สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อชี้แจงกรรมวิธีการทำงานและการตัดสินในฐานะที่เป็นกรรมการคนหนึ่ง หรือว่าโหวตเตอร์ของนาฏราชนั่นแหละครับ
ก่อนอื่นครับ ผมต้องขอชี้แจงว่า ผมได้รับเกียรติจากสมาพันธ์ในการเป็นโหวตเตอร์ตัดสินรางวัลนาฏราชมาตั้งแต่ปี 2561 (นาฏราช ครั้งที่ 9) จนถึงปัจจุบัน (นาฏราช ครั้งที่ 16) ผมตัดสินมาแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง ทุกครั้งที่ตัดสินผมได้ใช้วิจารณญาณ ใช้องค์ความรู้ทั้งหมดตั้งแต่ประกอบวิชาชีพนี้มาในการเป็นตัวแทนของประชาชนคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดให้ได้รับรางวัล ผมเชื่ออยู่เสมอมาว่า กรรมการตัดสินรางวัล ไม่ใช่ผู้คัดเลือกที่ต้องเลือก ผลงานที่ดังที่สุด แต่กรรมการมีหน้าที่คัดเลือก “ผลงานที่ดีที่สุด” บางปีผลงานที่ผมเลือกไป ไม่ได้รับรางวัลก็มี ผมเลือกเรื่องนี้ แต่ท่านอื่นๆ อ่านจะเลือกผลงานอื่น นาฏราชไม่ใช่รางวัลที่กรรมการมานั่งถกเถียงกันเพื่อตัดสินเหมือนรางวัลอื่นๆ แต่กรรมวิธีการทำงานคือ “ต่างคนต่างเลือก” และจะไม่มีใครทราบเลยว่า ใครเลือกอะไร
กระทู้นี้ผมจะพูดถึงรางวัลในประเภทของละครโทรทัศน์และซีรีส์ครับ อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ในหนึ่งปี ละครที่ออกอากาศมันมีเยอะแยะมากมาย ผมก็มีงานของผมที่ต้องทำ ต้องมีเวลาพักผ่อนเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ดังนั้น ผมจึงต้องขอเรียนตามตรงว่า ผมไม่ได้ดูละครครบทุกเรื่องครับ ลักษณะมันมี 3 แบบครับ คือ
1) ดูละครเรื่องนั้นตอนออกอากาศจริง
2) ไม่ได้ดู แต่รับรู้ถึงคำชม คำติต่างๆ อาจดูสั้นๆบ้างในแพลตฟอร์มต่างๆ
3) ไม่ได้ดู และไม่รับรู้อะไรเลย
ปัญหามันอยู่ที่ข้อที่ 3 ครับ ไม่ได้ดู และไม่รับรู้อะไรเลย แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะตัดละครเรื่องนั้นออกจากกระบวนการตัดสิน คืออย่างงี้ครับ ระบบการโหวตของนาฏราชถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อ 3 โดยเฉพาะเลยครับ กฎของนาฏราชเบื้องต้นเลยคือ เมื่อผู้ผลิตหรือช่องเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ส่งผลงานมาแล้ว จะต้องแนบคลิปฉากที่ดีที่สุดหรือภาพรวมที่ดีที่สุดของละครเรื่องนั้นมา ก่อนที่ผมจะโหวตรางวัลใดรางวัลหนึ่งได้ ผมต้องกดดูคลิปจากละครทุกเรื่องที่เข้าชิงให้ครบถึงจะโหวตได้ ถ้าดูไม่ครบ ระบบจะไม่ให้โหวต
แล้วอาจมีบางคนสงสัยอีกว่า คลิปมันมาแค่ไม่กี่นาที แล้วจะตัดสินภาพรวมทั้งหมดได้ยังไง ผมต้องขอบอกตรงนี้อีกครับว่า ผมไม่ได้ตัดสินจากคลิป ๆ นั้นที่แนบมาอย่างเดียว ผมอาจจะไปหาอีกหลายๆฉากมาเพื่อพิจารณา หรือไปหาข้อมูลต่างๆมาประกอบกัน อันนี้คือวิธีการทำงานของผมนะครับ โหวตเตอร์ท่านอื่นๆ ผมไม่สามารถก้าวล่วงเข้าไปได้
ประเด็นถัดไป คือ ช่องไหนจัด ช่องนั้นได้ ผมไม่ได้เข้าไปอยู่ในเบื้องหลังของสมาพันธ์ ผมจึงไม่รู้ว่ามีอะไรแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่ออย่างสุดใจว่า สมาพันธ์ให้เกียรติเสียงของคนในวงการทุกเสียง และไม่มีการทำแบบนี้อย่างแน่นอน ผมไม่เคยได้รับคำสั่งมาว่า ต้องโหวตให้เรื่องนี้นะ ต้องเลือกคนนี้นะ แต่ผมพิจารณาแบบ ไม่ได้ดูช่อง ไม่ได้ดูสังกัด ผมพิจารณาที่ผลงาน
ผมต้องขอชี้แจงอีกครับว่า ผมเป็นโหวตเตอร์ในรอบ Final อย่างเดียว คือมันผ่านรอบคัดเลือกมาให้ผมตัดสินผู้ชนะโดยมีช้อยส์มาแล้ว กฎของนาฏราชคือ หลังๆเขาจะมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านละคร ซึ่งสมาพันธ์เรียนเชิญมา เขาคิดคะแนนจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินี้ 20% และคะแนนจากคนในวงการที่มาจากการเสนอชื่อของแต่ละสถานี แต่ละบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ คิดเป็นสัดส่วนคะแนน 80% (คนในวงการ คือ คนที่เป็นเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังของละคร ทุกฝ่าย และผู้ได้รับรางวัลในปีก่อนๆ) ผมอยู่ในสัดส่วนของคนในวงการ 80% ครับ
อย่างนาฏราช ครั้งที่ 16 ที่ผ่านมา บางรางวัลก็ตรงกับที่ผมโหวต บางรางวัลก็ไม่ คร่าวๆก็ตามนี้ครับ
• ละครสั้นยอดเยี่ยม ผมลงคะแนนให้ รถรางเที่ยวสุดท้าย แต่ผู้ชนะจริงๆคือ แม่หยัว
ในประเด็นของแม่หยัว ผมหนักใจมากๆเหมือนกันตอนตัดสินนะครับว่า แม่หยัวพลาดแค่ตรงที่มีดราม่าทารุณกรรมสัตว์ ผมเลยไม่โหวตให้ และเมื่อดูๆแล้ว ผมจึงเลือก รถรางเที่ยวสุดท้าย คือบางครั้งผมก็ต้องแยกให้ออกระหว่างภาพรวมทั้งหมดที่ดีเยี่ยม กับข้อถกเถียงทางจริยธรรมที่เกิดขึ้นรอบนอก ในฐานะโหวตเตอร์ ผมมองว่า ศิลปะต้องเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ผมเลยไม่โหวตให้แม่หยัว
• นำหญิงละครสั้น ผมลงคะแนนให้ พี่ลูกเกด เมทินี จาก ทิชา แต่ผู้ชนะคือ ใบเฟิร์น จาก ทิชา
• นำชายละครสั้น ผมโหวตให้ ฟิล์ม ธนภัทร จาก แม่หยัว แต่ผู้ชนะคือ อาหนิง นิรุตติ์ จาก รถรางเที่ยวสุดท้าย
• นำชายละครเย็น ผมโหวตให้ จ็อบ ธัชพล จาก นางนาคพระโขนง แต่ผู้ชนะคือ กัน นภัทร
ขอบอกตามตรงว่า นำหญิงละครยาวที่หลายๆคนในนี้ เดาว่าแอฟ จากสงครามสมรสจะได้ไป แต่ผู้ชนะคือ ใบเฟิร์น ทองประกายแสด ผมก็โหวตให้ใบเฟิร์นครับ
มีสาขาอื่นๆอีกที่ ไม่ตรงกับที่ผมลงคะแนนเช่น สมทบหญิงแพลตฟอร์ม ผมโหวตให้น้องแพร์ พิชชาภา เรื่องอย่ากลับบ้าน แต่พี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้าได้ไป
นั่นแหละครับว่า การตัดสิน ส่วนหนึ่งมันก็คือวิจารณญาณส่วนบุคคลของกรรมการคนนั้น ถึงแม้ผลจะไม่ตรงกับที่ผมโหวต แต่ผมก็ให้เกียรติผู้ชนะ เพราะเขาชนะมาจากเสียงส่วนใหญ่ ผมไม่โหวต แต่โหวตเตอร์ส่วนใหญ่โหวต เขาชนะ ก็คือจบ
อีกอย่างครับ ปีนี้สาขาการแสดงทั้งหมด มีนักแสดงมากหน้าหลายตาที่เข้าชิง บางท่านก็เป็นรุ่นเก่า รุ่นใหม่เอี่ยมก็มี บางคนคือผมไม่รู้จักเลย ถึงขนาดต้องไปค้นหาดูชื่อ ดูข้อมูล แต่ถึงอย่างไร การที่ผมไม่รู้จักนักแสดงคนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่โหวตให้เขาเลย ถ้าเขาแสดงดี ผมก็โหวตให้ เพราะผมตัดสินที่ผลงาน ไม่ใช่ชื่อเสียง แต่กลับคน ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมต้องเลือกลงคะแนนให้กับนักแสดงรุ่นใหญ่ มีชื่อเสียง พระเอกนางเอกแถวหน้าเสมอไป ถ้าการแสดงของเขาในเรื่องนั้นยังไม่ควรค่าแก่รางวัลพอ ผมก็ไม่โหวตให้ เช่นในปีนี้ สาขาหนึ่งที่ผมหนักใจมากๆปีนี้ตอนที่ลงคะแนนคือ สาขาสมทบชาย ละครยาว ผมไตร่ตรองจนท้ายที่สุด ผมก็โหวตให้น้องเจ้าคุณ สงครามสมรส ที่ผมหนักใจคือ ความเป็นเด็ก ผมคิดว่า การแสดงที่ดีที่สุดของปีที่แล้ว จะมาพลาดรางวัลเพราะแค่เป็นเด็กไหม ง่ายๆเลยคือ ผมหนักใจ ผมกลัวว่ากรรมการคนอื่นจะไม่โหวตน้องเจ้าคุณ เพียงแค่ว่าน้องยังเด็ก ทั้งที่การแสดงของน้องสมบูรณ์กับคำว่า นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในรายชื่อมีทั้ง พี่ตั๊ก นภัสกร / ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม / ไมกี้ ปณิธาณ / ไอซ์ พาริส ผมกลัวว่า น้องเจ้าคุณจะแพ้เพราะชื่อเสียงที่น้อยกว่า 4 ท่านนี้ แต่ผลที่ออกมาคือ น้องเจ้าคุณ กลายเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัล และเป็นสถิติของผมคือ อายุน้อยที่สุดที่ผมได้โหวตให้
ท้ายที่สุด ที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะ ผมอยากให้รู้ถึงการทำงานของกรรมการ กรรมการไม่ได้แบ่งแยก ไม่ได้ปิดกั้น ทั้งหมดนี้เป็นแค่แนวทางการตัดสินของผม ผมไม่รู้ว่า กรรมการท่านอื่นๆมีแนวคิดยังไงนะครับ แต่ผมอยากให้รู้ว่า ผมหนึ่งในกรรมการ พยายามที่จะตัดสินทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุดแล้ว แต่เผอิญว่า กรรมการมันเยอะ นาฏราช ในแง่หนึ่ง มันก็คือรางวัลยอดนิยมในวงการนั่นแหละครับ ดังนั้น ทุกเรื่องที่เข้าชิงมันดีหมด มันอยู่แค่ว่า เรื่องไหนจะถูกใจคนในวงการมากกว่ากันแค่นั้นเอง
สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกกับทุกท่านว่า ไม่ว่ารางวัลจะตกเป็นของใคร ทุกผลงานที่เข้าชิงคือตัวแทนของความทุ่มเททั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ผมในฐานะโหวตเตอร์คนหนึ่ง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เห็นความงดงามเหล่านี้ในทุกปี ขอบคุณครับ
จากใจโหวตเตอร์นาฏราชคนหนึ่ง
ก่อนอื่นครับ ผมต้องขอชี้แจงว่า ผมได้รับเกียรติจากสมาพันธ์ในการเป็นโหวตเตอร์ตัดสินรางวัลนาฏราชมาตั้งแต่ปี 2561 (นาฏราช ครั้งที่ 9) จนถึงปัจจุบัน (นาฏราช ครั้งที่ 16) ผมตัดสินมาแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง ทุกครั้งที่ตัดสินผมได้ใช้วิจารณญาณ ใช้องค์ความรู้ทั้งหมดตั้งแต่ประกอบวิชาชีพนี้มาในการเป็นตัวแทนของประชาชนคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดให้ได้รับรางวัล ผมเชื่ออยู่เสมอมาว่า กรรมการตัดสินรางวัล ไม่ใช่ผู้คัดเลือกที่ต้องเลือก ผลงานที่ดังที่สุด แต่กรรมการมีหน้าที่คัดเลือก “ผลงานที่ดีที่สุด” บางปีผลงานที่ผมเลือกไป ไม่ได้รับรางวัลก็มี ผมเลือกเรื่องนี้ แต่ท่านอื่นๆ อ่านจะเลือกผลงานอื่น นาฏราชไม่ใช่รางวัลที่กรรมการมานั่งถกเถียงกันเพื่อตัดสินเหมือนรางวัลอื่นๆ แต่กรรมวิธีการทำงานคือ “ต่างคนต่างเลือก” และจะไม่มีใครทราบเลยว่า ใครเลือกอะไร
กระทู้นี้ผมจะพูดถึงรางวัลในประเภทของละครโทรทัศน์และซีรีส์ครับ อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ในหนึ่งปี ละครที่ออกอากาศมันมีเยอะแยะมากมาย ผมก็มีงานของผมที่ต้องทำ ต้องมีเวลาพักผ่อนเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ดังนั้น ผมจึงต้องขอเรียนตามตรงว่า ผมไม่ได้ดูละครครบทุกเรื่องครับ ลักษณะมันมี 3 แบบครับ คือ
1) ดูละครเรื่องนั้นตอนออกอากาศจริง
2) ไม่ได้ดู แต่รับรู้ถึงคำชม คำติต่างๆ อาจดูสั้นๆบ้างในแพลตฟอร์มต่างๆ
3) ไม่ได้ดู และไม่รับรู้อะไรเลย
ปัญหามันอยู่ที่ข้อที่ 3 ครับ ไม่ได้ดู และไม่รับรู้อะไรเลย แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะตัดละครเรื่องนั้นออกจากกระบวนการตัดสิน คืออย่างงี้ครับ ระบบการโหวตของนาฏราชถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อ 3 โดยเฉพาะเลยครับ กฎของนาฏราชเบื้องต้นเลยคือ เมื่อผู้ผลิตหรือช่องเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ส่งผลงานมาแล้ว จะต้องแนบคลิปฉากที่ดีที่สุดหรือภาพรวมที่ดีที่สุดของละครเรื่องนั้นมา ก่อนที่ผมจะโหวตรางวัลใดรางวัลหนึ่งได้ ผมต้องกดดูคลิปจากละครทุกเรื่องที่เข้าชิงให้ครบถึงจะโหวตได้ ถ้าดูไม่ครบ ระบบจะไม่ให้โหวต
แล้วอาจมีบางคนสงสัยอีกว่า คลิปมันมาแค่ไม่กี่นาที แล้วจะตัดสินภาพรวมทั้งหมดได้ยังไง ผมต้องขอบอกตรงนี้อีกครับว่า ผมไม่ได้ตัดสินจากคลิป ๆ นั้นที่แนบมาอย่างเดียว ผมอาจจะไปหาอีกหลายๆฉากมาเพื่อพิจารณา หรือไปหาข้อมูลต่างๆมาประกอบกัน อันนี้คือวิธีการทำงานของผมนะครับ โหวตเตอร์ท่านอื่นๆ ผมไม่สามารถก้าวล่วงเข้าไปได้
ประเด็นถัดไป คือ ช่องไหนจัด ช่องนั้นได้ ผมไม่ได้เข้าไปอยู่ในเบื้องหลังของสมาพันธ์ ผมจึงไม่รู้ว่ามีอะไรแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่ออย่างสุดใจว่า สมาพันธ์ให้เกียรติเสียงของคนในวงการทุกเสียง และไม่มีการทำแบบนี้อย่างแน่นอน ผมไม่เคยได้รับคำสั่งมาว่า ต้องโหวตให้เรื่องนี้นะ ต้องเลือกคนนี้นะ แต่ผมพิจารณาแบบ ไม่ได้ดูช่อง ไม่ได้ดูสังกัด ผมพิจารณาที่ผลงาน
ผมต้องขอชี้แจงอีกครับว่า ผมเป็นโหวตเตอร์ในรอบ Final อย่างเดียว คือมันผ่านรอบคัดเลือกมาให้ผมตัดสินผู้ชนะโดยมีช้อยส์มาแล้ว กฎของนาฏราชคือ หลังๆเขาจะมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านละคร ซึ่งสมาพันธ์เรียนเชิญมา เขาคิดคะแนนจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินี้ 20% และคะแนนจากคนในวงการที่มาจากการเสนอชื่อของแต่ละสถานี แต่ละบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ คิดเป็นสัดส่วนคะแนน 80% (คนในวงการ คือ คนที่เป็นเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังของละคร ทุกฝ่าย และผู้ได้รับรางวัลในปีก่อนๆ) ผมอยู่ในสัดส่วนของคนในวงการ 80% ครับ
อย่างนาฏราช ครั้งที่ 16 ที่ผ่านมา บางรางวัลก็ตรงกับที่ผมโหวต บางรางวัลก็ไม่ คร่าวๆก็ตามนี้ครับ
• ละครสั้นยอดเยี่ยม ผมลงคะแนนให้ รถรางเที่ยวสุดท้าย แต่ผู้ชนะจริงๆคือ แม่หยัว
ในประเด็นของแม่หยัว ผมหนักใจมากๆเหมือนกันตอนตัดสินนะครับว่า แม่หยัวพลาดแค่ตรงที่มีดราม่าทารุณกรรมสัตว์ ผมเลยไม่โหวตให้ และเมื่อดูๆแล้ว ผมจึงเลือก รถรางเที่ยวสุดท้าย คือบางครั้งผมก็ต้องแยกให้ออกระหว่างภาพรวมทั้งหมดที่ดีเยี่ยม กับข้อถกเถียงทางจริยธรรมที่เกิดขึ้นรอบนอก ในฐานะโหวตเตอร์ ผมมองว่า ศิลปะต้องเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ผมเลยไม่โหวตให้แม่หยัว
• นำหญิงละครสั้น ผมลงคะแนนให้ พี่ลูกเกด เมทินี จาก ทิชา แต่ผู้ชนะคือ ใบเฟิร์น จาก ทิชา
• นำชายละครสั้น ผมโหวตให้ ฟิล์ม ธนภัทร จาก แม่หยัว แต่ผู้ชนะคือ อาหนิง นิรุตติ์ จาก รถรางเที่ยวสุดท้าย
• นำชายละครเย็น ผมโหวตให้ จ็อบ ธัชพล จาก นางนาคพระโขนง แต่ผู้ชนะคือ กัน นภัทร
ขอบอกตามตรงว่า นำหญิงละครยาวที่หลายๆคนในนี้ เดาว่าแอฟ จากสงครามสมรสจะได้ไป แต่ผู้ชนะคือ ใบเฟิร์น ทองประกายแสด ผมก็โหวตให้ใบเฟิร์นครับ
มีสาขาอื่นๆอีกที่ ไม่ตรงกับที่ผมลงคะแนนเช่น สมทบหญิงแพลตฟอร์ม ผมโหวตให้น้องแพร์ พิชชาภา เรื่องอย่ากลับบ้าน แต่พี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้าได้ไป
นั่นแหละครับว่า การตัดสิน ส่วนหนึ่งมันก็คือวิจารณญาณส่วนบุคคลของกรรมการคนนั้น ถึงแม้ผลจะไม่ตรงกับที่ผมโหวต แต่ผมก็ให้เกียรติผู้ชนะ เพราะเขาชนะมาจากเสียงส่วนใหญ่ ผมไม่โหวต แต่โหวตเตอร์ส่วนใหญ่โหวต เขาชนะ ก็คือจบ
อีกอย่างครับ ปีนี้สาขาการแสดงทั้งหมด มีนักแสดงมากหน้าหลายตาที่เข้าชิง บางท่านก็เป็นรุ่นเก่า รุ่นใหม่เอี่ยมก็มี บางคนคือผมไม่รู้จักเลย ถึงขนาดต้องไปค้นหาดูชื่อ ดูข้อมูล แต่ถึงอย่างไร การที่ผมไม่รู้จักนักแสดงคนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่โหวตให้เขาเลย ถ้าเขาแสดงดี ผมก็โหวตให้ เพราะผมตัดสินที่ผลงาน ไม่ใช่ชื่อเสียง แต่กลับคน ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมต้องเลือกลงคะแนนให้กับนักแสดงรุ่นใหญ่ มีชื่อเสียง พระเอกนางเอกแถวหน้าเสมอไป ถ้าการแสดงของเขาในเรื่องนั้นยังไม่ควรค่าแก่รางวัลพอ ผมก็ไม่โหวตให้ เช่นในปีนี้ สาขาหนึ่งที่ผมหนักใจมากๆปีนี้ตอนที่ลงคะแนนคือ สาขาสมทบชาย ละครยาว ผมไตร่ตรองจนท้ายที่สุด ผมก็โหวตให้น้องเจ้าคุณ สงครามสมรส ที่ผมหนักใจคือ ความเป็นเด็ก ผมคิดว่า การแสดงที่ดีที่สุดของปีที่แล้ว จะมาพลาดรางวัลเพราะแค่เป็นเด็กไหม ง่ายๆเลยคือ ผมหนักใจ ผมกลัวว่ากรรมการคนอื่นจะไม่โหวตน้องเจ้าคุณ เพียงแค่ว่าน้องยังเด็ก ทั้งที่การแสดงของน้องสมบูรณ์กับคำว่า นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในรายชื่อมีทั้ง พี่ตั๊ก นภัสกร / ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม / ไมกี้ ปณิธาณ / ไอซ์ พาริส ผมกลัวว่า น้องเจ้าคุณจะแพ้เพราะชื่อเสียงที่น้อยกว่า 4 ท่านนี้ แต่ผลที่ออกมาคือ น้องเจ้าคุณ กลายเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัล และเป็นสถิติของผมคือ อายุน้อยที่สุดที่ผมได้โหวตให้
ท้ายที่สุด ที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะ ผมอยากให้รู้ถึงการทำงานของกรรมการ กรรมการไม่ได้แบ่งแยก ไม่ได้ปิดกั้น ทั้งหมดนี้เป็นแค่แนวทางการตัดสินของผม ผมไม่รู้ว่า กรรมการท่านอื่นๆมีแนวคิดยังไงนะครับ แต่ผมอยากให้รู้ว่า ผมหนึ่งในกรรมการ พยายามที่จะตัดสินทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุดแล้ว แต่เผอิญว่า กรรมการมันเยอะ นาฏราช ในแง่หนึ่ง มันก็คือรางวัลยอดนิยมในวงการนั่นแหละครับ ดังนั้น ทุกเรื่องที่เข้าชิงมันดีหมด มันอยู่แค่ว่า เรื่องไหนจะถูกใจคนในวงการมากกว่ากันแค่นั้นเอง
สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกกับทุกท่านว่า ไม่ว่ารางวัลจะตกเป็นของใคร ทุกผลงานที่เข้าชิงคือตัวแทนของความทุ่มเททั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ผมในฐานะโหวตเตอร์คนหนึ่ง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เห็นความงดงามเหล่านี้ในทุกปี ขอบคุณครับ