เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thaipbs.or.th/news/content/351885
หนึ่งในความเชื่อที่ฝังรากลึกในสังคมไทย คือ การกินทุเรียนพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เสียชีวิตได้ ความเชื่อนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นคำเตือนในหมู่คนรักทุเรียน อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาของ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2563 พบว่า ทุเรียนมี สารกำมะถัน (Sulfur compounds) ในปริมาณสูง ซึ่งสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในตับที่ชื่อ ALDH (Aldehyde Dehydrogenase) ซึ่งมีหน้าที่สลายแอลกอฮอล์ในร่างกาย
ผลจากสารกำมะถันนี้ทำให้ร่างกายสลายแอลกอฮอล์ได้ช้าลง ส่งผลให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการมึนเมา ความดันโลหิตสูง หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ หรือ โรคหัวใจ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หมดสติ หรือ ช็อก ได้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าการกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์ทำให้เสียชีวิตทันที ในคนที่มีสุขภาพปกติ แต่เพื่อความปลอดภัย แพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน โดยควรรออย่างน้อย 4–6 ชั่วโมงหลังดื่มแอลกอฮอล์ก่อนกินทุเรียน
แล้วต้องบริโภค "ทุเรียน" ยังไงให้ปลอดภัย
เพื่อให้การกินทุเรียนในช่วงฤดูกาลนี้ทั้งอร่อยและปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจาก สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย มีคำแนะนำดังนี้
ควบคุมปริมาณ คนทั่วไปควรกินทุเรียนไม่เกิน 150–200 กรัม/วัน (ประมาณ 2–3 เม็ดขนาดกลาง) ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับและหัวใจ ควรกินไม่เกิน 100 กรัม หรือปรึกษาแพทย์ก่อน
กินหลังอาหาร ควรรับประทานทุเรียนหลังมื้ออาหารหลัก 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะมีอาหารอื่นช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน หลีกเลี่ยงการกินตอนท้องว่าง เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเกินไป
หลีกเลี่ยงกินก่อนนอน ทุเรียนใช้เวลาในการย่อยนาน (ประมาณ 3–4 ชั่วโมง) และอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขณะหลับ ส่งผลต่อการนอนหลับและระบบเผาผลาญ ดังนั้นควรกินในช่วงกลางวันหรือบ่าย
จับคู่กับผลไม้กากใยสูง การกินทุเรียนคู่กับผลไม้อย่าง ฝรั่ง สับปะรด หรือ แก้วมังกร จะช่วยเพิ่มกากใย ลดการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลังกินทุเรียน ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เช่น น้ำใบบัวบก หรือน้ำมะพร้าว เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกายและป้องกันอาการท้องอืด
ระวังทุเรียนแปรรูป ทุเรียนทอด ทุเรียนกวน หรือทุเรียนแช่แข็งในน้ำเชื่อม มักมีน้ำตาลและไขมันเพิ่มจากกระบวนการผลิต ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อน้ำหนักเกินและโรคเรื้อรัง ควรเลือกทุเรียนสดที่สุกตามธรรมชาติจะดีกว่า
อ่านต่อข่าวต้นฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น
กินทุเรียน กับแอลกอฮอล์ อันตรายจริงหรือ ?
https://www.thaipbs.or.th/news/content/351885