เรื่องย่อ
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกแฟนตาซีสัญชาติอเมริกัน ออกฉายในปี 1997 กำกับโดย Tom Shadyac นำแสดงโดย Jim Carrey ในบท Fletcher Reede ทนายความผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่กลับเป็นคนที่ไม่เคยรักษาคำพูดและมักจะโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอยู่เสมอ จนทำให้ความสัมพันธ์กับ Audrey (Maura Tierney) อดีตภรรยา และ Max (Justin Cooper) ลูกชายวัย 5 ขวบ ต้องย่ำแย่ลง
ในวันเกิดครบรอบ 5 ขวบของ Max หลังจากที่ Fletcher ผิดคำสัญญาว่าจะมาร่วมงานวันเกิดอีกครั้ง Max ได้อธิษฐานในขณะเป่าเค้กวันเกิดว่าอยากให้คุณพ่อของเขาหยุดโกหกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และคำอธิษฐานนั้นก็เป็นจริงอย่างน่าอัศจรรย์! ทันใดนั้น Fletcher ก็ไม่สามารถพูดโกหกได้อีกต่อไป แม้แต่คำโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือในการทำงานในฐานะทนายความ
สิ่งที่ตามมาคือความโกลาหลอลหม่านในชีวิตของ Fletcher เขาไม่สามารถพูดโกหกในชั้นศาลได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการว่าความให้กับลูกความที่ไม่น่าไว้ใจ นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถโกหกผู้คนรอบข้างได้เลย ทำให้เขาต้องพูดความจริงที่น่าอับอายหรือทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นออกมา สถานการณ์นี้ทำให้ Fletcher ต้องเผชิญหน้ากับผลของการโกหกที่เขาทำมาตลอด และต้องพยายามแก้ไขความสัมพันธ์กับลูกชายและอดีตภรรยา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ความรู้สึกหลังรับชม
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่มาจากฝีมือการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jim Carrey ในบทบาทของทนายความที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถโกหกได้ เขาสามารถถ่ายทอดความอึดอัด ขัดใจ และท่าทีทางร่างกายที่พยายามต่อสู้กับตัวเองเมื่อจะพูดโกหกได้อย่างตลกขบขันและน่าทึ่ง ความสามารถในการใช้สีหน้าท่าทางและการแสดงโอเวอร์แอ็คติ้งของเขาเข้ากับบทบาทนี้ได้อย่างลงตัว ทำให้หลายๆ ฉากกลายเป็นฉากคลาสสิกที่น่าจดจำ
นอกเหนือจากความตลก ภาพยนตร์ยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของความซื่อสัตย์และความสัมพันธ์ในครอบครัว การที่ Fletcher ถูกบังคับให้พูดความจริง ทำให้เขาได้มองเห็นถึงผลกระทบของการโกหกที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะลูกชายของเขา ความสัมพันธ์ระหว่าง Fletcher กับ Max เป็นแกนหลักทางอารมณ์ของเรื่อง ซึ่ง Justin Cooper แสดงบทบาทของเด็กชายที่น่ารักและต้องการความรักจากพ่อได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แม้ว่าพล็อตเรื่องจะดูเรียบง่ายและอาจจะคาดเดาได้ แต่การดำเนินเรื่องที่กระชับและมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์ตลกที่เกิดจากการไม่สามารถโกหกได้ ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสนุกและเพลิดเพลิน ฉากในห้องพิจารณาคดีที่ Fletcher ต้องพูดความจริงออกมาสร้างความวายป่วงและเสียงหัวเราะได้อย่างมาก
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 6.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 83% , คะแนนจากผู้ชม 75%
สรุป
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกแฟนตาซีที่สนุกและมอบความสุขให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Jim Carrey ในบทบาทที่เข้ากับสไตล์การแสดงของเขาอย่างที่สุด สถานการณ์ตลกที่เกิดจากการไม่สามารถโกหกได้สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากความตลกแล้ว ภาพยนตร์ยังแฝงข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความสำคัญของความซื่อสัตย์และความสัมพันธ์ในครอบครัว แม้พล็อตจะไม่ได้ซับซ้อน แต่การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยมุขตลกทำให้ดูเพลินจนจบ ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่ค่อนข้างสูงบน Rotten Tomatoes เป็นเครื่องยืนยันถึงความสนุกและความบันเทิงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มอบให้ "Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับการดูเพื่อความผ่อนคลายและเรียกเสียงหัวเราะ และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจดจำของ Jim Carrey.
Liar Liar: ทนายจอมโกหก เมื่อคำโกหกทั้งหมดต้องหายไปในพริบตา
เรื่องย่อ
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกแฟนตาซีสัญชาติอเมริกัน ออกฉายในปี 1997 กำกับโดย Tom Shadyac นำแสดงโดย Jim Carrey ในบท Fletcher Reede ทนายความผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่กลับเป็นคนที่ไม่เคยรักษาคำพูดและมักจะโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอยู่เสมอ จนทำให้ความสัมพันธ์กับ Audrey (Maura Tierney) อดีตภรรยา และ Max (Justin Cooper) ลูกชายวัย 5 ขวบ ต้องย่ำแย่ลง
ในวันเกิดครบรอบ 5 ขวบของ Max หลังจากที่ Fletcher ผิดคำสัญญาว่าจะมาร่วมงานวันเกิดอีกครั้ง Max ได้อธิษฐานในขณะเป่าเค้กวันเกิดว่าอยากให้คุณพ่อของเขาหยุดโกหกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และคำอธิษฐานนั้นก็เป็นจริงอย่างน่าอัศจรรย์! ทันใดนั้น Fletcher ก็ไม่สามารถพูดโกหกได้อีกต่อไป แม้แต่คำโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือในการทำงานในฐานะทนายความ
สิ่งที่ตามมาคือความโกลาหลอลหม่านในชีวิตของ Fletcher เขาไม่สามารถพูดโกหกในชั้นศาลได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการว่าความให้กับลูกความที่ไม่น่าไว้ใจ นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถโกหกผู้คนรอบข้างได้เลย ทำให้เขาต้องพูดความจริงที่น่าอับอายหรือทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นออกมา สถานการณ์นี้ทำให้ Fletcher ต้องเผชิญหน้ากับผลของการโกหกที่เขาทำมาตลอด และต้องพยายามแก้ไขความสัมพันธ์กับลูกชายและอดีตภรรยา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ความรู้สึกหลังรับชม
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่มาจากฝีมือการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jim Carrey ในบทบาทของทนายความที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถโกหกได้ เขาสามารถถ่ายทอดความอึดอัด ขัดใจ และท่าทีทางร่างกายที่พยายามต่อสู้กับตัวเองเมื่อจะพูดโกหกได้อย่างตลกขบขันและน่าทึ่ง ความสามารถในการใช้สีหน้าท่าทางและการแสดงโอเวอร์แอ็คติ้งของเขาเข้ากับบทบาทนี้ได้อย่างลงตัว ทำให้หลายๆ ฉากกลายเป็นฉากคลาสสิกที่น่าจดจำ
นอกเหนือจากความตลก ภาพยนตร์ยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของความซื่อสัตย์และความสัมพันธ์ในครอบครัว การที่ Fletcher ถูกบังคับให้พูดความจริง ทำให้เขาได้มองเห็นถึงผลกระทบของการโกหกที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะลูกชายของเขา ความสัมพันธ์ระหว่าง Fletcher กับ Max เป็นแกนหลักทางอารมณ์ของเรื่อง ซึ่ง Justin Cooper แสดงบทบาทของเด็กชายที่น่ารักและต้องการความรักจากพ่อได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แม้ว่าพล็อตเรื่องจะดูเรียบง่ายและอาจจะคาดเดาได้ แต่การดำเนินเรื่องที่กระชับและมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์ตลกที่เกิดจากการไม่สามารถโกหกได้ ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสนุกและเพลิดเพลิน ฉากในห้องพิจารณาคดีที่ Fletcher ต้องพูดความจริงออกมาสร้างความวายป่วงและเสียงหัวเราะได้อย่างมาก
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 6.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 83% , คะแนนจากผู้ชม 75%
สรุป
"Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ตลกแฟนตาซีที่สนุกและมอบความสุขให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Jim Carrey ในบทบาทที่เข้ากับสไตล์การแสดงของเขาอย่างที่สุด สถานการณ์ตลกที่เกิดจากการไม่สามารถโกหกได้สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากความตลกแล้ว ภาพยนตร์ยังแฝงข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความสำคัญของความซื่อสัตย์และความสัมพันธ์ในครอบครัว แม้พล็อตจะไม่ได้ซับซ้อน แต่การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยมุขตลกทำให้ดูเพลินจนจบ ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่ค่อนข้างสูงบน Rotten Tomatoes เป็นเครื่องยืนยันถึงความสนุกและความบันเทิงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มอบให้ "Liar Liar" เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับการดูเพื่อความผ่อนคลายและเรียกเสียงหัวเราะ และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจดจำของ Jim Carrey.