มะไฟ ผลไม้ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม อร่อยถูกใจใครหลายคน นอกจากรสชาติที่มีเอกลักษณ์แล้ว มะไฟยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย
มะไฟ (Burmese Grape) เป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนีเซีย แพร่หลายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินเดียและมาเลเซีย พบได้ทั่วไปในทุกพื้นที่ของประเทศไทย สำหรับชื่อท้องถิ่น ภาคใต้เรียก “ส้มไฟ” ส่วนชาวเพชรบูรณ์เรียก “หัมกัง” มะไฟจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลมีลักษณะทรงกลมเล็ก ออกเป็นพวง ผลอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ ผลแก่จะมีผิวเกลี้ยง เปลือกสีเหลืองครีม เนื้อเป็นพูเล็ก เนื้อฟูนุ่มฉ่ำน้ำ มีสีขาวขุ่นหรือสีชมพูตามสายพันธุ์ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายอย่าง นำมารับประทานเป็นผลไม้สด และทำเป็นเครื่องดื่มได้
สรรพคุณทางยา
1) ใบ
ช่วยแก้พิษฝี
ช่วยขับปัสสาวะ
ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ
ช่วยให้ชุ่มคอ แก้และบรรเทาอาการไอ
ช่วยแก้โรคหวัด แก้ไข้มาลาเรีย
ช่วยขับเสมหะและละลายเสมหะ
ช่วยรักษากลาก เกลื้อน และโรคเรื้อน
2) รากสดหรือรากแห้ง
แก้วัณโรค
ช่วยดับพิษร้อน
ช่วยแก้ฝีภายใน
ช่วยรักษาโรคเริม
ใช้แก้พิษตานซาง
ช่วยบรรเทาอาการไข้ที่มีอาการปวดข้อ ปวดเข่า และมีผื่นคล้ายลมพิษ หรือ “ไข้ประดง”
3) ผล
ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการท้องร่วง
ใช้เป็นยาช่วยย่อย รักษาอาการอาหารไม่ย่อย
4) เมล็ด
บรรเทาอาการปวดท้อง
5) เปลือก
ต้มใช้แก้โรคผิวหนัง แก้อาการผิวหนังอักเสบชนิดที่เป็นถุงน้ำและลอกออกมา
ประโยชน์
ผลของ มะไฟ เมื่อสุกแล้วสามารถนำมารับประทานสดและทำน้ำผลไม้ได้ มีวิตามินซีสูง ช่วยสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณ เปล่งปลั่ง สดใส ผลอ่อนของมะไฟนำไป ปรุงอาหาร สตูว์ ดอง และ หมักทำไวน์
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจสปริงกรีน อีโวลูชั่น
รู้จักกับ "มะไฟ" ผลไม้วิตามินซีสูง