ปัจจุบันเลนส์ประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น จากรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป มีการใช้คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุค, ไอแพด หรือสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้บริษัทเลนส์ได้ทำการออกแบบเลนส์ประเภทนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
โดยดีไซน์ของตัวโครงสร้างเลนส์จะเป็นการเน้นใช้งานระยะใกล้และกลาง เช่น ระยะอ่านหนังสือ ระยะเล่นมือถือ ระยะการใช้โน๊ตบุคและคอมพิวเตอร์ รวมถึงดูจอ Presentation และจอโทรทัศน์

เลนส์เฉพาะทางเป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับคนทำงานในสำนักงาน ที่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นหลัก นั่งอยู่หน้าจอ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความชัดเจนที่ระยะใกล้และระยะกลาง โดยเลนส์เฉพาะทางสามารถมองชัดได้ตั้งแต่ระยะ 40 ซม. ไปจนถึง 3-4 เมตร
เลนส์เฉพาะทาง Mini Progressive ต่างจากเลนส์โปรเกรสซีฟอย่างไร
เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) และ เลนส์เฉพาะทาง (Mini Progressive) ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มผู้ใส่ที่แตกต่างกัน โดยเลนส์โปรเกรสซีฟจะสามารถใส่ได้ครอบคลุมมากกว่า เหมาะกับคนที่อยากใส่แว่นคู่เดียวจบ ใส่ได้ตลอดทั้งวัน ในขณะที่เลนส์เฉพาะทาง Mini Progressive จะมีโครงสร้างและการใช้งานคล้ายกับเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) แต่ออกแบบมาเพื่อเน้นใช้งานในระยะกลางและใกล้ โดยสามารถเลือกระยะในการใช้งานได้ตั้งแต่ระยะ 40 ซม - 4 เมตร จะได้มุมมองการมองเห็นที่กว้างและสบายตามากขึ้น ไม่ต้องก้มหน้าหรือเงยหน้าเพื่อหาระยะที่ชัด เลนส์เฉพาะทางจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคมชัดของภาพในระยะทำงาน เช่น หมอ พนักงานออฟฟิศ นักออกแบบ เป็นต้น
ข้อจำกัดของเลนส์เฉพาะทาง
เลนส์เฉพาะทางเหมาะกับเฉพาะกิจกรรมบางอย่างที่เน้นมองระยะกลางและใกล้เป็นหลัก แต่ไม่สามารถใส่ติดตาได้ตลอด จะต้องถอดแว่นออกหากต้องการมองไกลเกินกว่า 4 เมตร เช่น การเดินภายในอาคาร
จากโครงสร้างเลนส์จะเห็นได้ว่า เลนส์โปรเกรสซีฟเน้นการมองระยะไกลเป็นหลัก สามารถใส่ติดตาได้ตลอดทั้งวัน เน้นความสะดวก คล่องตัว แต่จะต้องมีการปรับตัวในการใช้งานและอาจไม่เหมาะกับคนที่ใช้ใส่ทำงานมองจอคอมพิวเตอร์นานๆ ในขณะที่เลนส์เฉพาะทางจะเน้นการทำงานระยะใกล้และกลาง จะมีความคมชัดเวลามองระยะใกล้ๆ มากกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ อีกทั้งยังสามารถใส่ทำงานนั่งโต๊ะได้นานๆโดยไม่ทำลายสุขภาพ
เลนส์เฉพาะทาง Mini Progressive คืออะไรเหมาะกับการใช้งานแบบใด
ข้อจำกัดของเลนส์เฉพาะทาง