ฉันผู้ซึ่งมีดาวความรัก เป็นกาลกิณี...แต่ฉันมีความรักที่ดีได้....
เรื่องราวของเราเริ่มต้นมานาน 36 ปีแล้วค้าทุกคน ชีวิตที่ผ่านมามีทั้งทุกข์และสุข ส่วนใหญ่จะทุกข์ซะมากกว่า เพราะชีวิตยึดติดกับการเป็นคนคิดมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกครั้งที่ทุกข์ก็จะมีที่พึ่งทางใจ คือ หมอดู ค่ะ ก็จะขยันดูดวงมาก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพราะไม่อยากเล่าเรื่องของเราให้ใครใกล้ตัวฟังมั้งคะ และก็ไม่อยากให้คนที่เรารู้จักรู้เรื่องของเรามากเกินไป ละแน่นอนค่ะทุกคนมันก็ต้องจบที่แม่หมอ หมอดู โหราศาสตร์ทั้งหลายต้องเข้าตลอดเวลา (เท่าที่ดูหมอมา โดนป้ายยาให้แก้กรรมบ้าง นุ่นนี่นั่นบ้าง ก็หลายครั้งรวมกันเนาะ จะเป็นเงินครึ่งแสนได้แล้วมั้งคะ) จนในที่สุดชีวิตเราก็ได้ศึกษาเรื่องดวงอย่างจริง ๆจัง ดูโหราศาสตร์ให้ตัวเองเป็นด้วยนะคะ (แต่ก็ไม่เป็นไปดั่งคำทำนายที่เขาเขียนไว้สักตำรา เช่น ดาวโน้นย้ายจะเป็นแบบนั้น จะเป็นแบบนี้ ดวงดวงนี้ย้ายจะมีเรื่องดี ๆ จะได้เจอคู่ เจอแฟน อะไร บลาๆอีกมากมาย แต่...สุดท้ายไม่เกิดขึ้นสักอย่างค่ะ หมอดูที่ว่าเด็ดที่ว่าดัง...แพงขนาดไหนเราก็ดู..พอเราดูด้วย...ทักประโยคแรก..นี่คือ..ต้องถอนหายใจ เพราะ ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงเลย) เพราะไอ้ที่เกิดก็จะขยันเกิดแต่เรื่องไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร เราก็เลยเกิดความสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำไมมันเป็นแบบนั้น และใช่ค่ะทุกคน เรามาเฉลยว่าทำไมมันเป็นแบบนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เราไปดูดวง..หมอดูก็จะทักเราอยู่ 2 ทาง หรือบางหมอ ก็จะขยันทักแต่ไอ้เรื่องที่มันแย่ ๆ อย่างเดียว และ 2 เรื่องที่หมอดูทัก คือ 1) เรื่องที่ดี ดีมากกกกกก ดีที่อยากให้มันเกิดขึ้นกับเราไวไวสักที รอมานานแล้วนะ กับ 2) เรื่องที่มันไม่ดี และนั่นแหละค่ะ เวลาที่เราดูดวงมา จิตของเราก็จะเฝ้าพะวงคิดถึงแต่ไอ้สิ่งที่เขาทักไม่ดี ว่ามันจะเป็นแบบนั้น มันจะเป็นแบบนี้ จิตเราก็จะกลัวว่ามันจะเป็นไปตามคำทำนาย สุดท้ายสิ่งที่ไม่ดีที่เขาทักมันจึงเกิดขึ้นตามมาอยู่ตลอด เอ้า...แล้วไอ้สิ่งที่ดี ๆล่ะ ทำไมไม่เกิดขึ้น ก็เพราะว่า จิตของเรามันหมกมุ่นคิดกลัวแต่สิ่งที่ไม่ดีอยู่ จิตเราเลยไม่มีพื้นที่ว่างพอที่จะคิดถึงสิ่งดีดีที่มันจะเกิดขึ้น นั่นเอง และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่า แรงดึงดวง ค่ะ เพราะเรานี่แหละดึงดูดมันเอง เดี๋ยวไว้มาต่อใน ครั้งต่อไปนะค้าทุกคน เราจะมาเล่าชีวิตจริงของเราให้ฟังว่าชีวิตช่วง 35 ปี ที่ผ่านมา กับตั้งแต่ 36 ปี เป็นต้นมามันต่างกันอย่างไร(ปีที่เราอายุ 36 ปี เราไม่คิดที่ดูดวงอีกเลยตลอดชีวิตนี้) ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดี เราเลือกให้เป็นไปตามนั้นได้ค่ะทุกคน รับรองได้ว่ามัน ดี กับทุกคนแน่นอนค่ะ เราไม่ได้บอกน้าว่าการดูดวงเป็นสิ่งไม่ดี...แต่ดูเอาไว้แค่เพียงเตือนสติตัวเองก็พอค่ะ...อย่าเอามากำหนดชะตาชีวิตเราทั้งหมด...
#ให้เรื่องราวของฉันเป็นกำลังใจ ให้ใคร ๆอีกหลายคน ผ่านบทเรียนชีวิตจริง
แรงดึงดวง....เริ่มมาจากกฎแห่งแรงดึงดูด จริงไหม ?
เรื่องราวของเราเริ่มต้นมานาน 36 ปีแล้วค้าทุกคน ชีวิตที่ผ่านมามีทั้งทุกข์และสุข ส่วนใหญ่จะทุกข์ซะมากกว่า เพราะชีวิตยึดติดกับการเป็นคนคิดมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกครั้งที่ทุกข์ก็จะมีที่พึ่งทางใจ คือ หมอดู ค่ะ ก็จะขยันดูดวงมาก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพราะไม่อยากเล่าเรื่องของเราให้ใครใกล้ตัวฟังมั้งคะ และก็ไม่อยากให้คนที่เรารู้จักรู้เรื่องของเรามากเกินไป ละแน่นอนค่ะทุกคนมันก็ต้องจบที่แม่หมอ หมอดู โหราศาสตร์ทั้งหลายต้องเข้าตลอดเวลา (เท่าที่ดูหมอมา โดนป้ายยาให้แก้กรรมบ้าง นุ่นนี่นั่นบ้าง ก็หลายครั้งรวมกันเนาะ จะเป็นเงินครึ่งแสนได้แล้วมั้งคะ) จนในที่สุดชีวิตเราก็ได้ศึกษาเรื่องดวงอย่างจริง ๆจัง ดูโหราศาสตร์ให้ตัวเองเป็นด้วยนะคะ (แต่ก็ไม่เป็นไปดั่งคำทำนายที่เขาเขียนไว้สักตำรา เช่น ดาวโน้นย้ายจะเป็นแบบนั้น จะเป็นแบบนี้ ดวงดวงนี้ย้ายจะมีเรื่องดี ๆ จะได้เจอคู่ เจอแฟน อะไร บลาๆอีกมากมาย แต่...สุดท้ายไม่เกิดขึ้นสักอย่างค่ะ หมอดูที่ว่าเด็ดที่ว่าดัง...แพงขนาดไหนเราก็ดู..พอเราดูด้วย...ทักประโยคแรก..นี่คือ..ต้องถอนหายใจ เพราะ ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงเลย) เพราะไอ้ที่เกิดก็จะขยันเกิดแต่เรื่องไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร เราก็เลยเกิดความสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำไมมันเป็นแบบนั้น และใช่ค่ะทุกคน เรามาเฉลยว่าทำไมมันเป็นแบบนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เราไปดูดวง..หมอดูก็จะทักเราอยู่ 2 ทาง หรือบางหมอ ก็จะขยันทักแต่ไอ้เรื่องที่มันแย่ ๆ อย่างเดียว และ 2 เรื่องที่หมอดูทัก คือ 1) เรื่องที่ดี ดีมากกกกกก ดีที่อยากให้มันเกิดขึ้นกับเราไวไวสักที รอมานานแล้วนะ กับ 2) เรื่องที่มันไม่ดี และนั่นแหละค่ะ เวลาที่เราดูดวงมา จิตของเราก็จะเฝ้าพะวงคิดถึงแต่ไอ้สิ่งที่เขาทักไม่ดี ว่ามันจะเป็นแบบนั้น มันจะเป็นแบบนี้ จิตเราก็จะกลัวว่ามันจะเป็นไปตามคำทำนาย สุดท้ายสิ่งที่ไม่ดีที่เขาทักมันจึงเกิดขึ้นตามมาอยู่ตลอด เอ้า...แล้วไอ้สิ่งที่ดี ๆล่ะ ทำไมไม่เกิดขึ้น ก็เพราะว่า จิตของเรามันหมกมุ่นคิดกลัวแต่สิ่งที่ไม่ดีอยู่ จิตเราเลยไม่มีพื้นที่ว่างพอที่จะคิดถึงสิ่งดีดีที่มันจะเกิดขึ้น นั่นเอง และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่า แรงดึงดวง ค่ะ เพราะเรานี่แหละดึงดูดมันเอง เดี๋ยวไว้มาต่อใน ครั้งต่อไปนะค้าทุกคน เราจะมาเล่าชีวิตจริงของเราให้ฟังว่าชีวิตช่วง 35 ปี ที่ผ่านมา กับตั้งแต่ 36 ปี เป็นต้นมามันต่างกันอย่างไร(ปีที่เราอายุ 36 ปี เราไม่คิดที่ดูดวงอีกเลยตลอดชีวิตนี้) ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดี เราเลือกให้เป็นไปตามนั้นได้ค่ะทุกคน รับรองได้ว่ามัน ดี กับทุกคนแน่นอนค่ะ เราไม่ได้บอกน้าว่าการดูดวงเป็นสิ่งไม่ดี...แต่ดูเอาไว้แค่เพียงเตือนสติตัวเองก็พอค่ะ...อย่าเอามากำหนดชะตาชีวิตเราทั้งหมด...
#ให้เรื่องราวของฉันเป็นกำลังใจ ให้ใคร ๆอีกหลายคน ผ่านบทเรียนชีวิตจริง