ซื้อของช้อปปี้แต่มีปัญหาใช้งานไม่ได้ต้องส่งคืน
เลือกวิธีคืนคือเอาสินค้าไปส่งเคอร์รี่ใกล้บ้าน(มีในตัวเลือกแรก)เพราะไม่รู้ว่าถ้าให้พนักงานขนส่งเอกชนมารับที่บ้านจะมาช้าไหม
เตรียมของเรียบร้อยไปถึงสาขา_พนักงานKEXบอกว่าไม่ได้ให้บริการคืนสินค้าจากช้อปปี้แล้ว
นึกไม่ออกว่าบริษัทนี้จะไปต่อยังไง
สมัยนั้นที่เติบโตมากและเข้า ipo ตลาดหุ้นได้ก็น่าจะเพราะ e commerce กำลังโต
วันนี้ e commerce อาจจะไม่ growth แต่ก็มูลค่าตลาดสูงมาก
KEX แค่ประครองออกบากยังลำบาก
ช่วงหนึ่งมีข่าวจะมาเน้นธุรกิจพิเศษ
เราเห็นส่งคืนทีไรก็มี KEX
และเห็นนักการตลาดท่านหนึ่งบอกว่าการคืนสินค้าในe commerce มีการเติบโตมาก_ก็คิดในใจว่าKEXอาจจะรอดก็เป็นได้
แต่พอเจออย่างนี้ก็คิดหนัก
วันก่อนส่งสินค้าที่มีปัญหาไม่ใช่จากการซื้อออนไลน์แต่แจ้งกับบริษัทที่ผลิตสินค้าว่าสินค้ามีปัญหา
บริษัทก็แจ้งว่าจะเปลี่ยนคืนสินค้าให้แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นขนส่งเจ้าไหน สุดท้าที่มารับเป็น DHL
เลยไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกค้าธุรกิจพิเศษคืออะไรแล้วจำนวน event rate มันจะเพียงพอหล่อเลี้ยงธุรกิจไหม/จะแก้ขาดทุนได้จริงหรือ
อย่างไรตาม_เราว่าเรื่องราวของKerryที่กลายเป็นKex_รวมถึงขนส่งเอกชนที่เข้ามาร่วมแจมในสินค้าออนไลน์
ก็มีสิ่งให้เราเรียนรู้_โดยเฉพาะ_เรื่องราวกับช้อปปี้
ช้อปปี้ช่วงแรก_ต้องใช้ความช่วยเหลือจากขนส่ง_ให้ธุรกิจตนเองได้ส่วนในการเปิดตัว
Kerryตอนนั้นถึงขั้นได้รับรีเควส_อยากให้เป็นตัวเลือกแรกๆจากลูกค้า(สมัยลูกค้าเลือกขนส่งได้)
เมื่อมี transaction มากขึ้น_ขนส่งหลายเจ้าอยากขอแบ่งชิ้นเค้กด้วย_แต่Kerryตอนนั้นก็ยังโดดเด่น
ก่อนช้อปปี้ใช้ความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มและจากข้อมูลในมือ_เข้าคุมการแจกงานให้แต่ละเจ้า( ซึ่งภายหลังวิวัฒนาการส่งตนเองเข้าด้วยและปัจจุบันชิงส่วนแบ่งไปเกือบจะทั้งหมด)
ช่วงรอยต่อของก่อนจะเกิดขาลงของKerry/KEX_เราเห็นพนักงานKerry(ก่อนจะลามไปFlash)เห็นงานตนเองลดเลยย้ายไปสมัครงานเจ้าใหม่เกิดการไหลของคนจนคนให้บริการไม่เพียงพอและลุกลามไปที่การบริการที่แย่ลง
เรามาคิดๆว่าเราได้อะไรบ้างจากเรื่องราวเหล่านี้
1.ธุรกิจที่ใช้การDump ราคา_ถ้าเขามีทุนหนา+รู้จักใช้ข้อมูล สุดท้ายจะกลับมาคุมเกมส์ได้
2.ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาธุรกิจอื่น_ต้องพิจารณาด้วยว่าการพึ่งพานั้น_เราเท่าอีกฝ่ายไหม
3.ธุรกิจขนส่งที่ใช้คนในการขับเคลื่อน_มีความเปราะบาง_ต้องคิดกลยุทธ์รองรับป้องกันการย้ายของคน(ค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อเป็นอะไรที่ลำบากใมน่าดูสำหรับธุรกิจขนส่ง)สำคัญพอๆกับแนวคิดการหาวิธีทำรายได้จากการให้บริการกับลูกค้า
4.ของที่ถูก ขนส่งไม่ได้ดีนัก คนก็ยังซื้อเพราะถูก(เลือกไม่ได้แบบสมัยก่อนก็ยังยอม_แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ซื้อเยอะเหมือนสมัยก่อนนะ_เหมือนราคาจะดีดตัวพอควรเพราะแอพขึ้นค่าธรรมเนียมร้านค้า)
นึกคิด…เมื่อ KEX หรือเคอร์รี่แถวบ้านไม่ได้ให้บริการรับสินค้าคืนจากช้อปปี้แล้ว
เลือกวิธีคืนคือเอาสินค้าไปส่งเคอร์รี่ใกล้บ้าน(มีในตัวเลือกแรก)เพราะไม่รู้ว่าถ้าให้พนักงานขนส่งเอกชนมารับที่บ้านจะมาช้าไหม
เตรียมของเรียบร้อยไปถึงสาขา_พนักงานKEXบอกว่าไม่ได้ให้บริการคืนสินค้าจากช้อปปี้แล้ว
นึกไม่ออกว่าบริษัทนี้จะไปต่อยังไง
สมัยนั้นที่เติบโตมากและเข้า ipo ตลาดหุ้นได้ก็น่าจะเพราะ e commerce กำลังโต
วันนี้ e commerce อาจจะไม่ growth แต่ก็มูลค่าตลาดสูงมาก
KEX แค่ประครองออกบากยังลำบาก
ช่วงหนึ่งมีข่าวจะมาเน้นธุรกิจพิเศษ
เราเห็นส่งคืนทีไรก็มี KEX
และเห็นนักการตลาดท่านหนึ่งบอกว่าการคืนสินค้าในe commerce มีการเติบโตมาก_ก็คิดในใจว่าKEXอาจจะรอดก็เป็นได้
แต่พอเจออย่างนี้ก็คิดหนัก
วันก่อนส่งสินค้าที่มีปัญหาไม่ใช่จากการซื้อออนไลน์แต่แจ้งกับบริษัทที่ผลิตสินค้าว่าสินค้ามีปัญหา
บริษัทก็แจ้งว่าจะเปลี่ยนคืนสินค้าให้แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นขนส่งเจ้าไหน สุดท้าที่มารับเป็น DHL
เลยไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกค้าธุรกิจพิเศษคืออะไรแล้วจำนวน event rate มันจะเพียงพอหล่อเลี้ยงธุรกิจไหม/จะแก้ขาดทุนได้จริงหรือ
อย่างไรตาม_เราว่าเรื่องราวของKerryที่กลายเป็นKex_รวมถึงขนส่งเอกชนที่เข้ามาร่วมแจมในสินค้าออนไลน์
ก็มีสิ่งให้เราเรียนรู้_โดยเฉพาะ_เรื่องราวกับช้อปปี้
ช้อปปี้ช่วงแรก_ต้องใช้ความช่วยเหลือจากขนส่ง_ให้ธุรกิจตนเองได้ส่วนในการเปิดตัว
Kerryตอนนั้นถึงขั้นได้รับรีเควส_อยากให้เป็นตัวเลือกแรกๆจากลูกค้า(สมัยลูกค้าเลือกขนส่งได้)
เมื่อมี transaction มากขึ้น_ขนส่งหลายเจ้าอยากขอแบ่งชิ้นเค้กด้วย_แต่Kerryตอนนั้นก็ยังโดดเด่น
ก่อนช้อปปี้ใช้ความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มและจากข้อมูลในมือ_เข้าคุมการแจกงานให้แต่ละเจ้า( ซึ่งภายหลังวิวัฒนาการส่งตนเองเข้าด้วยและปัจจุบันชิงส่วนแบ่งไปเกือบจะทั้งหมด)
ช่วงรอยต่อของก่อนจะเกิดขาลงของKerry/KEX_เราเห็นพนักงานKerry(ก่อนจะลามไปFlash)เห็นงานตนเองลดเลยย้ายไปสมัครงานเจ้าใหม่เกิดการไหลของคนจนคนให้บริการไม่เพียงพอและลุกลามไปที่การบริการที่แย่ลง
เรามาคิดๆว่าเราได้อะไรบ้างจากเรื่องราวเหล่านี้
1.ธุรกิจที่ใช้การDump ราคา_ถ้าเขามีทุนหนา+รู้จักใช้ข้อมูล สุดท้ายจะกลับมาคุมเกมส์ได้
2.ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาธุรกิจอื่น_ต้องพิจารณาด้วยว่าการพึ่งพานั้น_เราเท่าอีกฝ่ายไหม
3.ธุรกิจขนส่งที่ใช้คนในการขับเคลื่อน_มีความเปราะบาง_ต้องคิดกลยุทธ์รองรับป้องกันการย้ายของคน(ค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อเป็นอะไรที่ลำบากใมน่าดูสำหรับธุรกิจขนส่ง)สำคัญพอๆกับแนวคิดการหาวิธีทำรายได้จากการให้บริการกับลูกค้า
4.ของที่ถูก ขนส่งไม่ได้ดีนัก คนก็ยังซื้อเพราะถูก(เลือกไม่ได้แบบสมัยก่อนก็ยังยอม_แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ซื้อเยอะเหมือนสมัยก่อนนะ_เหมือนราคาจะดีดตัวพอควรเพราะแอพขึ้นค่าธรรมเนียมร้านค้า)