วันนี้แฟนผมได้เข้าไปใช้บริการ รักษาสิว ของทางคลินิก ทีแรกอยากจะลองว่ามันเป็นอย่างไร แต่พอพนักงานแจ้งคอร์ส 5 ครั้งก็น่าสนใจ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้
มันจะมีพนักงานคนนึงพยายามจะขายชุดครีมล้างหน้าและอื่นๆ พนักงานเข้ามาแจ้งเราแล้วรอบหนึ่งเราก็บอกว่าขอคิดดูก่อน แต่พนักงานกลับบอกว่าต้องซื้อ ประมาณว่า คุณมารักษาสิวคุณก็ต้องใช้ของชุดนี้ ซึ่งเราก็ตัดจบไปว่าเอาไว้ก่อนครับ เดี๋ยวตัดสินใจก่อน เพราะเรารำคาญเพราะพนักงานคนนี้พูดแบบนี้เกือบ 10 รอบว่าต้องซื้อ ว่าต้องใช้ พอเราบอกไปแบบนั้นพนักงานทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเจนหรือเราคิดไปเองก็ไม่รู้ เพราะเราพยายามกันแฟนไม่ให้ซื้อ แต่แฟนผมเค้าไม่ได้พูดอะไรเพราะว่าเค้าปฏิเสธใครไม่เป็นขี้เกรงใจ
จนถึงเวลาที่ต้องเข้าห้องไปทำหัตถการ พนักงานกลับบอกแฟนผมว่าเดี๋ยวให้แฟนน้องไปหาเดินเล่นก่อนก็ได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง ผมก็เอ๊ะแล้วทำไมผมนั่งรอตรงนี้ไม่ได้หรอ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรออกไปเดินเล่นในห้าง และกลับมาตอนครบ 1 ชั่วโมงพอดี ใจก็คิดว่ากลัวแฟนออกมาแล้วเค้ามาจี้ขายของแฟนอีก
สรุปแฟนออกมา พนักงานถือถุงชุดครีมนั้นออกมาแล้ว(ไม่รู้จะเรียกอะไร) ผมเลยถามว่าไปซื้อตอนไหนเพิ่งออกมาจากห้อง แฟนบอกว่าผมไปไม่ถึง 10 นาที พนักงานก็เดินเข้ามาขายของชุดเดิมในห้องหัตถการ ตอนนั้นผมโมโหมากทำไมทำแบบนี้ ผมก็เลยมีปากเสียงกับพนักงานว่าทำไมทำแบบนี้ก็บอกอยู่ว่าขอคิดดูก่อนแล้วทำไมยังเข้าไปขายถึงในห้อง พนักงานคนนั้นก็อ้างเหตุผล 108
ซึ่งค่าครีมไม่ได้แพงนะครับ 2000 กว่าบาทเอง ต้องบอกตรงตรงว่าสองจิตสองใจว่าจะซื้อหรือเปล่ายังไม่ได้ตัดสินใจนะ แต่มันรู้สึกอึดอัดเกินไปหรือเปล่าที่มาทำแบบนี้ละเมิดความเป็นส่วนตัวเกินไปหรือเปล่า คือแฟนอยู่ในห้องหัตถการก็ยังเข้ามาขายของ และประเด็นสำคัญ มาถามแฟนผมว่าใครเป็นคนจ่ายเงินน้องหรือเปล่า แล้วเอาบาร์โค้ดมาให้สแกนถึงในห้องหัตถการ ผมนี่งง เลยน่าเกลียดมาก นี่เค้าทำกันขนาดนี้แล้วหรอ และประเด็นพนักงานคนนี้ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยสักนิด ไม่มีคำขอโทษใดใด
คือถามว่าโอเคไหมกับบริการและความเชื่อใจคือเรามีความเชื่อใจแล้วก็บริการก็โอเคทุกอย่างมันดีมากอ่ะ ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ คือเข้าใจไหมว่าเราก็เคยเข้าคลินิกหลายหลายคลินิก เป็นเรื่องปกติที่เคยเจออยู่แล้ว แต่ถ้าเราบอกเออขอคิดดูก่อนเค้าก็เหมือนในในว่ารู้แล้วอ่ะ ว่าต้องทำตัวไงต่อ แต่คนนี้คือแบบเกินเบอร์ไปมาก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดจริงๆ และก็ลำบากใจมากที่ต้องไปเจอหน้ากันอีกตั้ง 4 ครั้ง
The Klinique ดีไหม? รู้งี้อ่านรีวิวก่อนดีกว่า
มันจะมีพนักงานคนนึงพยายามจะขายชุดครีมล้างหน้าและอื่นๆ พนักงานเข้ามาแจ้งเราแล้วรอบหนึ่งเราก็บอกว่าขอคิดดูก่อน แต่พนักงานกลับบอกว่าต้องซื้อ ประมาณว่า คุณมารักษาสิวคุณก็ต้องใช้ของชุดนี้ ซึ่งเราก็ตัดจบไปว่าเอาไว้ก่อนครับ เดี๋ยวตัดสินใจก่อน เพราะเรารำคาญเพราะพนักงานคนนี้พูดแบบนี้เกือบ 10 รอบว่าต้องซื้อ ว่าต้องใช้ พอเราบอกไปแบบนั้นพนักงานทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเจนหรือเราคิดไปเองก็ไม่รู้ เพราะเราพยายามกันแฟนไม่ให้ซื้อ แต่แฟนผมเค้าไม่ได้พูดอะไรเพราะว่าเค้าปฏิเสธใครไม่เป็นขี้เกรงใจ
จนถึงเวลาที่ต้องเข้าห้องไปทำหัตถการ พนักงานกลับบอกแฟนผมว่าเดี๋ยวให้แฟนน้องไปหาเดินเล่นก่อนก็ได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง ผมก็เอ๊ะแล้วทำไมผมนั่งรอตรงนี้ไม่ได้หรอ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรออกไปเดินเล่นในห้าง และกลับมาตอนครบ 1 ชั่วโมงพอดี ใจก็คิดว่ากลัวแฟนออกมาแล้วเค้ามาจี้ขายของแฟนอีก
สรุปแฟนออกมา พนักงานถือถุงชุดครีมนั้นออกมาแล้ว(ไม่รู้จะเรียกอะไร) ผมเลยถามว่าไปซื้อตอนไหนเพิ่งออกมาจากห้อง แฟนบอกว่าผมไปไม่ถึง 10 นาที พนักงานก็เดินเข้ามาขายของชุดเดิมในห้องหัตถการ ตอนนั้นผมโมโหมากทำไมทำแบบนี้ ผมก็เลยมีปากเสียงกับพนักงานว่าทำไมทำแบบนี้ก็บอกอยู่ว่าขอคิดดูก่อนแล้วทำไมยังเข้าไปขายถึงในห้อง พนักงานคนนั้นก็อ้างเหตุผล 108
ซึ่งค่าครีมไม่ได้แพงนะครับ 2000 กว่าบาทเอง ต้องบอกตรงตรงว่าสองจิตสองใจว่าจะซื้อหรือเปล่ายังไม่ได้ตัดสินใจนะ แต่มันรู้สึกอึดอัดเกินไปหรือเปล่าที่มาทำแบบนี้ละเมิดความเป็นส่วนตัวเกินไปหรือเปล่า คือแฟนอยู่ในห้องหัตถการก็ยังเข้ามาขายของ และประเด็นสำคัญ มาถามแฟนผมว่าใครเป็นคนจ่ายเงินน้องหรือเปล่า แล้วเอาบาร์โค้ดมาให้สแกนถึงในห้องหัตถการ ผมนี่งง เลยน่าเกลียดมาก นี่เค้าทำกันขนาดนี้แล้วหรอ และประเด็นพนักงานคนนี้ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยสักนิด ไม่มีคำขอโทษใดใด
คือถามว่าโอเคไหมกับบริการและความเชื่อใจคือเรามีความเชื่อใจแล้วก็บริการก็โอเคทุกอย่างมันดีมากอ่ะ ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ คือเข้าใจไหมว่าเราก็เคยเข้าคลินิกหลายหลายคลินิก เป็นเรื่องปกติที่เคยเจออยู่แล้ว แต่ถ้าเราบอกเออขอคิดดูก่อนเค้าก็เหมือนในในว่ารู้แล้วอ่ะ ว่าต้องทำตัวไงต่อ แต่คนนี้คือแบบเกินเบอร์ไปมาก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดจริงๆ และก็ลำบากใจมากที่ต้องไปเจอหน้ากันอีกตั้ง 4 ครั้ง