เรือสำราญ Star Voyager ที่เข้ามาเทียบท่าที่แหลมฉบัง ในช่วงเดือนเม.ย. / พ.ค. 2568 ที่ไทย
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เรือสำราญลำนี้เข้ามาเทียบท่าที่ไทย คือเราก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวไทย ที่อยากจะไปลองดู โดยในรอบเดือนเม.ย. หรือต้นพ.ค.ที่ผ่านมา เรือลำนี้จะรับ-ส่งที่ท่าเรือแหลมฉบังเลย แต่เราเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งขึ้นจากแหลมฉบัง และไปลงสิงคโปร์ ซึ่งน่าจะเป็นเที่ยวสุดท้ายที่เรือลำนี้จะกลับ Base ที่สิงคโปร์
จากที่ได้พยายามหาอ่านรีวิว เพื่อจะได้เตรียมตัวว่จะต้องจองอะไรก่อนบ้าง บลา บลา บลาๆ แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่ที่เจอคือเป็นรอบที่พา Agency หรือบริษัททัวร์ไปขึ้นเรือในวันแรก ซึ่งส่วนใหญ๋จะรีวิวแบบห้องพัก, ในเรือมีอะไรบ้าง จะไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดต่างๆ หรือทริกอะไรเท่าไหร่ เราเลยคิดว่ากลับมาเราจะมารีวิวเอง จะได้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการเตรียมการของท่านอื่นๆ ด้วย อาจจะไม่ได้เล่าในส่วนที่ท่านอื่นๆ ได้รีวิวไว้แล้วนะคะ ซึ่งสามารถหาดูได้ตาม youtube ได้อยุ๋แล้ว แต่อาจจะมาเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
เวลาในเรือจะยึดเวลาตาม สิงคโปร์นะคะ ดังนั้น ต้องปรับเวลานาฬิกาด้วยค่ะ เราน่ะ ลืมปรับเวลา ปรากฏว่าไปดูโชว์ของเรือช้า เสียดายมาก
การดูกิจกรรมรายวัน และเวลาเปิดปิด ของบริการต่างๆ (Daily) ของเรือจะต้อง เชื่อมต่อ WIFI ของเรือ "StarCruises" => ต้องเชื่อมต่อและ sign-in ก่อนทุกครั้ง sign-in โดยใส่หมายเลขห้อง และ วันเดือนปีเกิด เข้าใช้งานที่ Link :
https://theconcierge.scstarvoyager.com
คลิกหัวข้อ "Daily" เพื่อเปิดตารางกิจกรรมต่างๆบนเรือ จะมี update ทุกวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดูเวลา ของกิจกรรมต่างๆ ได้ค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของห้องอาหารบนเรือที่ฟรีจะมี 3 ที่คือ Lido ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ (เปิดเช้า-กลางวัน-เย็น และมีมื้อดึก Supper ด้วย แต่ถ้าทานมื้อดึกจะต้องเสียเงินเพิ่ม 8SGD$) , North star .. - ห้องอาหารจีน ซึ่งจะมีเมนูเป็น set ไม่ต้องเลือกไปถึงเค้าจะยกมาเสริฟเลย ตามจำนวนคน (มีเฉพาะเช้า/เย็น) และ Bristro (แต่บนเรือจะใช้ชื่อว่า Sophia) - เป็นอาหารฟิวชั่นยุโรป ต้องเลือก appetizer, Main และ Dessert ส่วน starter พวกสลัด สามารถตักเองได้ (เปิดเฉพาะบ่าย/เย็น) ส่วนตัวเราเองติดใจห้องอาหาร North Star เพราะอาหารอร่อย เสริฟมา portion ค่อนข้างใหญ่ อิ่มค่ะ ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม, ส่วนอาหาร Lido คุณพ่อเราชอบเพราะท่านทานอย่างละนิด อย่างละหน่อย เน้นชิมนี่นิด โน่นหน่อย เพราะห้องอาหารอื่นๆ จะไม่หลากหลายเท่าบุฟฟเฟต์ แต่แอบบอกว่าห้อง Lido โซนอาหารอินเดีย และฮาลาลอร่อยค่ะ ส่วนขนม เราชอบวาฟเฟิล ด้านห้องอาหารยุโปร Bristro เราเองเฉยๆ แต่สามีเราชอบโดยเฉพาะเมนูเนื้อ ดังนั้นถ้าให้แนะนำว่าไปลองให้ครบค่ะ ไม่งั้นจะเสียดาย เราเองไปทาน Lido ซะหลายมื้อเลย เพราะคุณพ่อชอบ และเพิ่งมาทานอาหารจีน วันสุดท้ายมื้อเย็น ปรากฏว่าอร่อยที่สุดแล้ววว - ห้องอาหารไม่มีจองล่วงหน้านะคะ first come first serve (จะบอกว่าน้ำเปล่าทีห้องอาหาร lido กลิ่นคอลลีนแรงมากกกกมันคือ tap water ของแทร่)
ว่าด้วยเรื่องของโชว์ และการแสดงต่างๆ ซึ่งรอบที่เราไปโชคดีที่คนไม่เยอะอาจจะเพราะเป็นรอบสุดท้ายด้วย ดังนั้นที่นั่งจะไม่เต็ม โชว์ส่วนใหญ๋จะจัดที่ห้อง Zodiac Theatre ชั้น 7 ซึ่งสำหรับเรา โชว์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งเราคิดว่าเป็น ฟินาเล่เลยคือโชว์ Odyssey อันนี้คือ the best show สำหรับเรา ส่วนโชว์มายากลของ Hong สำหรับเรา ก็เฉยๆ ส่วนอีกอันที่เราไปดูแล้วประทับใจมากเช่นกันคือ Colour my World อันนี้ก็ดีควรต้องไปค่ะ และ The Accidental illusionist ซึ่งจะเป็ฯโชว์ของวันแรกที่ขึ้นเรือมา เราก็ยังงงๆ เลยเข้าไปดูช้า (อย่างที่บอกคือลืมเปลี่ยนเวลาเป็ฯของ SG time ) เลยเข้าไปดูตอนกลางๆ โชว์แล้ว แต่เราว่า ok นะคะ ดังนั้นถ้าไม่ได้มีโปรแกรมอะไร เราแนะนำให้ไปดูโชว์ค่ะไม่ผิดหวัง - โชว์ไม่มีการจองที่นังนะคะ เป็นแบบ First come first serve ไม่หมือนเรือสำราญอื่นๆ เช่น Spectrum of the sea ที่จะมี app ให้เราเข้าไปจองตารางโชว์ล่วงหน้า

ส่วนเรื่องกิจกรรมบนเรือ สำหรับเราเรือลำนี้กิจกรรมบนเรือพวกสระน้ำ เครื่องเล่น หรืออ่างจากุซซี่ สำหรับเราถือว่าน้อยมาก สระว่ายน้ำโซนหน้าเรือก็เล็กๆ กิจกรรมก็มีแค่ สไลด์เดอร์ และมีเหมือนสวนน้ำสำหรับเด็กๆ แต่น้ำไหลอ่อยมาก ส่วนอ่างจากุซซี่แม้จะอยู่ในร่ม แต่น้ำจากุซซี่แบบเบาๆ ไม่นวดตัวเท่าไหร่ ดังนั้นกิจกรรมทางน้ำ อย่าคาดหวังเยอะเพราะไม่ได้มีอะไรมาก ยิ่งถ้าใครเคยไปเรืออื่นๆ เช่นของ Royal Caribbean มาแล้ว อาจจะผิดหวังนิดหนึ่ง
การลงเรือเพื่อเที่ยวสมุย ต้องไปรอลงเรือที่ชั้น 7 ที่ห้อง Zodiac theatre ค่ะ เราว่าบริหารจัดการได้ค่อนข้างดี (หรืออาจจะเพราะรอบที่เราไปคนน้อยด้วย) ก็ตอ้งไปต่อเรือเล็กเพื่อเข้าสมุย แต่พอไปถึงแล้วจะบอกว่าที่สมุย ของทุกอย่างแพงมากกกกก ค่ารถ ค่าอาหาร ค่ากาแฟ หุยยย แพงจริงๆ แต่เข้าใจได้ว่าสมุยเป็นเมืองท่องเที่ยว และเป็นเกาะด้วย ดังนั้นค่าครองชีพจะแพงอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องยอมรับ แต่วัตถุประสงค์หลักๆ ที่เราลงสมุยเพื่อมาซื้อน้ำเปล่าไปดื่มบนเรือ เพราะบนเรือจะบอกว่าน้ำเปล่าถ้าไม่ได้ซื้อเป็นขวดๆ คือแทบจะกินไม่ได้ เราเลยลงมาเพื่อไปซื้อนำ้เปล่ามากินบนเรือ
สำหรับเรื่องคาสิโน จะบอกว่าใน คาสิโน มีไมโลให้กดได้ฟรี ซึ่งเราเองแอบเล่นตู้คาสิโน ซัก 1-2 ตา แล้วก็ไปกดไมโลมากิน จริงๆ เห็นอากง อาม่า บางคนไม่ได้เล่นอะไรเลย เข้ามากดไมโล แล้วถือไปกินเลย ซึ่งก็ไม่ได้ผิดกฏอะไร ดังนั้นใครที่อยากินไมโลฟรี ก็เข้าไปแวะกดได้ที่ชั้น Casino ค่ะ
ในห้องนอนเราจองแบบมีระเบียง ซึ่งทางเรือจะมี Credit ให้ไว้สำหรับใช้จ่ายที่ห้องอาหารต่างๆ ห้องละ 150 SGD$ ซึ่งเราก็เอาไปใช้ซื้อไวน์ และไอติมตามห้องอาหารต่างๆ ซึ่งจะต้องมี Service Charge ด้วยนะคะ แต่ Creditนี้จะใช้กับในส่วนของบาร์น้ำไม่ได้นะคะ ใช้ได้แต่กับห้องอาหารต่างๆค่ะ วันสุดท้ายเราเองใช้ไม่ได้ทันก็เลยสั่งไวน์เป็นขวด แล้วถือลงเรือไปกินต่อที่สิงคโปร์ค่ะ (จะไม่ใช้ก็เสียดาย) ยังไงเพื่อนๆ ที่มีเครดิตแบบเราต้องบริหารจัดการใช้ดีดีนะคะ ของเราวันแรกไม่ได้ใช้เลย พอมาวันหลังๆ เริ่มเห็นว่าใช้ไม่ทันเลยต้องซ์้อไวน์แทน และต้องหิ้วลงเรือมาด้วย ตอนผ่าน Customs ก็มีถูกถามพอสมควรเพราะซ์้อไว้ 2 ขวดเลย
เวลาเราสั่งอาหาร หรือสั่งอะไรเพิ่มเติมบนเรือ แนะนำให้เก็บสลิปไว้ด้วยนะคะ เพราะวันสุดท้ายที่จะมีการเคลียร์ค่าใช้จ่าย จะได้เอาไว้ใช้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เพราะเห็นมีเคสของคนอืนเดียที่มายืนก่อนหน้าเรา เค้าบอกว่ามีการคิดเงิน Double แล้วเค้ามีเอกสารสลิปมายืนยันดัวย เราก็คิดในใจว่าเอ่อ ทำไมเราไม่ได้เก็บสลิปไว้บ้าง แล้วสุดท้ายของเราก็มีค่าใข้จา่ยที่เกินมา 3.35$ เราพยายามสอบถามกับจนท. แต่เค้าก็บอกแค่ว่าเป็นค่าเครื่องดื่ม ซึ่งเราเองไม่แน่ใจ แต่สุดท้ายก็ยอมจ่ายไปเพราะมันแค่ 3.35$ เอง ไม่อยากเสียเวลา
(ตัวอย่างอาหารห้อง lido)
[CR] รีวิว เรือสำราญ Star Voyager
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เรือสำราญลำนี้เข้ามาเทียบท่าที่ไทย คือเราก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวไทย ที่อยากจะไปลองดู โดยในรอบเดือนเม.ย. หรือต้นพ.ค.ที่ผ่านมา เรือลำนี้จะรับ-ส่งที่ท่าเรือแหลมฉบังเลย แต่เราเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งขึ้นจากแหลมฉบัง และไปลงสิงคโปร์ ซึ่งน่าจะเป็นเที่ยวสุดท้ายที่เรือลำนี้จะกลับ Base ที่สิงคโปร์
จากที่ได้พยายามหาอ่านรีวิว เพื่อจะได้เตรียมตัวว่จะต้องจองอะไรก่อนบ้าง บลา บลา บลาๆ แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่ที่เจอคือเป็นรอบที่พา Agency หรือบริษัททัวร์ไปขึ้นเรือในวันแรก ซึ่งส่วนใหญ๋จะรีวิวแบบห้องพัก, ในเรือมีอะไรบ้าง จะไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดต่างๆ หรือทริกอะไรเท่าไหร่ เราเลยคิดว่ากลับมาเราจะมารีวิวเอง จะได้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการเตรียมการของท่านอื่นๆ ด้วย อาจจะไม่ได้เล่าในส่วนที่ท่านอื่นๆ ได้รีวิวไว้แล้วนะคะ ซึ่งสามารถหาดูได้ตาม youtube ได้อยุ๋แล้ว แต่อาจจะมาเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
เวลาในเรือจะยึดเวลาตาม สิงคโปร์นะคะ ดังนั้น ต้องปรับเวลานาฬิกาด้วยค่ะ เราน่ะ ลืมปรับเวลา ปรากฏว่าไปดูโชว์ของเรือช้า เสียดายมาก
การดูกิจกรรมรายวัน และเวลาเปิดปิด ของบริการต่างๆ (Daily) ของเรือจะต้อง เชื่อมต่อ WIFI ของเรือ "StarCruises" => ต้องเชื่อมต่อและ sign-in ก่อนทุกครั้ง sign-in โดยใส่หมายเลขห้อง และ วันเดือนปีเกิด เข้าใช้งานที่ Link : https://theconcierge.scstarvoyager.com
คลิกหัวข้อ "Daily" เพื่อเปิดตารางกิจกรรมต่างๆบนเรือ จะมี update ทุกวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดูเวลา ของกิจกรรมต่างๆ ได้ค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของห้องอาหารบนเรือที่ฟรีจะมี 3 ที่คือ Lido ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ (เปิดเช้า-กลางวัน-เย็น และมีมื้อดึก Supper ด้วย แต่ถ้าทานมื้อดึกจะต้องเสียเงินเพิ่ม 8SGD$) , North star .. - ห้องอาหารจีน ซึ่งจะมีเมนูเป็น set ไม่ต้องเลือกไปถึงเค้าจะยกมาเสริฟเลย ตามจำนวนคน (มีเฉพาะเช้า/เย็น) และ Bristro (แต่บนเรือจะใช้ชื่อว่า Sophia) - เป็นอาหารฟิวชั่นยุโรป ต้องเลือก appetizer, Main และ Dessert ส่วน starter พวกสลัด สามารถตักเองได้ (เปิดเฉพาะบ่าย/เย็น) ส่วนตัวเราเองติดใจห้องอาหาร North Star เพราะอาหารอร่อย เสริฟมา portion ค่อนข้างใหญ่ อิ่มค่ะ ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม, ส่วนอาหาร Lido คุณพ่อเราชอบเพราะท่านทานอย่างละนิด อย่างละหน่อย เน้นชิมนี่นิด โน่นหน่อย เพราะห้องอาหารอื่นๆ จะไม่หลากหลายเท่าบุฟฟเฟต์ แต่แอบบอกว่าห้อง Lido โซนอาหารอินเดีย และฮาลาลอร่อยค่ะ ส่วนขนม เราชอบวาฟเฟิล ด้านห้องอาหารยุโปร Bristro เราเองเฉยๆ แต่สามีเราชอบโดยเฉพาะเมนูเนื้อ ดังนั้นถ้าให้แนะนำว่าไปลองให้ครบค่ะ ไม่งั้นจะเสียดาย เราเองไปทาน Lido ซะหลายมื้อเลย เพราะคุณพ่อชอบ และเพิ่งมาทานอาหารจีน วันสุดท้ายมื้อเย็น ปรากฏว่าอร่อยที่สุดแล้ววว - ห้องอาหารไม่มีจองล่วงหน้านะคะ first come first serve (จะบอกว่าน้ำเปล่าทีห้องอาหาร lido กลิ่นคอลลีนแรงมากกกกมันคือ tap water ของแทร่)
ว่าด้วยเรื่องของโชว์ และการแสดงต่างๆ ซึ่งรอบที่เราไปโชคดีที่คนไม่เยอะอาจจะเพราะเป็นรอบสุดท้ายด้วย ดังนั้นที่นั่งจะไม่เต็ม โชว์ส่วนใหญ๋จะจัดที่ห้อง Zodiac Theatre ชั้น 7 ซึ่งสำหรับเรา โชว์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งเราคิดว่าเป็น ฟินาเล่เลยคือโชว์ Odyssey อันนี้คือ the best show สำหรับเรา ส่วนโชว์มายากลของ Hong สำหรับเรา ก็เฉยๆ ส่วนอีกอันที่เราไปดูแล้วประทับใจมากเช่นกันคือ Colour my World อันนี้ก็ดีควรต้องไปค่ะ และ The Accidental illusionist ซึ่งจะเป็ฯโชว์ของวันแรกที่ขึ้นเรือมา เราก็ยังงงๆ เลยเข้าไปดูช้า (อย่างที่บอกคือลืมเปลี่ยนเวลาเป็ฯของ SG time ) เลยเข้าไปดูตอนกลางๆ โชว์แล้ว แต่เราว่า ok นะคะ ดังนั้นถ้าไม่ได้มีโปรแกรมอะไร เราแนะนำให้ไปดูโชว์ค่ะไม่ผิดหวัง - โชว์ไม่มีการจองที่นังนะคะ เป็นแบบ First come first serve ไม่หมือนเรือสำราญอื่นๆ เช่น Spectrum of the sea ที่จะมี app ให้เราเข้าไปจองตารางโชว์ล่วงหน้า
ส่วนเรื่องกิจกรรมบนเรือ สำหรับเราเรือลำนี้กิจกรรมบนเรือพวกสระน้ำ เครื่องเล่น หรืออ่างจากุซซี่ สำหรับเราถือว่าน้อยมาก สระว่ายน้ำโซนหน้าเรือก็เล็กๆ กิจกรรมก็มีแค่ สไลด์เดอร์ และมีเหมือนสวนน้ำสำหรับเด็กๆ แต่น้ำไหลอ่อยมาก ส่วนอ่างจากุซซี่แม้จะอยู่ในร่ม แต่น้ำจากุซซี่แบบเบาๆ ไม่นวดตัวเท่าไหร่ ดังนั้นกิจกรรมทางน้ำ อย่าคาดหวังเยอะเพราะไม่ได้มีอะไรมาก ยิ่งถ้าใครเคยไปเรืออื่นๆ เช่นของ Royal Caribbean มาแล้ว อาจจะผิดหวังนิดหนึ่ง
การลงเรือเพื่อเที่ยวสมุย ต้องไปรอลงเรือที่ชั้น 7 ที่ห้อง Zodiac theatre ค่ะ เราว่าบริหารจัดการได้ค่อนข้างดี (หรืออาจจะเพราะรอบที่เราไปคนน้อยด้วย) ก็ตอ้งไปต่อเรือเล็กเพื่อเข้าสมุย แต่พอไปถึงแล้วจะบอกว่าที่สมุย ของทุกอย่างแพงมากกกกก ค่ารถ ค่าอาหาร ค่ากาแฟ หุยยย แพงจริงๆ แต่เข้าใจได้ว่าสมุยเป็นเมืองท่องเที่ยว และเป็นเกาะด้วย ดังนั้นค่าครองชีพจะแพงอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องยอมรับ แต่วัตถุประสงค์หลักๆ ที่เราลงสมุยเพื่อมาซื้อน้ำเปล่าไปดื่มบนเรือ เพราะบนเรือจะบอกว่าน้ำเปล่าถ้าไม่ได้ซื้อเป็นขวดๆ คือแทบจะกินไม่ได้ เราเลยลงมาเพื่อไปซื้อนำ้เปล่ามากินบนเรือ
สำหรับเรื่องคาสิโน จะบอกว่าใน คาสิโน มีไมโลให้กดได้ฟรี ซึ่งเราเองแอบเล่นตู้คาสิโน ซัก 1-2 ตา แล้วก็ไปกดไมโลมากิน จริงๆ เห็นอากง อาม่า บางคนไม่ได้เล่นอะไรเลย เข้ามากดไมโล แล้วถือไปกินเลย ซึ่งก็ไม่ได้ผิดกฏอะไร ดังนั้นใครที่อยากินไมโลฟรี ก็เข้าไปแวะกดได้ที่ชั้น Casino ค่ะ
ในห้องนอนเราจองแบบมีระเบียง ซึ่งทางเรือจะมี Credit ให้ไว้สำหรับใช้จ่ายที่ห้องอาหารต่างๆ ห้องละ 150 SGD$ ซึ่งเราก็เอาไปใช้ซื้อไวน์ และไอติมตามห้องอาหารต่างๆ ซึ่งจะต้องมี Service Charge ด้วยนะคะ แต่ Creditนี้จะใช้กับในส่วนของบาร์น้ำไม่ได้นะคะ ใช้ได้แต่กับห้องอาหารต่างๆค่ะ วันสุดท้ายเราเองใช้ไม่ได้ทันก็เลยสั่งไวน์เป็นขวด แล้วถือลงเรือไปกินต่อที่สิงคโปร์ค่ะ (จะไม่ใช้ก็เสียดาย) ยังไงเพื่อนๆ ที่มีเครดิตแบบเราต้องบริหารจัดการใช้ดีดีนะคะ ของเราวันแรกไม่ได้ใช้เลย พอมาวันหลังๆ เริ่มเห็นว่าใช้ไม่ทันเลยต้องซ์้อไวน์แทน และต้องหิ้วลงเรือมาด้วย ตอนผ่าน Customs ก็มีถูกถามพอสมควรเพราะซ์้อไว้ 2 ขวดเลย
เวลาเราสั่งอาหาร หรือสั่งอะไรเพิ่มเติมบนเรือ แนะนำให้เก็บสลิปไว้ด้วยนะคะ เพราะวันสุดท้ายที่จะมีการเคลียร์ค่าใช้จ่าย จะได้เอาไว้ใช้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เพราะเห็นมีเคสของคนอืนเดียที่มายืนก่อนหน้าเรา เค้าบอกว่ามีการคิดเงิน Double แล้วเค้ามีเอกสารสลิปมายืนยันดัวย เราก็คิดในใจว่าเอ่อ ทำไมเราไม่ได้เก็บสลิปไว้บ้าง แล้วสุดท้ายของเราก็มีค่าใข้จา่ยที่เกินมา 3.35$ เราพยายามสอบถามกับจนท. แต่เค้าก็บอกแค่ว่าเป็นค่าเครื่องดื่ม ซึ่งเราเองไม่แน่ใจ แต่สุดท้ายก็ยอมจ่ายไปเพราะมันแค่ 3.35$ เอง ไม่อยากเสียเวลา
(ตัวอย่างอาหารห้อง lido)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้