ครอบครัวห้ามตั้งแต่เล็กจนโต

สวัสดีค่ะเราอายุ 20 ปีแล้ว ตอนเด็กๆไม่เคยได้ไปไหนอย่างเช่นโรงเรียนประถมมีจัดทัศนศึกษาไปรถตู้โรงเรียนรถบัสอะไรแบบนี้มีใบอนุญาตมาให้พ่อแม่เซ็นที่บ้านก็ไม่เคยให้ไปค่ะเลยต้องนั่งเหงาๆกับเพื่อน 2-3 คนที่พ่อแม่เขาก็ไม่ให้ไปเหมือนกัน

  นั่งเหงาในห้องเรียนตอนนั้น ป.2 ค่ะจำได้เลยทัศนศึกษาคือไปฟาร์มจระเข้ มาช่วงป.4 ก็ขอไปเล่นบ้านเพื่อนที่ใกล้ๆบ้าน มีพ่อแม่เพื่อนไปกันทุกคนฟิลเหมือนพาลูกไปเจอกันอะไรประมาณนี้ค่ะมีประมาณ 5-6 คนอันนี้เด็กๆนะคะ เช่นเคยค่ะเราไม่ได้ไป มาป.6 กินหมูกะทะฉลองจบ ป.6 ไปกันทั้งห้องนะคะประมาณ 30 กว่าคนได้บางคนมีผู้ปกครองไปด้วยเป็นร้านหมูกะทะใกล้ๆที่ทำงานแม่เราด้วยค่ะ

  ทุกๆอย่างจำได้หมดเพราะว่าโดนห้ามมาทั้งชีวิต ช่วงประถมพอเข้าใจค่ะว่าโดนห้ามเพราะยังเด็กมากๆ พอมาช่วงมัธยมเห็นเพื่อนๆเริ่มโต เราเรียนหญิงล้วนเลิกเรียนต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็นไม่งั้นโดนด่าค่ะ ห้ามนอนที่ไหนต้องกลับบ้าน ซึ่งบางทีก็เห็นเพื่อนๆไปฉลองกินเลี้ยงหมูกะทะสนุกกันบ่อยๆน้อยใจมากๆเลยค่ะ มีแฟนแฟนก็มาหาฝ่ายเดียวค่ะ แต่พ่อแม่ไม่ได้ห้ามเรื่องคบเพศเดียวกันนะคะ นอนที่อื่นได้คือเข้าค่ายลูกเสือค่ะ 5555 นอกนั้นเราไม่เคยได้ไปไหนแถมต้องกลับบ้านไวอีกต่างหาก (เกริ่นก่อนนะคะเราคบทอมค่ะคบผู้หญิงมาตลอด)

  มาช่วงขึ้นม.4 ต้องเลือกสายที่เรียน เราติดสายภาษาที่โรงเรียนหญิงล้วน เรามีพี่สาวค่ะเรียนเก่งกว่าเอาตัวรอดเก่งกว่าใช่ค่ะ แม่เราบอกให้เรียนสายอาชีพ เพราะเราโง่เรียนไม่ไหวหรอก ก็เชื่อแม่ค่ะ แม่ใช้คำรุนแรงกับเราตลอด มาช่วงนี้ก็โตขึ้นมาหน่อยก็เรียน ปวช ตามที่แม่บอกค่ะ ก็อยากไปเที่ยวบ้างไรบ้างก็เช่นเคยค่ะไม่เคยได้ไป บางทีก็หนีออกจากบ้านช่วงตี 2-3 เคยโดนจับได้ก็โดนตีค่ะโดนด่า โตมาจำไม่ได้แล้วค่ะว่าโดนตีไปกี่ทีจนอายุ 20 ก็ยังโดนอยู่นะคะ อันนี้ยอมรับผิดค่ะ แต่ถ้าขอก็ไม่ให้ แต่เราก็อยากไป

  จนมาช่วงปวช 2 ต้องฝึกงาน 1 ปี 6 เดือนพ่อแม่ทำงานเช้า ตื่นมารับส่งไม่ไหวเขาเลยยอมให้เรา ออกมาอยู่หอกับแฟนค่ะแฟนเป็นทอมนะคะปีช่วง
6 เดือนแรกอยู่กับแฟนค่ะ มา 1 ปี หลังเลิกกันค่ะ เราเลยย้ายหอออกมาอยู่คนเดียว ซึ่งหอก็ไม่ไกลจากบ้านมากค่ะ พ่อแม่สามารถมาหาเราได้ทุกวันช่วงนั้นเราอิสระมากๆชอบมากๆ และคงคิดว่าหลังฝึกงานจบที่บ้านคงไม่ห้ามอะไรเราอีกแล้ว แต่ไม่ค่ะพอฝึกงานจบกลับไปเรียน และกลับไปอยู่บ้านหนักกว่าเดิมแผนเดิมเลยค่ะ  กลับบ้านเวลานี้ ห้ามไปนอนที่ไหน ตอนนั้นเทียบเท่า ม.6 เราเคยถามเขาตรงๆว่าเขาจะปล่อยเราเมื่อไหร่ เขาบอก 20

  เขาบอกบรรลุนิติภาวะแล้ว จะไม่ยุ่งอีกเลย (พี่สาวของเรายังไม่ 20 ได้มีชีวิตในมหาลัยได้อยู่หอ 4ปี แม่ส่งแม่จ่ายตลอดนะคะ)
แตกต่างจากเราโรงเรียน อยู่ในเมืองไกลมากๆ นั่งรถตื่นเช้าทุกวันเรื่องนั้นไม่ติดค่ะ เราค่อนข้างเป็นคนมีวินัยในการตื่นเช้า ไม่เคยตกกิจกรรมแถว เราไม่เคยมีปัญหาโดนเรียนผู้ปกครองเรียบร้อยตลอด เกรดอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ไม่แย่ ต่างจากพี่เราโดนไล่ออกเพราะมีเรื่องจนต้องยัดตัวเองกลับเข้าไปเรียนใหม่
เราเรียนมัธยมต้นโรงเรียนเดียวกับพี่สาวนะคะจน ม.ปลายพี่ก็อยู่ที่เดิมและก็เข้ามหาลัยแบบคนทั่วๆไปเลย ส่วนเราย้ายมาเรียน ปวช ค่ะ เราแสดงตัวให้ที่บ้านเห็นตลอดว่าเราทำตัวแบบไหน ดูแลตัวเองได้แค่ไหน เวลาเราจะไปไหนทีเราต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมาให้แม่เซ็น

  พออายุ 18 ขึ้น ปวสค่ะ  
เราติดทุน ไปเรียนต่อที่ประเทศจีนเป็นระยะเวลา 1 ปี พ่อจะไม่ให้ไปค่ะ แต่เราร้องขอเพราะมันคืออนาคต แต่แม่เห็นว่ามันคืออนาคตจริงๆเราเลยอยู่จีน 1ปี อิสระมากๆค่ะช่วงนั้นพ่อแม่ดีกับเรามากใช้คำพูดดีเข้าใจทุกอย่างที่เราเป็น จนกลับไทยก็กลับมาฝึกงาน 2 ปี ต่อ ป.ตรี เราคิดว่าพ่อแม่น่าจะเข้าใจเราแล้วเพราะเราไปใช้ชีวิตอยู่ได้มาปีนึงแล้ว สรุปไม่ค่ะก็เป็นเหมือนเดิมห้ามทุกอย่างและยังขอให้แฟนเรามาหาเราฝ่ายเดียว เราอยากรู้ว่ามันจะมีวิธีไหนไหมคะ
ที่ทำให้พ่อแม่เราเข้าใจ พอเราพูดว่าทีพี่เรายังทำยังไปได้เลย ไหนบอกหนู 20 จะไม่ยุ่งแล้วไง เขาเลยบอกเราดูแลตัวเองไม่ได้เขาบอกมีบ้านให้อยู่ก็อยู่ ให้หางานทำใกล้ๆบ้านที่สามารถไปกลับไปเดะเขารับส่งเอง ซึ่งเราอยากออกไปอยู่กับแฟนค่ะมันใกล้แฟนมาก ตอนพี่เราเรียนจบใหม่ๆอยู่คอนโดในกทม

  อยู่มาปีนึงจนกลับมาอยู่บ้าน พ่อแม่ก็ถอยรถให้พี่สาวขับไป-กลับ ไปทำงานค่ะ เราไม่ไรหรอกเรื่องรถเพราะเราพึ่งอายุเท่านี้ ยังไม่มีรถก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
แต่เรามีคำถามตลอดเวลาว่าทำไมพี่เราถึงไปทำงานไกลๆได้ แล้วทำไมเราถึงไปไหนไกลๆบ้างไม่ได้ทำไมเราถึงไม่ได้ใช้ชีวิตมหาลัย

เป็นเพราะแม่ให้ต่อ ปวช ปวส และเรียน ป.ตรีที่เดิมที่เดียวกับ ปวช ปวส เราไม่ได้ไปไหนเลยไม่เคยได้เลือกที่เรียนเอง เราอยากรู้ว่าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้จัดการยังไงคะ ตอนนี้มีแฟนค่ะเป็นทอม และเป็นตำรวจอยากจะไปอยู่กับแฟนเพราะใกล้ที่ทำงานเรา ไม่ต้องตื่นเช้า อยู่บ้านต้องออกไปทำงานพร้อมพ่อ
คือ 7 โมง แล้วเราเข้างาน 8:30 เราต้องไปนอนที่ออฟฟิศต่อเป็นประจำ ที่บ้านรถเมล์เข้าถึงยากมากๆเพราะทำงานในกรุงเทพ ตื่นเช้านั่งรถไกลถึงทีทำงานไวนอนก็ไม่พอ เขาไม่เข้าใจเหตุผลเราเลย ขอไปทำงานที่สมุทรสาครกับเพื่อนก็ไม่ให้ไป ติดแง๊กแล้วแบบนี้จะปล่อยกันตอนไหนอายุเข้าเลข 2

  บรรลุนิติภาวะแล้ว แถมไม่คบผู้ชาย เหมือนเขาดูสิ่งแวดล้อมมาเยอะมากลูกพี่ลูกน้องเราท้อง ตั้งแต่ 18 กลัวเราท้องพูดเรื่องนี้ตลอด
ทั้งๆที่เราไม่เคยคบผู้ชายหรืออีกเรื่องคือ พี่เราขี่มอเตอร์ไซกับแฟนไปชนรถเมล์จนตาบวมหวิดเกือบตายตอน 17-18 ก็ห้ามเราไม่ให้นั่งมอเตอร์ไซชอบพูดตัวอย่างของพี่เราขึ้นมาประจำหรือพูดข่าวที่ตัวเองดู ที่บ้านไม่มีมอเตอร์ไซนะคะ เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่พอเข้าใจได้ค่ะเหตุผลนี้ เวลามีแฟนแม่จะชอบถามว่าแฟนขับรถอะไร ถ้ามอเตอร์ไซ ก็ห้ามไปนะห้ามไปไหนมาไหนด้วยกัน ต้องรถใหญ่เท่านั้น คือแบบทุกคนมีวิธีจัดการยังไงคะ เราเคยเป็นซึมเศร้า
กีดแขนตัวเองอยู่พักหนึ่งเพราะพ่อแม่ชอบใช้คำถามรุนแรงกับเรา ตีเรา ยกตัวอย่างคำแรงๆที่เคยใช้ก็

  เด็กเฮีย เด็กเปต** ยิ้มนี่มันควา**จริงๆ แต่หายแล้วนะคะซึมเศร้าไม่ได้ทำร้ายตัวเองแล้วค่ะ แค่รู้สึกว่าพรุ่งนี้ตายเลยก็ได้นะ เพราะพร้อมตายมากจริงๆค่ะ
แต่ไม่ได้จะ ฆตต นะคะ แค่รู้สึกว่าพรุ่งนี้ตายเลยก็ดี ปัจจุบันมีภูมิคุ้มกันดีค่ะเรื่องฆตต เมื่อก่อนมีคิดบ้าง อยากรู้ว่าถ้าทุกคนเจอแบบนี้จะจัดการยังไงคะ
พูดยังไงดีคะ เราก็เคยพาแฟนไปให้แม่เจอบ่อยๆนะคะแม่ก็รู้จักแฟนเรา แต่ไม่ค่อยให้เราไปอยู่ด้วยกัน มีแต่บอกให้แฟนเรามาหาฝ่ายเดียว หรือเพื่อน
ก็บอกให้เพื่อนมาบ้านเราซึ่งบ้านเราไม่ได้อยู่ในเมือง จะมากันก็ยากอะค่ะ หรือเราเป็นเด็กที่แค่ไร้สาระคะ ทุกคนคิดว่าเราเองไม่เข้าใจพ่อแม่เองไหมคะ
หรือเรางี่เง่าไปเอง นิสัยไม่ดีเองคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่