แม่เรามีการทำธุรกรรมกู้เงินจาก ธ.ออมสิน ในปี 2553 จ่ายชำระตามปกติที่ธนาคารเเจ้งยอกชำระมา (ในยุคนั้นแม่ไม่มีทางรู้จักคำว่า โอนจ่ายหรือ แอพธนาคาร จ่ายชำระเป็นเงินสดที่เคาร์เตอร์ที่ธนาคารทั้งหมด ) จ่ายทุกงวดไม่มีขาดหรือค้างชำระเลย   แต่สัญญาจะหมดในสิ้นเดือน เม.ย 68 นี้ ซึ่งชำระยอดตามที่ ธ.แจ้งมาเลย แต่พอเริ่มมีการทำแอพธ. ยอดเงินกู้กับยังเหลือเยอะและแถมมี ยอดดอกเบี้ยเพิ่มมาอีกต่างหาก เราจึฃฃงได้สอบถามแม่ว่าไม่ได้ส่งหรืออะไร แม่ยืนยันว่าส่งตลอดทุกเดือน (ช่วงปี 65-68 จะมีการโอนชำระ ) เราเลยไปดูการรายการที่ชำระเงินกู้ ผลปรากฏ ช่วง เม.ย 63-พ.ย. 63 (ช่วงโควิด และ ช่วงนั้นแม่ยังชำรพด้วยเงินสด) ไม่ได้มีรายการที่ชำระเงินกู้นี้เลย จึงไปติดต่อธนาคาร ไปความว่า ช่วง 9 เดือนนั้น มีโครงการพักชำระหนี้ช่วงโควิด และยอดที่มีเพิ่มมาคือการคิดดอกเบี้ยช่วง 9 เดือนนั้น เรางงอ้าวคืออะไร เราเลยถามแม่ ซึ่งแม่บอกว่า ณ ตอนนั้นธนาคารมีการแจ้งว่ามีโครงการพักชำระหนี้ช่วงโควิด ( ซึ่งไม่มีหนังสือแจ้งหรืออะไรก็ตามแต่ ) แต่แม่ไม่สนใจ เพราะอยากให้หนี้หมดแล้ว แม่ก็จ่ายชำระค่างวดตลอดมา ด้วยเงินสด พอเราถาม จนท.ธ  ได้คำตอบว่าได้คำตอบว่าโครงการพักชำระหนี้ช่วงโควิดนั้นเป็นการพักชำระหนี้อัตโนมัติของทางธนาคาร แล้วเราเลยถามกลับไปว่าแบบนี้ไม่มีหนังสือแจ้งหรอคะหรือถามความยินยอมกับลูกค้า ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่เค้าน่ารักมากนะคะเค้าตอบว่า ณ ตอนนั้น แจ้งผ่านทีวีโทรทัศน์หรือสื่อต่างๆ ลูกค้าต้องทราบเองว่ามีการพักชำระลูกค้าต้องทราบเองว่ามีการพักชำระหนี้โดยอัตโนมัติ แล้วที่แม่เราจ่ายชำระแล้วที่แม่เราจ่ายชำระไปในช่วงเมษา 63- พ.ย 63  ละ 9 เดือนเลย ซึ่งหลักฐานการชำระซึ่งหลักฐานการชำระที่เป็นใบเปอินที่ธนาคารให้มาตั้งแต่ ปี 63  คนแก่ก็คือไม่เก็บไว้แล้ว และพี่พนง.จึงรอฃคำนวน ยอดเงินต้นและดอกเบี้ย ณ ตอนนี้ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า จริง ๆแล้ว ยอดที่ต้องชำระ ต้องมากกว่าที่ชำระ ณ ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่คนก่อนอาจจะคำนวณ ยอดให้ผิด  แล้วแม่เราจ่ายชำระไปละ ใครรับผิดชอบ ยอดเงินต้นยังเหลือเยอะ เลยอยากจะเตื่อนภัยให้ทุกคนเก็บหลักฐานการชำระให้ดี ไม่งั้นจะเกิดปัญหาแบบนี้ได้