กลางดึกคืนนั้น…
ถนนสายเล็กในซอยเปลี่ยวของกรุงเทพฯ มีเพียงแสงไฟสีส้มจากเสาไฟริมถนนสาดลงบนพื้นถนนราวกับม่านหมอกจาง ๆ กลืนทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ
วรรณภพยืนอยู่ใต้ไฟดวงหนึ่ง สูบบุหรี่เงียบ ๆ มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ขมวดคิ้วมองปลายเท้าตัวเองราวกับคิดอะไรอยู่
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากเงามืด
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีทึบ ใบหน้าครึ่งหนึ่งซ่อนอยู่ในเงาหมวก และเมื่อแสงกระทบตรงมุมหนึ่ง… เห็นได้ว่าเขาคือ “เอกภพ” อดีตนายตำรวจ ผู้กลายเป็นนักสืบเอกชน
เอกภพ
เสียงเรียบ ช้า
“คุณนัดผมมาดึกขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่เรื่องอยากสูบบุหรี่เป็นเพื่อนใช่ไหม”
วรรณภพ
ไม่ตอบในทันที ก่อนเป่าควันออกมาช้า ๆ
“คุณเคยทำคดีใหญ่ ๆ มาหลายคดี… เคยทำเรื่องที่… คุณเองก็ไม่แน่ใจว่ากำลังสืบอะไรอยู่หรือเปล่า?”
เอกภพ
“เกือบทุกคดี”
วรรณภพหัวเราะเบา ๆ เสียงฝืด
“งั้นคุณคงเหมาะกับงานนี้…”
เขาหยิบซองเอกสารบางอย่างออกมายื่นให้เอกภพ
ในนั้นมีสำเนาเอกสารมรดก แผนผังบ้านวรภักดิ์ บันทึกที่จดด้วยลายมือเก่า ๆ และภาพถ่ายเก่า ๆ บางใบที่ซีดจนเกือบจำใบหน้าไม่ได้
วรรณภพ
“ผมอยากให้คุณช่วยสืบ… สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบ้านของผมเอง”
เว้นวรรค
“มันเริ่มจากความฝัน… ความรู้สึกบางอย่างที่บอกผมว่ามีบางอย่างผิดปกติในบ้านนั้น—ไม่ใช่แค่เรื่องผี ไม่ใช่แค่ความทรงจำ… แต่มันคือการจัดฉากอะไรบางอย่าง”
เอกภพ
“จัดฉาก?”
วรรณภพ
“ใช่… มีบางคนโกหกอยู่ในบ้านนั้น และมันไม่ใช่การโกหกธรรมดา มันเป็นการสร้างภาพ สร้างตัวตนใหม่ สร้างเรื่องราวขึ้นมา… เพื่อให้ใครบางคนลืมเรื่องที่ไม่ควรถูกลืม”
เอกภพยังไม่พูดอะไร หยิบภาพถ่ายขึ้นมาดูช้า ๆ บางใบมีรูปอรสา บางใบเป็นภาพในอดีตของครอบครัววรภักดิ์
วรรณภพ
เสียงเคร่ง
“ผมกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรัก… แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอคือใครกันแน่ หรือว่าผมรู้จักเธอจริง ๆ ไหม”
เอกภพ
“คุณกำลังสงสัยว่าคู่หมั้นของตัวเองมีความลับ?”
วรรณภพ
“ผมไม่ได้แค่สงสัย ผมรู้… แต่ผมไม่มีหลักฐาน ไม่มีภาพชัด มีแต่ความรู้สึก… และเสียงกระซิบในบ้านที่ทำให้ผมนอนไม่หลับทุกคืน”
เอกภพ
“คุณอยากให้ผมหาความจริง… หรือแค่อยากให้ผมพิสูจน์ว่าคุณคิดไปเอง?”
วรรณภพ
“ผมอยากรู้ว่า… คนที่ผมกำลังจะสร้างชีวิตใหม่ไปด้วย มันคือของจริง หรือแค่เศษเงาของอดีตที่ใครบางคนยังฝังกลบไม่มิด”
เอกภพมองหน้าเขานิ่ง ๆ แล้วหยิบเอกสารทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุม
เอกภพ
“คุณรู้ไหมว่าถ้าความจริงมันดำกว่าที่คุณคิด… มันอาจจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นเลย”
วรรณภพไม่ตอบ แต่ดวงตาแข็งกร้าว
“ผมขอแค่ความจริง ไม่ใช่ความสบายใจ”
พอทั้งสองคนแยกย้าย เงาของเอกภพก็เดินหายไปในซอยมืด
และในขณะเดียวกัน…
ฉากเสริม: ห้องนอนของอรสาในบ้านวรภักดิ์
อรสานั่งอยู่หน้ากระจก สวมชุดนอนสีขาว ผมยาวสยายเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
เธอจ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก แล้วพูดกับตัวเองเบา ๆ
อรสา (พึมพำ)
“อีกไม่นาน… ทุกอย่างจะจบลงแล้ว วรรณภพ…”
มือเธอเอื้อมไปแตะสร้อยคอเส้นเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้คอเสื้อ
ใบหน้าเธอสงบ… แต่ในแววตากลับไม่ใช่ความสุขแบบว่าที่เจ้าสาว
มันคือบางอย่างที่คล้ายกับ… การรอให้หายนะเริ่มต้น
พิษสวาท อำพราง บทที่35 ใต้เงาความจริง
ถนนสายเล็กในซอยเปลี่ยวของกรุงเทพฯ มีเพียงแสงไฟสีส้มจากเสาไฟริมถนนสาดลงบนพื้นถนนราวกับม่านหมอกจาง ๆ กลืนทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ
วรรณภพยืนอยู่ใต้ไฟดวงหนึ่ง สูบบุหรี่เงียบ ๆ มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ขมวดคิ้วมองปลายเท้าตัวเองราวกับคิดอะไรอยู่
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากเงามืด
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีทึบ ใบหน้าครึ่งหนึ่งซ่อนอยู่ในเงาหมวก และเมื่อแสงกระทบตรงมุมหนึ่ง… เห็นได้ว่าเขาคือ “เอกภพ” อดีตนายตำรวจ ผู้กลายเป็นนักสืบเอกชน
เอกภพ
เสียงเรียบ ช้า
“คุณนัดผมมาดึกขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่เรื่องอยากสูบบุหรี่เป็นเพื่อนใช่ไหม”
วรรณภพ
ไม่ตอบในทันที ก่อนเป่าควันออกมาช้า ๆ
“คุณเคยทำคดีใหญ่ ๆ มาหลายคดี… เคยทำเรื่องที่… คุณเองก็ไม่แน่ใจว่ากำลังสืบอะไรอยู่หรือเปล่า?”
เอกภพ
“เกือบทุกคดี”
วรรณภพหัวเราะเบา ๆ เสียงฝืด
“งั้นคุณคงเหมาะกับงานนี้…”
เขาหยิบซองเอกสารบางอย่างออกมายื่นให้เอกภพ
ในนั้นมีสำเนาเอกสารมรดก แผนผังบ้านวรภักดิ์ บันทึกที่จดด้วยลายมือเก่า ๆ และภาพถ่ายเก่า ๆ บางใบที่ซีดจนเกือบจำใบหน้าไม่ได้
วรรณภพ
“ผมอยากให้คุณช่วยสืบ… สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบ้านของผมเอง”
เว้นวรรค
“มันเริ่มจากความฝัน… ความรู้สึกบางอย่างที่บอกผมว่ามีบางอย่างผิดปกติในบ้านนั้น—ไม่ใช่แค่เรื่องผี ไม่ใช่แค่ความทรงจำ… แต่มันคือการจัดฉากอะไรบางอย่าง”
เอกภพ
“จัดฉาก?”
วรรณภพ
“ใช่… มีบางคนโกหกอยู่ในบ้านนั้น และมันไม่ใช่การโกหกธรรมดา มันเป็นการสร้างภาพ สร้างตัวตนใหม่ สร้างเรื่องราวขึ้นมา… เพื่อให้ใครบางคนลืมเรื่องที่ไม่ควรถูกลืม”
เอกภพยังไม่พูดอะไร หยิบภาพถ่ายขึ้นมาดูช้า ๆ บางใบมีรูปอรสา บางใบเป็นภาพในอดีตของครอบครัววรภักดิ์
วรรณภพ
เสียงเคร่ง
“ผมกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรัก… แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอคือใครกันแน่ หรือว่าผมรู้จักเธอจริง ๆ ไหม”
เอกภพ
“คุณกำลังสงสัยว่าคู่หมั้นของตัวเองมีความลับ?”
วรรณภพ
“ผมไม่ได้แค่สงสัย ผมรู้… แต่ผมไม่มีหลักฐาน ไม่มีภาพชัด มีแต่ความรู้สึก… และเสียงกระซิบในบ้านที่ทำให้ผมนอนไม่หลับทุกคืน”
เอกภพ
“คุณอยากให้ผมหาความจริง… หรือแค่อยากให้ผมพิสูจน์ว่าคุณคิดไปเอง?”
วรรณภพ
“ผมอยากรู้ว่า… คนที่ผมกำลังจะสร้างชีวิตใหม่ไปด้วย มันคือของจริง หรือแค่เศษเงาของอดีตที่ใครบางคนยังฝังกลบไม่มิด”
เอกภพมองหน้าเขานิ่ง ๆ แล้วหยิบเอกสารทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุม
เอกภพ
“คุณรู้ไหมว่าถ้าความจริงมันดำกว่าที่คุณคิด… มันอาจจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นเลย”
วรรณภพไม่ตอบ แต่ดวงตาแข็งกร้าว
“ผมขอแค่ความจริง ไม่ใช่ความสบายใจ”
พอทั้งสองคนแยกย้าย เงาของเอกภพก็เดินหายไปในซอยมืด
และในขณะเดียวกัน…
ฉากเสริม: ห้องนอนของอรสาในบ้านวรภักดิ์
อรสานั่งอยู่หน้ากระจก สวมชุดนอนสีขาว ผมยาวสยายเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
เธอจ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก แล้วพูดกับตัวเองเบา ๆ
อรสา (พึมพำ)
“อีกไม่นาน… ทุกอย่างจะจบลงแล้ว วรรณภพ…”
มือเธอเอื้อมไปแตะสร้อยคอเส้นเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้คอเสื้อ
ใบหน้าเธอสงบ… แต่ในแววตากลับไม่ใช่ความสุขแบบว่าที่เจ้าสาว
มันคือบางอย่างที่คล้ายกับ… การรอให้หายนะเริ่มต้น