เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://mgronline.com/local/detail/9680000036334
จากกรณีที่ชาวบ้านซอย 13 สาย 11 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้ร้องเรียนเรื่องปัญหาความเดือดร้อนจากนายทุนถมที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน หรือโกดังเก็บสินค้า บนพื้นที่ประมาณ 24 ไร่ สูงเกินหลังคาบ้านสองชั้น ซ้ำยังขุดดินปรับพื้นที่ลึกลงไปอีกกว่า 10 เมตร จนหวั่นว่ากำแพงบ้านที่อยู่ติดพื้นที่ดังกล่าวจะพังถล่มลงมา
วันนี้ ( 17 เม.ย.) นายกฤติน มีลาภ ปลัดเทศบาลเมืองมะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้มอบหมายให้ นายชาตรี คำจำปี นิติกร เทศบาลเมืองมะขามคู่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา สว.(สอบสวน) สภ.นิคมพัฒนา เพื่อให้ดำเนินกับนายทุนเจ้าของที่ดินที่ดังกล่าว หลังตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับการอนุญาตให้ถมดินสร้างความเดือดร้อนประชาชน
โดยพื้นที่มีการถมดินสูง มีรายงานว่าเป็นของนายทุนชาวไทย โดยมีพื้นที่ประมาณ 50ไร่ และแบ่งถมดินสูงไปแล้ว 25 ไร่ คาดว่าเป็นการดำเนินงานเพื่อรองรับการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าค่ายดังยี่ห้อหนึ่งของจีน ซึ่งมีโรงงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นิคมอุตสาหกรรมที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ
อ่านข่าวฉบับเต็มที่ลิ้งค์
ข้างต้น
แจ้งจับนายทุนถมดินสูงมิดหลังคาบ้าน 2 ชั้น ที่แท้คนไทยเตรียมทำ รง.ผลิตแบตเตอรี่ป้อนรถไฟฟ้าจีน
https://mgronline.com/local/detail/9680000036334
จากกรณีที่ชาวบ้านซอย 13 สาย 11 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้ร้องเรียนเรื่องปัญหาความเดือดร้อนจากนายทุนถมที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน หรือโกดังเก็บสินค้า บนพื้นที่ประมาณ 24 ไร่ สูงเกินหลังคาบ้านสองชั้น ซ้ำยังขุดดินปรับพื้นที่ลึกลงไปอีกกว่า 10 เมตร จนหวั่นว่ากำแพงบ้านที่อยู่ติดพื้นที่ดังกล่าวจะพังถล่มลงมา
วันนี้ ( 17 เม.ย.) นายกฤติน มีลาภ ปลัดเทศบาลเมืองมะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้มอบหมายให้ นายชาตรี คำจำปี นิติกร เทศบาลเมืองมะขามคู่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา สว.(สอบสวน) สภ.นิคมพัฒนา เพื่อให้ดำเนินกับนายทุนเจ้าของที่ดินที่ดังกล่าว หลังตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับการอนุญาตให้ถมดินสร้างความเดือดร้อนประชาชน
โดยพื้นที่มีการถมดินสูง มีรายงานว่าเป็นของนายทุนชาวไทย โดยมีพื้นที่ประมาณ 50ไร่ และแบ่งถมดินสูงไปแล้ว 25 ไร่ คาดว่าเป็นการดำเนินงานเพื่อรองรับการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าค่ายดังยี่ห้อหนึ่งของจีน ซึ่งมีโรงงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นิคมอุตสาหกรรมที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ
อ่านข่าวฉบับเต็มที่ลิ้งค์ข้างต้น