เมืองตรังไม่ตรงปก! ไอซ์ ตั้ง 3 ข้อสังเกต ชี้ โครงการจากส่วนกลางไม่ตอบโจทย์ แนะให้ท้องถิ่นบริหารจัดการ
.
.
เมืองตรังไม่ตรงปก! ไอซ์ ตั้ง 3 ข้อสังเกต ชี้ โครงการจากส่วนกลางไม่ตอบโจทย์ปชช. แนะให้ท้องถิ่นบริหารจัดการ
.
.
เทสที่สร้าง VS ร่างที่เป็น เมืองตรังไม่ตรงปก ver2
.
.
ข้อสังเกต
.
1) แต่สิ่งที่ประชาชนสร้างคำถามก็คือ ทำไมแบบที่โฆษณาเอาไว้ตอนแรก กับหน้าตาตอนเสร็จมันถึงกลายเป็นคนละเรื่อง รูปแรกประชาชนส่งมาให้ ส่วนรูปที่เหลือคือความเป็นจริง
.
2) การบอกว่าท้องถิ่นของงบสนับสนุนโครงการและออกแบบร่วมกัน คำพูดภายนอกดูสวยหรูแต่หากมาดูวิธีการ ปัจจุบันรัฐบาลกลางโดยกรมโยธา มีงบ 40 ล้าน และออกแบบเอง มีงบและมีแบบในใจ จากนั้นก็ไปถามท้องถิ่นว่ามีแบบนี้จะเอาไหม ร้อยทั้งร้อยท้องถิ่นก็ต้องตอบว่า เอาสิวะ ก็ดีกว่าไม่มีงบมาลง แต่ถ้าเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่เลยเป็นว่า เอาเงิน 40 ล้านไปให้ท้องถิ่นตัดสินใจด้วยตัวเอง แล้วถามว่ามีเงินแล้วอยากทำอะไร หน้าตาของโครงการอาจจะไม่ใช่แบบนี้ เพราะท้องถิ่นใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง มันมี 108 อย่างที่เค้าคงอยากทำ และแน่นอน ถ้าท้องถิ่นตัดสินใจเอาไปทำอะไรห่วยๆ ประชาชนก็ลงโทษได้ด้วยการไม่เลือก แต่ถ้ากรมโยธาทำอะไรห่วยๆ ประชาชนทำอะไรกรมไม่ได้
.
3) ฝ่ายข้าราชการประจำอาจจะตั้งคำถามว่า อ่าว แล้วมาด่าฉันทำไม ฉันก็แค่ทำตามนโยบายของฝ่ายการเมือง ก็ต้องขอยืนยันว่า ในเรื่องเชิงนโยบายที่ฝ่ายข้าราชการประจำตัดสินใจเองไม่ได้เช่นนี้ ดิฉันไม่เคยต่อว่าข้าราชการที่ทำตามหน้าที่ทำตามนโยบายที่ถูกมอบมาจากฝ่ายการเมืองเลย โครงการจากส่วนกลางที่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่นและประชาชนจริงๆ แบบนี้แหละ คือตัวอย่างชั้นดี ที่สะท้อนว่าฝ่ายการเมืองหรือเจ้ากระทรวงนั้นไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความสามารถ ในการบริหารจัดการมากแค่ไหน
.
ส่วนเรื่องออกแบบมาอย่างนึง แต่ทำจริงออกมาอีกอย่างนึง อันนี้คนทำก็ต้องยอมรับความเป็นจริงหน่อยไหม ว่าเทสที่สร้างกับร่างที่เป็น มันทำให้เมืองตรังไม่ตรงปก
.
ไอเรามันก็เป็น ส.ส. อยู่กรุงเทพ ที่เป็นห่วงเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ไม่กล้าไปพูดแทนคนตรังเยอะ สื่อต้องลองสัมภาษเพื่อให้ สส จังหวัดตรังได้แสดงความคิดเห็นบ้างดีกว่า
.
ซึ่งก่อนหน้านี้ ไอซ์ ได้โพสต์ข้อความตั้งคำถามถึงการใช้งบระบุว่า กมธ.ติดตามงบ ติดตามอีกโครงการที่จังหวัดตรังโครงการพัฒนาเมืองจากกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 40กว่าล้านบาท ทาสีถนน + ทางม้าลายน้องพะยูน + ปรับภูมิทัศน์ทำฟุตบาทและถนนโดยรอบศาลากลาง
เป็นโครงการที่กรมโยธาบอกว่าท้องถิ่นทำเรื่องขอมา ส่วนท้องถิ่นบอกว่า คนตรังอยากได้ ส่วนอื่นๆยังไม่มีอะไรคอมเม้น แต่ในรูปที่ 3
.
จะเห็นได้ว่ามีการทาสีถนนเป็นเหมือนดอกหรือวงอะไรสักอย่าง คนก็เข้าใจผิดว่าเป็นวงเวียน ซึ่งจริงๆไม่ใช่ สัญญาณไฟจราจรก็ยังไม่เสร็จ เส้นเลนถนนก็ไม่มี ถามตำรวจจราจรที่ยืนอยู่แถวนั้นบอกว่าประชาชนบ่นกันเยอะ ว่าทาสีถนนแบบนี้ทำไม คนใช้รถใช้ถนนทั้งรถใหญ่รถเล็กงงกันหมดและ ทำให้เสี่ยงอุบัติเหตุ ยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืนและช่วงที่การจราจรพลุกพล่าน
.
ปัจจุบันแก้ปัญหาโดยเอาแบริเออมาวางให้เหมือนเป็นวงเวียน พร้อมติดป้ายบอกไปพรางเพื่อ รอไฟจราจรทำเสร็จ แต่มันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องจริงหรอ ตรงหอนาฬิกาพอเข้าใจ แต่ตรงนี้ไม่ใช่วงเวียน เอาเส้นจราจรออกเพื่ออะไร
ข้อสังเกต
.
ไปดูมาทั่วประเทศ ต้องบอกว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นกรมที่งบเยอะมาก ขึ้นชื่อเรื่องคิดแทนท้องถิ่น เวลาจะทำโครงการอะไรก็มักจะอ้างว่าคนท้องถิ่นอยากได้ ไอที่ทำซุ้มประตูเมืองทุกจังหวัดอันละ 40-100ล้าน สร้างโดยบอกว่าประชาชนอยากได้ พอไปถามประชาชน งงว่าไปอยากได้ตอนไหน
ไม่ได้ต่อว่าหรือตำหนิข้าราชการตัวเล็ก เพราะเราเข้าใจดีว่าทุกท่านตัดสินใจเองไม่ได้หรอก ต้องทำตามนายสั่ง ดังนั้นต้องอาศัยวิสัยทัศน์ของฝ่ายการเมือง ซึ่งถ้าฝ่ายการเมืองสักแต่จะเอาโครงการแบบทำอะไรก็ได้ขอให้ได้ใช้งบมันก็จะประมาณนี้ ซึ่งหากรัฐบาลมีความตั้งใจกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจริง งบประมาณของกรมโยธาธิการต้องน้อยลง แล้วตัดส่วนที่จะไปคิดแทนท้องถิ่นแล้วอ้างว่าคนท้องถิ่นอยากได้ เอาออกไปโปะให้ท้องถิ่นทั่วประเทศตัดสินใจเองเลย
.
เรื่องการกระจายอำนาจ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของรัฐบาล หากคุยกันไม่ได้ เจ้ากระทรวงอยากนอนกอดงบไปเรื่อยๆคิดแทนท้องถิ่นไปเรื่อยๆ เราก็จะได้โครงการพัฒนาเมืองหน้าตาประมาณแบบซุ้มประตูเมืองทั่วประเทศปีละหลายๆอัน งบเป็นร้อยๆพันๆล้าน หรือ ไม่ก็ได้ของแบบในรูปนี่แหละ
.
ปล.ไม่ต้องบอกว่ากระจายอำนาจ ให้งบไปแล้วท้องถิ่นจะเอาโกง ถุ้ยยย เงินที่อยู่กับรัฐบาลส่วนกลางก้อนใหญ่กว่าและโกงกันมโหฬารกว่าท้องถิ่นหลายเท่าจ้า อย่าโยนปาบ แล้วไอท้องถิ่นที่บอกว่าโกงๆ โยงไปโยงมา เอ้าาา เครือข่ายเดียวกับเจ้ากระทรวง [img]https://s.w.org/images/core/emoji/15.1.0/svg/1f62b.svg[/img] ซึ่งถ้ารัฐบาลมีเจตจำนงเอาจริงกับเรื่องคอรัปชั่น เราก็คงไม่ต้องมานั่งห่วงเรื่องทุจริตหรอก
.
.
กรมโยธาฯ ชี้แจง “จัตุรัสเมืองตรัง” เทศบาลนครตรังกำลังเร่งดำเนินการ พร้อมกลับมาใช้งานสี่แยกอย่างปลอดภัย
.
ตามที่ปรากฏข่าวสารประเด็น “‘ไอซ์ รักชนก’ ลุยตรวจสอบโครงการก่อสร้างเมืองตรัง เจอ ‘วงเวียนพิศวง’ ทำคนใช้รถมึน” โดยมีรายละเอียดว่า “โครงการพัฒนาเมืองจากกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 40 กว่าล้านบาท ทาสีถนน + ทางม้าลายน้องพะยูน + ปรับภูมิทัศน์ทำฟุตบาธและถนนโดยรอบศาลากลาง มีการทาสีถนนเป็นเหมือนดอกหรือวงอะไรสักอย่าง คนก็เข้าใจผิดว่าเป็นวงเวียน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ สัญญาณไฟจราจรก็ยังไม่เสร็จ เส้นเลนถนนก็ไม่มี ทำให้เสี่ยงอุบัติเหตุ ปัจจุบันแก้ปัญหาโดยเอาแบริเออร์มาวางให้เหมือนเป็นวงเวียน พร้อมติดป้ายบอกไปพลางเพื่อรอไฟจราจรทำเสร็จ”
.
กรมโยธาธิการและผังเมืองขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ โครงการที่ปรากฏในข่าว คือ “โครงการก่อสร้างจัตุรัสเมืองตรัง” เป็นโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาจังหวัดตรัง โดยเทศบาลนครตรังได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณมาที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินการศึกษาออกแบบร่วมกับท้องถิ่น โดยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการและจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่มาแล้ว จำนวน 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563, 24 กุมภาพันธ์ 2564 และ 10 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเริ่มต้นสัญญาวันที่ 28 ธันวาคม 2565 – 26 พฤศจิกายน 2567 และสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม สิ้นสุดสัญญาวันที่ 26 เมษายน 2568 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา โดยมีองค์ประกอบของงาน ดังนี้
.
1) ปรับปรุงและทาสีหอนาฬิกา
2) ปรับปรุงถนนวิเศษกุลและทางเท้าบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองตรังและฝั่งอาคารพาณิชย์
3) ปรับปรุงสวนตามแนวถนนวิเศษกุล
4) ปรับปรุงทางเท้าด้านถนนพระรามหก
5) ปรับปรุงระบบระบายน้ำและไฟฟ้าส่องสว่าง
.
กรณีการทาสีพื้นผิวถนนบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา และบริเวณสี่แยกวิเศษกุล เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการออกแบบลานจัตุรัสเมืองตรัง เพื่อยกระดับพื้นที่บริเวณใจกลางเมืองให้เป็นจุดแลนด์มาร์ก (Landmark) ที่มีความโดดเด่นและสวยงาม สามารถรองรับการจัดกิจกรรมทางประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนและเมืองได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย งานทาสีพื้นผิวถนน การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณทางเท้า รวมถึงพื้นที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองตรัง เพื่อเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสวยงาม และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อกิจกรรมสาธารณะต่างๆ
.
สำหรับบริเวณวงเวียนหอนาฬิกาและบริเวณสี่แยกวิเศษกุล ซึ่งเป็นจุดตัดการจราจรสำคัญของเมือง จะมีการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรใหม่ ภายใต้การดูแลและดำเนินการของเทศบาลนครตรัง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้าง รวมถึงการดำเนินมาตรการป้องกันชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง โดยการติดตั้งแบริเออร์ในลักษณะวงเวียน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประจำพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการจราจรและชะลอความเร็วของยานพาหนะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ เมื่อเทศบาลนครตรังได้ดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรแล้วเสร็จ จะมีการบริหารการจราจรผ่านระบบสัญญาณไฟจราจรอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการใช้งานและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสัญจร มีความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และส่งเสริมทัศนียภาพของเมืองให้มีความสวยงาม สะท้อนภาพลักษณ์ของเมืองตรังในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
.
ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินโครงการจัตุรัสเมืองตรังด้วยเจตนารมณ์ในการยกระดับทัศนียภาพเมืองและส่งเสริมกิจกรรมชุมชน โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและประโยชน์ของประชาชน
.
เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะประสานงานกับเทศบาลนครตรังอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
.
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/706893748539055
https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH/posts/1122496796572650
.
.
“ปริญญา” ยอมรับ ปี 68 แล้ว แต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9762966
.
“ปริญญา” ยอมรับ ถึงปี 68 แล้ว แต่ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร-นองเลือดอีก เชื่อ กองทัพไม่ออกมาง่ายๆ ดังนั้น ไม่ควรสร้างเงื่อนไข ภายใต้รัฐธรรมนูญ มอง ขัดแย้งน้ำเงิน-แดง เป็นมวยแข่งตามกติกา สุดท้ายควรจบที่เลือกตั้ง
JJNY : ไอซ์ตั้ง 3 ข้อสังเกต│ “ปริญญา”ยอมรับ ไม่มีใครกล้าพูดไม่เกิด รปห.│สาหัสกว่าช่วงโควิด│อดีตปธน.เกาหลีใต้ลาออกจากพรรค
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/706893748539055
https://www.facebook.com/DPT.PR.GO.TH/posts/1122496796572650
.
.
“ปริญญา” ยอมรับ ปี 68 แล้ว แต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9762966
.
“ปริญญา” ยอมรับ ถึงปี 68 แล้ว แต่ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร-นองเลือดอีก เชื่อ กองทัพไม่ออกมาง่ายๆ ดังนั้น ไม่ควรสร้างเงื่อนไข ภายใต้รัฐธรรมนูญ มอง ขัดแย้งน้ำเงิน-แดง เป็นมวยแข่งตามกติกา สุดท้ายควรจบที่เลือกตั้ง