เรื่องย่อ
"The Blacklist" เป็นซีรีส์แนวดราม่า อาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2013 ซีรีส์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดย Jon Bokenkamp และมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Raymond "Red" Reddington (James Spader) หนึ่งในอาชญากรที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นและยอมมอบตัวต่อ FBI โดยมีเงื่อนไขเดียวคือเขาจะยอมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ FBI เพียงคนเดียวเท่านั้น คือ Elizabeth "Liz" Keen (Megan Boone) นักวิเคราะห์อาชญากรรมหน้าใหม่ที่เพิ่งจบจากโรงเรียนตำรวจ
Reddington อ้างว่าเขามี "บัญชีดำ" (The Blacklist) ซึ่งเป็นรายชื่อของอาชญากรผู้ร้ายกาจและอันตรายที่สุดในโลกที่ไม่มีใครรู้จัก หรือทำงานอยู่นอกเหนือการสืบสวนของทางการ เพื่อแลกกับภูมิคุ้มกันและการเป็นอิสระบางส่วน เขาจะช่วย FBI ตามล่าและจับกุมอาชญากรเหล่านี้ ซึ่งแต่ละตอนมักจะนำเสนอ "Blacklister" คนใหม่พร้อมคดีที่ซับซ้อนและอันตราย
ความสัมพันธ์ระหว่าง Reddington และ Liz เป็นแกนหลักของซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและปริศนา โดยเฉพาะความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างทั้งสองที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมาตลอดหลายซีซั่น ซึ่งทำให้ Liz ต้องตั้งคำถามถึงตัวตนของเธอเองและอดีตของ Reddington ที่ดูเหมือนจะผูกพันกับชีวิตของเธออย่างแยกไม่ออก ซีรีส์พาผู้ชมสำรวจโลกใต้ดินของอาชญากรรมระดับโลก การเมือง การหักหลัง และการตามหาความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความลับมากมาย
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Blacklist" เป็นซีรีส์ที่มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความระทึกขวัญในทุกตอน สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นอย่างแท้จริงคือการแสดงของ James Spader ในบท Raymond Reddington เขาสามารถสร้างตัวละครที่ซับซ้อน มีเสน่ห์ เจ้าเล่ห์ มีอารมณ์ขัน และแฝงไว้ด้วยความลึกลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างไม่มีใครเทียบได้ บทสนทนาที่เฉียบคมและการนำเสนอเรื่องราวของ Red ที่ไม่เคยคาดเดาได้ ทำให้ตัวละครนี้เป็นที่รักและน่าติดตามอย่างมาก
แม้ว่าในส่วนของ Megan Boone ในบท Liz Keen อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแสดงในบางช่วง แต่พัฒนาการของตัวละครและการเปลี่ยนแปลงของเธอตลอดทั้งซีรีส์ก็ทำให้เรื่องราวน่าติดตาม การที่เรื่องราวผสมผสานความเป็น procedural ที่มีการจัดการคดีในแต่ละตอนเข้ากับเรื่องราวหลักที่เกี่ยวกับปริศนาในอดีตของ Red และ Liz ได้อย่างลงตัว ทำให้ซีรีส์ไม่น่าเบื่อและมีประเด็นให้ติดตามอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ซีรีส์เรื่องนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง โดยเฉพาะในซีซั่นหลังๆ ที่บางครั้งพล็อตเรื่องอาจจะดูยืดเยื้อและซับซ้อนเกินไป รวมถึงการหักมุมที่บางครั้งก็รู้สึกว่าซ้ำซากหรือถูกคลี่คลายอย่างไม่สมเหตุสมผลนัก แต่ด้วยพลังการแสดงของ James Spader และความน่าสนใจของแนวคิดหลัก ก็ยังคงทำให้ผู้ชมติดตามมาจนจบ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 7.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 91% (เฉลี่ยจากทุกซีซั่น) , คะแนนจากผู้ชม 80% (เฉลี่ยจากทุกซีซั่น)
สรุป
"The Blacklist" คือซีรีส์อาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่มีจุดแข็งอยู่ที่ตัวละคร Raymond Reddington ซึ่งรับบทโดย James Spader ที่โดดเด่นและมีเสน่ห์อย่างมาก ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ การผสมผสานระหว่างคดีรายสัปดาห์กับปริศนาหลักที่ลึกซึ้ง ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถตรึงผู้ชมไว้ได้ตลอดหลายซีซั่น แม้จะมีข้อเสียในบางช่วง แต่ด้วยคุณภาพการแสดงและความน่าติดตามของเรื่องราวโดยรวม ก็ทำให้ "The Blacklist" เป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรม ลึกลับ และการหักมุมที่ไม่คาดคิด.
The Blacklist: รายชื่อบัญชีดำ ปริศนาแห่งอาชญากรและสายลับที่ผูกพันกันด้วยโชคชะตา
เรื่องย่อ
"The Blacklist" เป็นซีรีส์แนวดราม่า อาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2013 ซีรีส์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดย Jon Bokenkamp และมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Raymond "Red" Reddington (James Spader) หนึ่งในอาชญากรที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นและยอมมอบตัวต่อ FBI โดยมีเงื่อนไขเดียวคือเขาจะยอมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ FBI เพียงคนเดียวเท่านั้น คือ Elizabeth "Liz" Keen (Megan Boone) นักวิเคราะห์อาชญากรรมหน้าใหม่ที่เพิ่งจบจากโรงเรียนตำรวจ
Reddington อ้างว่าเขามี "บัญชีดำ" (The Blacklist) ซึ่งเป็นรายชื่อของอาชญากรผู้ร้ายกาจและอันตรายที่สุดในโลกที่ไม่มีใครรู้จัก หรือทำงานอยู่นอกเหนือการสืบสวนของทางการ เพื่อแลกกับภูมิคุ้มกันและการเป็นอิสระบางส่วน เขาจะช่วย FBI ตามล่าและจับกุมอาชญากรเหล่านี้ ซึ่งแต่ละตอนมักจะนำเสนอ "Blacklister" คนใหม่พร้อมคดีที่ซับซ้อนและอันตราย
ความสัมพันธ์ระหว่าง Reddington และ Liz เป็นแกนหลักของซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและปริศนา โดยเฉพาะความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างทั้งสองที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมาตลอดหลายซีซั่น ซึ่งทำให้ Liz ต้องตั้งคำถามถึงตัวตนของเธอเองและอดีตของ Reddington ที่ดูเหมือนจะผูกพันกับชีวิตของเธออย่างแยกไม่ออก ซีรีส์พาผู้ชมสำรวจโลกใต้ดินของอาชญากรรมระดับโลก การเมือง การหักหลัง และการตามหาความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความลับมากมาย
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Blacklist" เป็นซีรีส์ที่มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความระทึกขวัญในทุกตอน สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นอย่างแท้จริงคือการแสดงของ James Spader ในบท Raymond Reddington เขาสามารถสร้างตัวละครที่ซับซ้อน มีเสน่ห์ เจ้าเล่ห์ มีอารมณ์ขัน และแฝงไว้ด้วยความลึกลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างไม่มีใครเทียบได้ บทสนทนาที่เฉียบคมและการนำเสนอเรื่องราวของ Red ที่ไม่เคยคาดเดาได้ ทำให้ตัวละครนี้เป็นที่รักและน่าติดตามอย่างมาก
แม้ว่าในส่วนของ Megan Boone ในบท Liz Keen อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแสดงในบางช่วง แต่พัฒนาการของตัวละครและการเปลี่ยนแปลงของเธอตลอดทั้งซีรีส์ก็ทำให้เรื่องราวน่าติดตาม การที่เรื่องราวผสมผสานความเป็น procedural ที่มีการจัดการคดีในแต่ละตอนเข้ากับเรื่องราวหลักที่เกี่ยวกับปริศนาในอดีตของ Red และ Liz ได้อย่างลงตัว ทำให้ซีรีส์ไม่น่าเบื่อและมีประเด็นให้ติดตามอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ซีรีส์เรื่องนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง โดยเฉพาะในซีซั่นหลังๆ ที่บางครั้งพล็อตเรื่องอาจจะดูยืดเยื้อและซับซ้อนเกินไป รวมถึงการหักมุมที่บางครั้งก็รู้สึกว่าซ้ำซากหรือถูกคลี่คลายอย่างไม่สมเหตุสมผลนัก แต่ด้วยพลังการแสดงของ James Spader และความน่าสนใจของแนวคิดหลัก ก็ยังคงทำให้ผู้ชมติดตามมาจนจบ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 7.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 91% (เฉลี่ยจากทุกซีซั่น) , คะแนนจากผู้ชม 80% (เฉลี่ยจากทุกซีซั่น)
สรุป
"The Blacklist" คือซีรีส์อาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่มีจุดแข็งอยู่ที่ตัวละคร Raymond Reddington ซึ่งรับบทโดย James Spader ที่โดดเด่นและมีเสน่ห์อย่างมาก ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ การผสมผสานระหว่างคดีรายสัปดาห์กับปริศนาหลักที่ลึกซึ้ง ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถตรึงผู้ชมไว้ได้ตลอดหลายซีซั่น แม้จะมีข้อเสียในบางช่วง แต่ด้วยคุณภาพการแสดงและความน่าติดตามของเรื่องราวโดยรวม ก็ทำให้ "The Blacklist" เป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรม ลึกลับ และการหักมุมที่ไม่คาดคิด.