่าความรู้สึกหรือศักดิ์ศรีของเด็ก ซึ่งขัดแย้งกับหน้าที่การเป็นครูโดยสิ้นเชิง
3.❌ ทำให้เด็กไม่สบายใจ และรู้สึกถูกตำหนิในเรื่องส่วนตัว
ลูกชายของคุณแม่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย การถูกพูดแบบนี้ในที่ส่วนตัว ยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่าคนไม่เข้าใจเขาอีก
⸻
💡 คุณแม่ควรทำอย่างไร?
✅ 1. พูดกับลูกให้ชัดเจนก่อนว่า “แม่อยู่ข้างลูก”
เช่น:
“ลูกจ๋า แม่ขอบใจที่ลูกกล้ามาเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังนะ แม่เข้าใจลูกเลยว่าคำพูดแบบนั้นมันทำให้รู้สึกไม่ดี และแม่ก็อยากให้ลูกรู้ว่า… ลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ความสัมพันธ์ของลูกกับพ่อ แม่ก็รู้ว่ามันมีเหตุผลของมัน ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ลูกไม่ต้องฝืนใจเพื่อเอาใจใครเลยนะ”
✅ จุดสำคัญคือ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกรู้ว่าเขาไม่ผิด และแม่อยู่ข้างเขาเสมอ
✅ 2. เขียนจดหมายหาครู (หรือ ผอ.) แบบสุภาพ แต่ชัดเจน
คุณแม่อาจไม่ต้องไปพูดตรง ๆ ถ้ายังกังวลเรื่องผลกระทบกับลูก แต่สามารถเขียนข้อความถึงครูหรือผู้อำนวยการโรงเรียนได้ เช่น:
เรียนคุณครู/ท่านผู้อำนวยการ
ดิฉันเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.3 (ชื่อ…)
ได้รับทราบจากบุตรชายว่า มีการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างบุตรกับบิดา
ด้วยถ้อยคำที่อาจกระทบจิตใจและเสี่ยงต่อการตีความว่าเป็นการก้าวก่ายเรื่องครอบครัว
จึงอยากขอความกรุณาให้เว้นการพูดเรื่องส่วนตัวของเด็กในลักษณะนี้อีก
เพื่อให้บุตรของดิฉันรู้สึกปลอดภัยในสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน
ขอบพระคุณที่รับฟังค่ะ
(ชื่อคุณแม่ / เบอร์ติดต่อ)
✅ 3. แจ้งผ่านช่องทางทางการของโรงเรียน (ถ้ามี)
หลายโรงเรียนมีช่องทางร้องเรียน เช่น
• แบบฟอร์มรับฟังความคิดเห็นผู้ปกครอง
• กล่องรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์
⸻
🧠 ฝากไว้เป็นกำลังใจ:
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคนมีสิทธิ์ “ปกป้องลูก”
ไม่ว่าคนอื่นจะรู้เรื่องครอบครัวมากน้อยแค่ไหนไม่มีใครมีสิทธิไปตัดสิน “ความสัมพันธ์ของครอบครัว” โดยใช้แค่ความคิดตัวเองครับ
สิ่งที่คุณแม่กำลังทำอยู่ — ทั้งฟังลูก พยายามเข้าใจ และกำลังหาทางออกอย่างมีสติ —
คือ การเป็นแม่ที่เข้มแข็งและน่าชื่นชมมาก ค่ะ
❤️
ความคิดเห็นที่ 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฟังแล้วถ้าไม่ใช่อคติเอาแต่สาระสำคัญ(ที่ไม่ต่อเติมเสริมแต่ง) ครูก็ทำหน้าที่คอยแนะนำเด็กไปในทางที่ดี
การทำดีกับพ่อมันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอยู่แล้ว อาจจะดีกับตัวเด็กเองที่จะให้เด็กไม่คิดว่าตัวเองมีปัญหาครอบครัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จขกทกำลังอคติเอาเรื่องส่วนตัวของตน ไปพาลคนที่เขาหวังดี แถมครูมีหน้าที่สอดส่องดูแลความประพฤติเด็ก
จขกทจะมีปัญหากับพ่อเด็ก แต่ในความเป็นแม่ จขกทจะต้องแนะนำแต่สิ่งที่ดีเป็นเป็นกุศล
อย่าพยายามเอาเด็กมาเป็นตัวประกัน แล้วยัดเยียดความเกลียดชังพ่อตัวเองให้เด็ก
สุดท้ายแล้วคนที่จะได้รับผลกระทบคือเด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเด็นมันอยู่ที่ตัวจขกทเองนั้นแหละ กำลังเอาอคติกับพ่อเด็ก มาพาลครูเขา
อยากบอกว่า ครูไม่ได้มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ จริยธรรมของครูคือต้องคอยดูแลความประพฤติ
และคอยแก้ปัญหาให้เด็กทั้งในโรงเรียนและเรื่องทางบ้าน
การบอกให้เด็กทำดีกับพ่อตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรทำในฐานะความเป็นครูโดยจิตวิญญาน
แม้พ่อจะเลวร้ายอย่างไรในสายตาแม่ แต่คนเป็นพ่อไม่มีทางที่จะทำร้ายลูกตัวเอง
อีกอย่างคำว่าครูไม่ได้หมายแค่เฉพาะครูที่ปรึกษา คนที่สอนหนังสือในโรงเรียนที่เด็กเรียนก็นับเป็นครูของนักเรียนทุกคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แนะนำครับจะเกลียดชังพ่อเด็กอย่างไร ก็ไม่ควรเอาความเกลียดชังไปสอนเด็ก
ควรแนะนำแต่สิ่งดีๆ เพื่อไม่ให้เด็กเกิดปมปัญหา
เอาแค่เด็กเอาเรื่องที่โรงเรียนมาฟ้องแม่ แบบนี้ผมว่าเด็กกำลังมีปัญหาแล้ว
วัยรุ่นแถมเป็นเด็กผู้ชาย ยังสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้มันผิดปกตินะครับ
เด็กวัยรุ่นชายส่วนใหญ่ เขาฟังถ้าไม่ชอบเขาก็ไม่ทำตาม แต่นี้เอาเรื่องมาฟ้องแม่
จขกทควรตระหนักให้ดีว่าเลี้ยงลูกถูกทางหรือไม่
ปล.แสดงความเห็น เชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่ที่จขกท
ขออย่างเดียวอย่าพาลชวนผมทะเลาะนะครับ
ฟังแล้วถ้าไม่ใช่อคติเอาแต่สาระสำคัญ(ที่ไม่ต่อเติมเสริมแต่ง) ครูก็ทำหน้าที่คอยแนะนำเด็กไปในทางที่ดี
การทำดีกับพ่อมันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอยู่แล้ว อาจจะดีกับตัวเด็กเองที่จะให้เด็กไม่คิดว่าตัวเองมีปัญหาครอบครัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จขกทกำลังอคติเอาเรื่องส่วนตัวของตน ไปพาลคนที่เขาหวังดี แถมครูมีหน้าที่สอดส่องดูแลความประพฤติเด็ก
จขกทจะมีปัญหากับพ่อเด็ก แต่ในความเป็นแม่ จขกทจะต้องแนะนำแต่สิ่งที่ดีเป็นเป็นกุศล
อย่าพยายามเอาเด็กมาเป็นตัวประกัน แล้วยัดเยียดความเกลียดชังพ่อตัวเองให้เด็ก
สุดท้ายแล้วคนที่จะได้รับผลกระทบคือเด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเด็นมันอยู่ที่ตัวจขกทเองนั้นแหละ กำลังเอาอคติกับพ่อเด็ก มาพาลครูเขา
อยากบอกว่า ครูไม่ได้มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ จริยธรรมของครูคือต้องคอยดูแลความประพฤติ
และคอยแก้ปัญหาให้เด็กทั้งในโรงเรียนและเรื่องทางบ้าน
การบอกให้เด็กทำดีกับพ่อตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรทำในฐานะความเป็นครูโดยจิตวิญญาน
แม้พ่อจะเลวร้ายอย่างไรในสายตาแม่ แต่คนเป็นพ่อไม่มีทางที่จะทำร้ายลูกตัวเอง
อีกอย่างคำว่าครูไม่ได้หมายแค่เฉพาะครูที่ปรึกษา คนที่สอนหนังสือในโรงเรียนที่เด็กเรียนก็นับเป็นครูของนักเรียนทุกคน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แนะนำครับจะเกลียดชังพ่อเด็กอย่างไร ก็ไม่ควรเอาความเกลียดชังไปสอนเด็ก
ควรแนะนำแต่สิ่งดีๆ เพื่อไม่ให้เด็กเกิดปมปัญหา
เอาแค่เด็กเอาเรื่องที่โรงเรียนมาฟ้องแม่ แบบนี้ผมว่าเด็กกำลังมีปัญหาแล้ว
วัยรุ่นแถมเป็นเด็กผู้ชาย ยังสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้มันผิดปกตินะครับ
เด็กวัยรุ่นชายส่วนใหญ่ เขาฟังถ้าไม่ชอบเขาก็ไม่ทำตาม แต่นี้เอาเรื่องมาฟ้องแม่
จขกทควรตระหนักให้ดีว่าเลี้ยงลูกถูกทางหรือไม่
ปล.แสดงความเห็น เชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่ที่จขกท
ขออย่างเดียวอย่าพาลชวนผมทะเลาะนะครับ
แสดงความคิดเห็น
(แม่เลี้ยงเดี่ยว)ครูเรียกลูกไปคุยส่วนตัว เรื่องความสัมพันธ์กับพ่อ
เนื่องจากลูกชายอยู่ชั้นม.3 ได้มาเล่าให้ฟังว่า มีครูเรียกไปพบเป็นการส่วนตัว และได้พูดกับลูกว่า " อย่าหยิ่งกับพ่อให้มากนัก ทางบ้านเขามีเงินควรทำดีกับเขาเข้าไว้" ตอนนั้นลูกได้แต่ตอบว่า "ครับๆๆ" ครูท่านนี้ไม่ได้เป็นที่ปรึกษานะคะ เป็นครูสอนรายวิชาหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ลูกก็ไม่สบายใจ แม่เองก็ไม่สบายใจที่ครูดูจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร จะคุยกับครูก็เกรงจะมีผลกระทบกับลูก (เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 2ปีแล้วค่ะ และลูกไม่ค่อยจะลงรอยกับทางพ่อสักเท่าไร เพราะมีเรื่องกระทบจิตใจหลายเรื่อง และพยายามแก้ไขจนไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ตัดสินใจแยกทางนำลูกมาเลี้ยงดูเอง)
อยากให้สมาชิกช่วยออกความเห็นหน่อยว่าสมควรหรือไม่ที่ครูท่านนี้มาพูดเรื่องแบบนี้กับลูก (ลูกเราไม่ได้มีปัญหาทางด้านการเรียน ไม่เคยโดดเรียนนะคะ) และเราควรทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาแบบนี้ดีคะ?
หากพิมพ์อธิบายหรือสื่อสารผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ