ธาตุรู้คือนิพพานธาตุ

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร

ธาตุรู้ คือใจ

ใจผู้รู้ ผู้คิดนี้
แยกออกจากธาตุสี่

เวลาที่ร่างกายตายไป
ธาตุรู้นี้ ก็จะไปตามอำนาจของบุญ และบาป ที่ได้ทำไว้

ถ้าธาตุรู้ทำบุญ
ก็จะไปสู่สุคติ

ถ้าทำบาป
ก็จะไปสู่อบาย

แล้วเมื่อพ้นจากสุคติ
พ้นจากอบาย
ธาตุรู้ ก็จะกลับมา
ได้ร่างกายอันใหม่
ได้ธาตุสี่อันใหม่
เพื่อทำสิ่งที่อยากทำต่อไป


แต่ถ้าได้มาพบกับพระพุทธศาสนา
ได้มาปฏิบัติธรรม
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ถ้าได้ดวงตาเห็นธรรม
เห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดของธาตุรู้นี้
เกิดจากตัณหา ความอยาก

ก็จะมาฝึกวิปัสสนามาตัดความอยากต่างๆ
ให้หมดไปจากใจ

ด้วยการเห็นไตรลักษณ์
ด้วยการเห็นธาตุสี่
ดิน น้ำ ลม ไฟ

ด้วยการเห็นอนิจจัง
ไม่เที่ยง
เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ด้วยการเห็นความทุกข์ ที่เกิดจากความไม่เที่ยง


เมื่อนั้น
ก็จะสามารถหยุดความอยากต่างๆ ที่มีอยู่ในใจได้

พอหยุดความอยากได้หมด
ธาตุรู้นี้
ก็จะเป็นธาตุที่สะอาด บริสุทธิ์ ขึ้นมา

ธาตุรู้นี้
เราจึงเรียกว่า นิพพาน

เรียกว่า นิพพานธาตุ ก็ได้

เป็นธาตุ
ที่จะไม่ไปมีร่างกายใหม่อีกต่อไป

จะไม่ไปประกอบกับธาตุสี่
คือร่างกายอันใหม่

เพราะการมีร่างกายทีไร
ก็ต้องมีการแก่
การเจ็บ
การตาย
ทุกครั้งไป

เวลาแก่ เจ็บ ตาย
ก็มีแต่ความทุกข์

มีแต่การพลัดพรากจากกัน

เพราะฉะนั้น
ไม่มาเกิด ดีกว่า

ไม่มีธาตุสี่ ดีกว่า

อยู่ธาตุเดียว ดีกว่า

อยู่ธาตุรู้
ตามลำพัง

นี่คือธาตุของพระพุทธเจ้า

ธาตุรู้ของพระพุทธเจ้า
และธาตุรู้ของพระอรหันตสาวก

ท่านอยู่ตามลำพัง

ท่านไม่ต้องมีร่างกาย
ไม่ต้องมีรูป เสียง กลิ่น รส

ไม่ต้องมีลาภ ยศ สรรเสริญ
มาให้ความสุขกับธาตุรู้

เพราะธาตุรู้ที่สะอาดบริสุทธิ์นี้
เต็มเปี่ยมไปด้วยบรมสุข
นั่นเอง

ที่เราเรียกว่า
นิพพานัง ปรมัง สุขัง

ความสุขอันสูงสุด

ไม่มีความสุขใดในโลกนี้
ที่จะสามารถมาเปรียบเทียบ
กับความสุขของพระนิพพานได้เลย