JJNY : อันวาร์โพสต์คลิป ล่าสุดลบแล้ว│‘ศุภณัฐ’ แฉทุบสถิติที่ 41 บ.│จับตา!“การเมือง-เศรษฐกิจ”จ่อเขย่า│“ดีเอสไอ”อายัดเอกสาร

กระทู้ข่าว
อันวาร์ โพสต์คลิปหารือ นายกฯอิ๊งค์-ทักษิณ ใช้เพลงฮิต ของ ‘เสก โลโซ’ ประกอบ ล่าสุดลบแล้ว
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5144304
.
.
ฮือฮา! อันวาร์ โพสต์คลิปหารือ นายกฯอิ๊งค์-ทักษิณ ใช้เพลงฮิต ของเสก โลโซ-เบิร์ด ธงไชย
.
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะเข้าพบและหารือทวิภาคีกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมให้การต้อนรับ
.
นายอันวาร์ ระบุว่า การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของผม ถือเป็นบทใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซีย และไทย ในการพบปะกับนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เราได้มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความพยายามทวิภาคี ด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคงชายแดน และการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกันของเรา
.
วิกฤตเมียนมาเป็นจุดสนใจหลักเช่นกัน ผมได้หารือกับ SAC, NUG และกลุ่มที่ปรึกษาไม่เป็นทางการ เพื่อรับฟังมุมมองของพวกเขาโดยตรง เป้าหมายของเราคือการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนและยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
นอกจากนี้ยังได้เจอกับนักลงทุนชาวไทย และผู้นำในอุตสาหกรรม ที่แสดงความสนใจอย่างมากต่อเศรษฐกิจของมาเลเซีย เรากำลังวางรากฐานสำหรับอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ความยั่งยืน และยุทธศาสตร์ต่าง
.
อย่างไรก็ตาม นายอันวาร์ยังได้ใช้เพลงฮิต “อมพระมาพูด” ของศิลปินชื่อดัง เสก โลโซ และ เบิร์ด ธงไชย เป็นเพลงประกอบในคลิปวิดีโอนี้อีกด้วย ซึ่งในคลิปวิดีโอ นายอันวาร์ได้เผยแพร่ภาพหารือกับนายทักษิณ, นางสาวแพทองธาร วิดีโอคอลคุย ได้พบกับนักธุรกิจหลากหลาย อาทิ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ จาก PTT Group , ฐาปน สิริวัฒนภักดี TCC Group  และ วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค จาก Minor International Group เป็นต้น
.
ซึ่งก็มีชาวไทยเข้าไปแชร์โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องเพลงจำนวนไม่น้อย
.
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นายอันวาร์ ได้ลบคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว
.

.
อึ้งต่อไม่พัก! ‘ศุภณัฐ’ แฉเงินเยียวยาเจ็บซ้ำสอง ได้เงินน้อยสุดทุบสถิติที่ 41 บาท
https://www.dailynews.co.th/news/4621269/
.
เปิดข้อมูลอึ้งกันรอบสอง.. "แบงค์ ศุภณัฐ" แฉข้อมูลเงินเยียวยาบ้าน-คอนโดฯ ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พบครั้งนี้ได้เงินน้อยสุดแบบทุบสถิติ เพียงแค่ 41 บาท!
.
เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สังคมกำลังสนใจกันอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเผยถึงข้อมูลการมอบเงินเยียวยาประชาชน ในการซ่อมบ้านและคอนโดฯ ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยพบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปประเมิน ให้ 300 บ้าง 700 บ้าง กำแพงร้าวให้ 75 บาท ได้เฉพาะค่าวัสดุ ไม่ให้ค่าแรง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. “แบงค์ ศุภณัฐ” ได้ออกมาอัปเดตถึงเรื่องดังกล่าว โดยพบรายล่าสุด ได้รับเงินเยียวยาเพียงแค่ 41 บาทเท่านั้น โดยระบุว่า
.
เยียวยา 41 บาท เคสนี้น่าจะ world record และครับ ไม่รู้คิดได้อย่างไง อย่างน้อยๆ ก็ควรกำหนดขั้นต่ำที่ 1 ตร.ม. ก็ยังดี
.
นอกจากนี้ “แบงค์ ศุภณัฐ” ยังได้เผยทวีตของผู้ใช้ X รายหนึ่ง ซึ่งได้ระบุว่า
.
คนนี้ตอนแรกได้ 31 บาท แล้ว จนท. มาประเมินใหม่ เพิ่มให้ 10 บาท เป็น 41 บาท”
.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นอย่างมาก
อาทิ..
– อันนี้ก็เกินไป ที่อยู่อาศัยเลยนะคะ อย่างน้อยก็ให้ราคาเยียวยาไปซ่อมแซม ได้ค่าทาปูน ทาสีก็ยังดี
– เจ้าหน้าที่ที่มาประเมินอายตัวเองไหมถามจริง ทำเรื่องตลกอะไรอยู่ รู้ตัวไหมว่าสิ่งที่ทำมันปัญญาอ่อน ไม่ทราบเจ้าภาพจะเก็บงบไว้ทำอะไร หรือใช้จนหมดแล้วไม่เหลือถึงประชาชน บอกฝรั่งว่าได้เงินชดเชยจากรัฐบาล 1 ดอลลาร์ นี่ฮากลิ้งเลยนะ
– ผู้ประสบภัยรวยเลยนะคะ ได้ค่าช่วยเหลือจากรัฐบาล 41 บาท จะใช้ยังไงหมดนะ หมายถึงหนี้ที่ต้องกู้มาซ่อมแซมคอนโดฯ อ่ะค่ะ ผู้ประสบภัยจะใช้ยังหมด
– ค่าถ่ายเอกสาร ค่าเดินทางยังมากกว่าอีกค่ะ หมดกำลังใจเลย..
.
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @BankSuphanatMin
.
https://x.com/BankSuphanatMin/status/1913230345807581255
.

.
“โอฬาร ถิ่นบางเตียว” จับตา ! “การเมือง-เศรษฐกิจ” จ่อเขย่าหลังสงกรานต์ “พรรคร่วมฯ” เปิดเกมต่อรอง รุมบี้ “ทักษิณ”
https://siamrath.co.th/n/615863
.
หมายเหตุ: "รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้สัมภาษณ์พิเศษ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ถึงสถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ มีเรื่องใหญ่ที่รัฐบาล “แพทองธาร1” ต้องเตรียมรับมือหรือไม่ ตลอดจนการอยู่ร่วมกันของ “รัฐบาลผสม” จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร และสถานการณ์ของ “พรรคฝ่ายค้าน” จะดำเนินบทบาทอย่างในท่ามกลางการเมืองอันเข้มข้นเช่นนี้
.
-การเมืองหลังสงกรานต์ "รัฐบาล" ต้องรับมือกับเรื่องร้อน  เรื่องใดบ้าง
.
คิดว่าสิ่งสำคัญมากคือเรื่องที่รัฐบาลลักไก่ขับเคลื่อนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ที่คิดว่ารัฐบาลยังมีวาระซ่อนเร้น คือไม่ได้เป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่เร่งรีบในการขับเคลื่อนโดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน และเสียงที่เป็นกังวลใจต่อปัญหานี้ และยังขาดการศึกษาอย่างรอบด้าน แต่มีวาระซ่อนเร้น มีความพยายามเหมือนกับจะถูกมองว่าขยับเรื่องนี้เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของกลุ่มทุนที่อยู่ในโครงสร้างการเมืองไทย และเป็นการต่อรองกันอย่างลงตัวของบุคคลชั้นนำ  เรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่หลังสงกรานต์ที่ประชาชน หรือคนที่ติดตามการเมืองจะต้องจับตาเป็นพิเศษ
และเรื่องผลกระทบหลังจากที่สหรัฐฯประกาศตั้งกำแพงภาษี ทางการค้า ซึ่งจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบการในประเทศไทยที่ส่งสินค้าไปสหรัฐฯ และจะกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยอยู่แล้ว อาจจะทำให้ปัญหาเศรษฐกิจไทยเกิดการขยายตัวที่มากขึ้น และปัญหาโครงสร้างการเมืองของเราเอง จะเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ตัวนายกฯเองก็เป็นนายกฯนอมินี เป็นนายกฯอุปโลกน์ ถึงแม้จะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาจากปัญหาที่มันรุมเร้า
.
จะต้องทำให้บทบาทของคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แสดงบทบาทมากขึ้น ก็จะทำให้ความไม่พอใจทางสังคมก็จะมีมากยิ่งขึ้น เพราะสังคมเห็นว่ารัฐบาลที่เป็นอยู่ไม่มีน้ำยา ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา คนที่ดำเนินการแก้ไขจริงๆกลายเป็นคุณทักษิณ ซึ่งเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดความโกลาหลในโครงสร้างการเมืองในรัฐบาล
.
ทุกอย่างก็จะมีการต่อรองกัน รัฐบาลเอง พรรคร่วมรัฐบาลเอง มีความจำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่ทุกอย่างก็จะเป็นการต่อรองผลประโยชน์เฉพาะหน้าทั้งสิ้น และจะเผยให้เห็นธาตุแท้ของพรรคร่วม ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ก็จะทำให้เห็นปรากฏการณ์อย่างนี้มากยิ่งขึ้น
.
เพราะฉะนั้นการเมืองบนท้องถนนจะเป็นทางออกหนึ่งที่บรรดากลุ่มคนที่เห็นต่าง พรรคการเมืองที่รู้สึกว่าการเมืองแบบนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบ จึงเร้าให้เกิดกระบวนการการเมืองบนท้องถนนได้ง่ายมากขึ้นหลังสงกรานต์
.
- ประเมินว่า "นายกฯอิ๊งค์" เอาอยู่หรือไม่ หลังจากที่ทำงานมาแล้ว กว่า ครึ่งปี เจอกับเรื่องการเมือง - ผ่านศึกอภิปรายฯ - เจอเหตุการณ์ใหญ่ภัยพิบัติ
.
อยู่สบายเลย เพราะมีอำนาจพิเศษเป็นแบ็กอัปหนุนหลังให้ โดยไม่สนใจแยแสความชอบธรรมทางการเมือง ใดๆ พูดง่ายๆคือรัฐบาลเส้นใหญ่ แต่ภายใต้แบ็กอัป หรือว่ามีภูมิคุ้มกันทางการเมืองที่มีอำนาจพิเศษหนุนหลัง ในรัฐบาลก็จะมีอำนาจต่อรองกันอย่างเข้มข้น เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์เฉพาะหน้า ของบรรดาพรรคร่วมต่างๆ ในการที่จะกอบโกย หรือแสวงหาผลประโยชน์ ระยะสั้นเพื่อเตรียมพร้อมไปสู่การเลือกตั้งในครั้งหน้า
.
ขณะที่ผู้คนในสังคมก็อาจจะผิดหวังกับพรรคเพื่อไทยมากที่สุด พรรคเพื่อไทยมาถึงจุดต่ำสุดของความล้มละลายทางการเมือง ไม่ว่าจะสื่อสารอย่างไร ไม่ว่าจะพยายามที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์อย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะมีบทบาท ทางการเมือง แน่นอนว่าจะเกิดความยุ่งยากวุ่นวายคือคุณทักษิณ มีความจำเป็นจะต้องทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อสมัยหน้า
.
แต่ภายใต้บรรยากาศโครงสร้างการเมืองแบบนี้ก็จะเกิดความยากลำบากต่อคุณทักษิณที่จะขับเคลื่อนต่อไปได้ แน่นอนว่าการเลือกตั้งปี 2570 จะเห็นปรากฏการณ์การทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจ หรือสืบทอดอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ เราอาจจะเห็นการทุจริตการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้
.
- การเมืองในสภาฯ จะต้องจับตาหรือไม่ เมื่อ ป.ป.ช.ระบุว่า "คดี44 สส.ก้าวไกล" ที่ลงชื่อแก้ม.112 ใกล้จะได้ข้อยุติแล้ว เท่ากับว่า จะเกิดปัญหาต่อพรรคประชาชน ตามมาทันที "ฝ่ายค้าน" จะหายไปจากสภาฯ   
.
ถ้ามองในทางการเมืองก็เป็นวิธีการหนึ่ง เพราะว่าภายใต้การสิ้นหวังที่มีกับรัฐบาลชุดนี้ ทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก มีพรรคการเมืองที่จะพอพึ่งหวังได้ คือพรรคประชาชน  แต่พอสมการอำนาจเป็นแบบนี้ 44 สส.อาจจะต้องถูกดำเนินการทั้งหมด หนักเบาต่างกัน แต่เพื่อที่จะทำให้พรรคที่ประชาชนหวังใจเอาไว้นั้นต้องลดบทบาทลงโดยปริยาย เพื่อที่จะทำให้พรรคที่ประชาชนรู้สึกผิดหวัง รัฐบาลสามารถสืบทอดอำนาจเอาไว้ได้
.
-บทบาทของคุณทักษิณ เองจะเข้มข้นมากขึ้นหรือไม่  ทั้งการเดินสายพบปะประชาชน ไปจนถึงการ "ต่อสาย" คุยกับ "แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล"
.
ผมคิดว่าจะเป็นบทบาทหลักเลย เพราะว่าพรรคเพื่อไทย วันนี้ล้มละลายความน่าเชื่อถือ แกนนำแต่ละคนของพรรคก็ไม่สามารถครองใจประชาชนได้เลย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯก็เสียโอกาสการที่จะแสดงบทบาทภาวะผู้นำ สุดท้ายเหลือเพียงคุณทักษิณคนเดียวที่จะเป็นแกนนนำหลักในการขับเคลื่อนพรรคทั้งหมด บทบาทของคุณทักษิณอยากจะลดบทบาท เพราะมีคนวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบเยอะ แต่ไม่มีทางเลือก มาก คุณทักษิณจึงต้องออกมาแสดงบทบาทการนำอย่างเข้มข้น ทั้งที่มีบทบาทในทางการเมือง และในด้านที่ไม่เป็นทางการก็จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นกลายเป็นคนที่นำพาพรรคเพื่อไทยอยู่คนเดียว ในการเมืองหลังจากนี้ไป
.
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่