ฌอน เพนน์ อาจจะพูดตรงไป แต่แอบมีส่วนจริงและน่าเจ็บปวดเหมือนกัน แกบอกว่า ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ยังคงเป็นดาราที่ทำเงินดีทั้งกับตนเองและสตูดิโอ แต่วงการหนังหยุดผลิตดาราดังที่สามารถขายตั๋วได้ด้วยชื่อดาราคนเดียวแล้ว เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ อาจเป็นดาราหนังคนสุดท้ายก็ได้
.
- มันแปลว่าอะไร ? ก็เพราะ ฌอน เพนน์ แกมีความเชื่อที่ว่าทุกวันนี้คนที่ถูกเรียกว่า ดาราหนังจริงๆมันน้อยลงแล้ว ทุกวันนี้นักแสดงมักถูกครอบด้วยคาแร็คเตอร์ กับหนังแฟรนไชส์ จนดาราหนังจริงๆที่สามารถชวนคนดูเข้าโรงได้แค่เพราะเห็นชื่อ เริ่มจะไม่มีแล้ว
.
- ป๋าฌอนเอ่ยถึง ทอม ครูซ ว่าเป็นหนึ่งในดาราหนังที่ยิ่งใหญ่ที่ยังสามารถทำอะไรแบบนั้นได้
.
- ป๋าฌอนบอกว่าไม่เคยดู Game of Thrones และเวลาดูหนังที่นักแสดงใหม่ๆเล่น ป๋าฌอนแทบอยากวางมือจากวงการไปทำงานบัญชี ป๋ายังบอกอีกว่าเด็กๆเหล่านี้เก่งนะ ซึ่งแกจะบอกว่าเก่งแต่ไม่มีอะไรดึงดูดให้อยากดู ก็บอกตรงๆไม่ได้ 5555
.
- แนวคิดของ ฌอน เพนน์ นั้นตรงกับรุ่นเก๋าๆหลายคน มาร์ติน สกอร์เซซี่ ก็ออกมาสวดหนัง Marvel บ่อยๆว่าเหมือนรถไฟเหาะมากกว่าดูหนัง เควนติน ทาแรนติโน่ เองก็ร่วมถ่ม Marvel จนดาราคู่บุญอย่าง แซมมวล แอล.แจ็กสัน ออกมาแซะให้เพลาๆหน่อย หากินทางนี้อยู่
.
- แต่ย้อนกลับมามองวงการตอนนี้ ดาราดังบางคนแม้จะเล่นหนังเยอะ และดังแค่ไหน แต่บางคนยังมาโอดครวญเรื่องรายได้ค่าตัวอยู่เลย ก็จริงที่เวลานี้ดารารุ่นๆเดียวกับ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และรุ่นก่อนหน้านั้นยังสามารถเรียกค่าตัวได้ และชื่อของดารายังเรียกคนดูเข้าโรงไปสนับสนุนได้ แต่หลังจากหมดยุค เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ไปมันอาจไม่ใช่อย่างที่เห็น
.
- ฌอน เพนน์ กำลังชี้ให้เห็นว่าวงการหนังมันเหมือนกับว่าผู้คนกำลังนั่งเล่นอยู่ในส่วนต่างๆของห้องสมุด พวกเราเคยอยู่ในห้องสมุดเดียวกัน และได้ค้นพบว่าอะไรคือสิ่งที่พิเศษสำหรับทุกคน ป๋าฌอนชอบยุคที่คนดูร่วมกันประทับใจ มากกว่าแตกกระจายชอบใครชอบมัน ป๋ายังบอกอีกว่า ไม่มีแล้วยุคที่มีดาราอย่าง วอร์เรน เบตตี้
________________________
.
ฌอน เพนน์ พูดอะไรเหล่านี้ในรายการพ็อดแคสท์ The Louis Theroux

เครดิต:เพจfb ตั๋วร้อนWorldwide
.
โลกที่เราอยู่นี้ หมุนเวียนไปจนเราตามไม่ทันจริงๆ

ผมคงอยู่ในยุค เจนิเฟอร์ ลอเรนซ์ ตอนนั้นตกหลุมรักในการแสดงของเธอจริงๆ ชอบที่เธอแสดงตัวฟ้าๆในมาเวล ที่แทรกซึมซ่อนเร้นเป็นใครก็ได้
อย่างเท่ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผมหลายอย่าง