เบสท์ ชนิดาภา เล่าอุทาหรณ์ เสียรู้มิจฉาชีพ สูญ 1.2 ล้าน เผยติดกับดัก อยากได้เงินคืน



เบสท์ ชนิดาภา เล่าอุทาหรณ์ เสียรู้มิจฉาชีพ สูญ 1.2 ล้าน เผยติดกับดัก อยากได้เงินคืน จนไม่ทันฉุกคิด ชี้พวกนี้มืออาชีพทำงานเป็นทีมเล่นกับความรู้สึกคน

กรณี ‘เบสท์’ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ นักแสดงสาว เข้าแจ้งความ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสมัครงานรีวิวโรงแรม อ้างเป็นแคมเปญรีวิวร่วมกับ Agency ชื่อดัง สูญเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท

ต่อมา เบสท์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Chanidapa Pongsilpipat เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เบสท์ มีเวลามาคิดทบทวนว่า เฮ้ย! เราโดนไปได้ยังไง ทั้งๆที่ “ปกติ” เป็นคนระวังตัวมาก ไม่เคยหลงเชื่ออะไรง่ายๆ

แต่เอาเข้าจริง จะใครหน้าไหน วันนึงที่เราหลวมตัวเข้าไปสู่โลกของมิจ มันเหมือนถูกดึงเข้าไปให้ ”ติดกับดัก“ เพราะสนใจทำงานและอยากมีรายได้ (ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้เสียค่าสมัครนะคะ คนเข้าใจผิดกันเยอะ) และพวกนี้มืออาชีพทำงานเป็นทีมเล่นกับความรู้สึกคน กดดันเรื่องเวลา หน้าม้าก็รุมพิมพ์ต่อว่าเพื่อบีบให้เราต้องทำเพื่อส่วนรวม

ยอมรับว่า ณ เวลานั้น “ขาดสติ” และมัวแต่ใจจดใจต่อในการอยากได้เงินตัวเองคืน ทำให้โอนต่อ โอนเพิ่ม โดยไม่ทันได้ฉุกคิดหรือไหวตัวช้าไปมาก จนยอดความเสียหายสูงไปถึงหลักล้าน

ไม่มีใครอยาก ”ตกเป็นเหยื่อ“ ไม่มีใครอยาก ”เสียค่าโง่“ แต่ในเมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องตั้งรับและยอมรับความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแก้ไขปัญหาต่อ

โชคดีที่คนในครอบครัวและคนรอบตัวไม่มีใครเหยียบย่ำซ้ำเติมหรือสมน้ำหน้า และบอกว่าต่อไปมีอะไรต้องรีบปรึกษาคนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว อย่ากลัวที่จะบอกหรือเล่า และอย่าแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เบสท์ พลาดไปแล้วจริงๆ

ขอบคุณทุกคนที่ติดต่อเข้ามาทุกช่องทาง มาสอบถามถึงสภาพจิตใจ และให้กำลังใจ ทำให้รู้ว่ามีคนรอบตัวอีกหลายคนที่โดนแบบเบสท์ มีทั้งแบบเดียวกันเป๊ะๆและแบบที่คล้ายๆกัน แต่แค่พวกเขาไม่กล้าที่จะออกมาเล่ามาแชร์ในสิ่งที่ตัวเองเจอ เพราะกลัวโดนด่าว่า “โง่” นี่แหละค่ะ

เข้าใจว่าต่างคนต่างมุมมองต่างความคิด และทุกวันนี้มีข่าวออกอยู่เรื่อยๆจริง แต่มิจก็มีรูปแบบใหม่ๆที่แยบยลขึ้นทุกวัน จนบางทีเราก็ตามไม่ทันทุกข่าว เพราะตอนที่ไปแจ้งความที่สน. จนท.ตำรวจยังบอกเลยว่ามีเคสแบบนี้ทุกวัน วันนึงไม่ต่ำกว่า 5 รายที่มาแจ้ง ซึ่งฟังแล้วน่าตกใจ เห็นใจ และไม่คิดว่าวันนึงเราจะตกเป็น ”เหยื่อมิจฉาชีพ“ เหมือนกัน

อยากให้เรื่องราวครั้งนี้ของเบสท์ เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสำหรับคนที่อาจจะหลงกล หลวมตัว ก้าวขาเข้าไปแล้ว ให้รีบถอยออกมาให้ไวที่สุด ยอมทิ้งเงินที่เสียจำนวนนั้นไปเลย ไม่ต้องไปสงสารหรือเห็นใจใคร (เพราะมันคือหน้าม้าที่เตี๊ยมการละครมาอย่างดี มี story ของตัวเอง) อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปเยอะกว่านี้ หรือถ้าใครไหวตัวทันแต่แรกคือ คุณโชคดีมากๆที่มีสติและยินดีด้วยจริงๆที่ไม่โดนหลอกค่ะ

ขอให้ทุกคนที่เคยโดน กล้าแชร์ กล้าบอกต่อเรื่องราวของตัวเอง ถึงแม้ว่าโดนด่า โดนตำหนิแน่ๆ 70-80% ว่าไม่มีสมอง สวยแต่โง่ การศึกษาสูงซะเปล่า แต่มันคือการช่วยเหลือคนอื่นๆอีกทางนึง อย่างน้อยวันนี้คนที่เห็นข่าวเบสท์ จะได้ระมัดระวังตัวเมื่อเห็นเพจเหล่านี้หรือลักษณะงานแบบนี้เด้งขึ้นมาใน feed ของตัวเอง (ซึ่งเพจได้ปลิวไปเรียบร้อย สลายตัวไวมาก)

หวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่เบสท์ ต้องการจะสื่อและบอกต่อ ขอบคุณคนที่เข้าใจว่า “ไม่โดนกับตัวไม่มีวันรู้หรอก” เศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะ ”ตกเป็นเหยื่อ” ได้เหมือนกันหมด

ช้อมูลจาก
1 - https://www.facebook.com/share/19DYWgQUnS/

2 - https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9754411

คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่