แบบนี้ถูกแล้วใช่มั้ย

หลังจากเรื่องราวที่เราสูญเสียคนในครอบครัวในเดือยมิถุนายน 2567 เราได้ตรวจพบก้อนเนื้อที่รังไข่ในเดือนสิงหาคม 2567 ทำให้เราได้คิวผ่าตัด ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ซึ่งงานร้อยวันแม่(ป้า) คือวันที่ 6 ในเดือนเดียวกัน ซื้อแปลว่าพองานจบเราก็ต้องไปนอนแอดมิดที่รพ.เลย หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นเราก็มีเวลาพักฟื้น 2 สัปดาห์แต่เราพักฟื้นตัวที่บ้านป้าของเราอีกคน แล้วไม่เคยกลับไปบ้านที่เราเคยอยู่กับแม่อีกเลย จนโรงเรียนใกล้เปิดเทอม เราได้ไปขนของที่เป็นของเราจากบ้านหลังนั้น ย้ายไปบ้านยายเพราะ สามีของแม่เรานั้นเค้าไล่เรา เราเลยตัดสินใจไปอยู่กับยายถ้าเลือกได้เราก็อยากอยู่บ้านที่แม่เราเคยอยู่เราไม่อยากจากไปไหนเพราะเราอยู่ตั้งแต่เราอายุ 2 เดือน พอไปอยู่บ้านบายเหมือนทุกอย่างมันจะดีเรามีเข้า-ออกรพ.เป็นว่าเล่นเพราะผลชิ้นเนื้อของเราไม่ดีมาก ผลออกมาเป็นมะเร็งถึง 80% ทำให้เราเครียดเราไม่รู้ว่าอะไรรอบตัวมันเปลี่ยนไปมากขนาดไหน เรารู้แค่ว่า เทอมนี้เราตั้งใจเรียนสุดชีวิตของเราเพราะเทอม แรกเกรดเราตกไปอยู่ที่ 3.83 ทำให้คนรอบข้างว่า เทอมนี้เราเลยตั้งใจมาก เรามีปัญหากังทุกอย่างเพื่อนกลุ่มเดียวกับเรา แม้กระทั่งยาย เวลาเสาร์-อาทิตย์​ ปกติเราจะไปทำงานแต่พอเราไปผ่าตัดมาเลยทำให้ไปทำงานไม่ไหว แล้วเราได้เข้าชมรมพร้อมทั้งลงสภานักเรียน ทำให้วันหยุดเราต้องไปแจกของ ทำวัด และทำป้ายหาเสียง เราไปไหนบอกยายตลอด แต่ยายคิดว่าเราไปเที่ยว แล้วสิ่งที่เราสุดจะทนคือ ช่วงปีใหม่ โรงเรียนเราหยุด 5 วัน 29-2 เราก็ไปทำงานอยู่ที่ร้านทะเลเผา เราไปกับลูกพี่ลูกน้อง ไปตั้งแต่ 6.00-18.00/18.30 น. บางวันเราเลิกงานดึกยายก็หาว่าเราไปเที่ยวทั้งๆที่มีป้าที่เป็นญาติไปทำด้วยกัน ช่วงเคาท์ดาวน์เรานอนร้องไห้ เพราะทุกวันที่เราไปทำงานเรากลับมาเจอยายนอนกางมุ้งปิดไฟแล้ว เรานั่งกินข้าวคนเดียว เราเหนื่อยมากมือเรามีแผลจากของทะเลเต็มไปหมด แต่เราก็ทำได้แค่น้อยใจ พอวันที่ 4/1/2568 โรงเรียนเราเข้าค่ายดาราศาสตร์ต้องนอนค้างที่โรงเรียน ยายไม่เคยให้เงินเราเลย เราไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อยากันยุงทา เราต้องโทรไปขอพ่อ พอวันถัดมาต้องกลับเรารู้เลยว่าถ้าเรากลับบ้านจะไม่มีอะไรให้เรากิน เพราะไม่มีแม่คอยทำให้เราแล้ว เราเลยแวะกินข้าวร้านที่แม่ชอบ พอถึงบ้านเราก็นอนเพราะนอนดึกแถมยังตื่นเช้ามาดูดาวอีก ยายก็หาว่าเราไปนอนบ้านผู้ชาย หลังจากวันนั้นยายก็ไม่ให้เงินเราไปโรงเรียนอีกเลยทำให้เราต้องขอพ่อ เราไม่เหลือใครต่อให้มีคนรอบตัวเรามากมายแต่เราก็รู้สึกโดดเดี่ยวมาก เราตัดสินใจกลับบ้านเย็นเพราะอยู่ซ้อมคิดเลขเร็ว+เอแม็ทเพื่อไปแข่ง เราถ่ายรูปให้ยายดูตลอดแต่ยายยังหาว่าเราไปเที่ยวกับผู้ชาย เรากลับบ้านมา17.00น. จนวันนึงหมอนัดเราฟังผลชิ้นเนื้อเราว่าต้องให้คีโมมั้ยแต่ใบนัดเราอยู่ตรงป้าแต่ป้าก็ไม่พาเราไปเราเลยไม่อะไรกับชีวิตทั้งนั้น เราก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆโดนยายบ่นทุกวันทำให้เกิดความคิดกล้บบ้านมืดเราอยู่โรงเรียนจน มืดถึงกลับเราอยู่เล่นแบดมินตัน ยายเอาเรื่องนี้ไปบอกป้าเราป้าเรามาบอกให้คุยกับยายเราคุยแล้วแต่ยายบอกเราว่า"ไม่ต้องมาคุยกับกูไปคุยกับแม่นู่น"คำนี้ทำให้เราไม่คิดจะง้อยายอีกเลยเพราะทั้งแม่แท้ๆของเราและคนที่เราเรียกว่าแม่ก็เสียหมดแล้ว ยายก็ไล่เราตลอด ให้เราออกจากบ้านเค้า เราคิดจะหาห้องเช่า จนวันนึงเราตื่นมาได้ยินเสียงยายไล่พร้อมทั้งบอกว่าเราหลงผู้ชายเราก็บอกไปว่าไม่เคยทำแบบนั้นยายก็ไม่ฟังเราเลยจะงุกออกจากบ้านไปขับรถเรื่อยๆเพื่อหาห้องเช่า ​แต่ยายดันยึดรถเราเราเลยให้เพื่อนมารับเพื่อไปหาห้องเช่า แต่ครอบครัวของเพื่อนคือญาติของเราเค้าเลยให้เราไปอยู่บ้านเค้าที่ไม่มีใครอยู่ แถมเพื่อนยังให้เรายืมรถของเพื่อนเพื่อไปโรงเรียนเราอยู่บ้านเพื่อนคืนแรกมีคนโทรหาเราแต่เราเบือกที่จะไม่รับสายใครเลยเพราะเราเหนื่อยจากการขนของ จนเราทำใจได้รับสายทุกคนพี่ชายต่างพ่อของเราชวนเราไปอยู่ด้วยเราน้ำตาไหลเพราะไม่คิดว่าจะมีใครรักเรา เราเลยอยู่บ้านเพื่อนได้ 13 วัน ช่วงเวลาที่อยู่บ้านหลังนั้นเราอยู่คนเดียว แล้วบ้านหลังนั้นสามารถมองเห็นบ้านที่เราเคยอยู่กับแม่เพราะมันใกล้กันมาก เราไม่เคยคิดว่าจะมาอยูาที่นี่ ครอบครัวของเพื่อนดูแลเราดีมาก ตอนเย็นให้เราไปเอาข้าว อาของเพื่อนเอาน้ำมาไว้ให้เราดื่ม เอาข้าวสารมาไว้ให้เราหุง แต่กลับกันคนในครอบครัวทุกคนที่เคยดีกับเราตอนมีแม่คนที่มาพึ่งยืมเงินแม่กลับใส่ร้ายป้ายสีว่าเราอยู่กับผู้ชาย เพราะเพื่อนเราเป็นผู้ชาย แต่ลางคนในหมู่บ้านที่นู้จักเราเค้าก็ไม่เชื่อจรคืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นั่นเพราะพี่เรามารับเราได้ไปงานเลี้ยงผู้ใหญ่บ้านใหม่ เราเจอลูกพี่ลูกน้องคนที่เคยไปทำงานด้วยกัน นางมานั่งคุยกับเราว่าทั้งบ้านพูดถึงแต่เรื่องเราที่ย้ายออกมา เราเจอป้าคนที่เป็นเพื่อนของแม่เรา(ป้า)เค้าเรียกเราไปถามว่าเรื่องเป็นแบบไหนเราก็เล่าแบบที่เราเจอป้าเขาก็ร้องไห้พร้อมทั้งกอดเราเราก็ร้องเพราะป้าเขาดีกับเรามาก  พอวันรุ่งขึ้นเราก็ไปเซ็นย้ายที่โรงเรียนแล้วมาอยู่เชียงใหม่ใหม่กับพี่ พอมาถึงได้ 3-4 มีป้าแีกคนที่สนิทกับแม่(ป้า)เรา โทรมาถามเพราะเป็นห่วงแถมร้องไห้อีกแล้ว เราก็ฮิลใจได้มาบ้าง พอถึงวันนึงเกรดเราออก เราตัดสินใจโพสต์ลงโซเชียลตบหน้าที่ว่าเรา เพราะเกรดเราขึ้นเป็น 4.00 แต่เรากลับนอยคิดถึงแม่ที่จากไปเพราะเทอมนี้ไม่สามารถขึ้นรับเกียรติบัตรด้วยกันได้อีกแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเรามันถูกมั้ยแต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกๆวัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่