สี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงพนมเปญในวันนี้ (17 เม.ย.) ปิดท้ายภารกิจเยือน 3 ประเทศในภูมิภาค ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัฐบาลทรัมป์เตรียมผลักดันประเทศคู่ค้าให้ร่วมมือกันสกัดอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีน ก่อนหน้านั้น ผู้นำจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรัฐพิธีที่มาเลเซีย โดยเน้นย้ำความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประเทศในภูมิภาค ซึ่งสะท้อนผ่านการลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจหลายฉบับระหว่างจีนกับมาเลเซีย
“จีนและมาเลเซียจะยืนหยัดร่วมกับประเทศในภูมิภาคเพื่อต่อสู้กับกระแสความขัดแย้งเชิงกลุ่มและการเผชิญหน้าทางภูมิรัฐศาสตร์” สี จิ้นผิงกล่าวที่กรุงปูตราจายา “เราจะร่วมกันพิทักษ์อนาคตอันสดใสของครอบครัวเอเชียของเรา”
การเยือนครั้งนี้ยังได้รับแรงเสริมจากแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนกับมาเลเซีย ซึ่งตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและบุคลากร รวมถึงการเดินหน้าแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า 5 ปี และการจัดตั้ง “ประชาคมยุทธศาสตร์ระดับสูงจีน-มาเลเซีย”
ในวันเดียวกัน สี จิ้นผิงยังเผยแพร่บทความผ่านสื่อกัมพูชาก่อนเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านร่วมกันต่อต้านลัทธิ Hegemony และอิทธิพลภายนอกที่พยายามแทรกแซงกิจการภายใน “เราต้องร่วมกันปฏิเสธการเมืองเชิงอำนาจและการแทรกแซงจากภายนอกที่บ่อนทำลายความมั่นคงของเรา” สีระบุ
คำกล่าวของเขามีขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น โดย Bloomberg รายงานว่า วอชิงตันเตรียมโน้มน้าวให้ประเทศพันธมิตรจำกัดบทบาทของจีนในฐานะโรงงานของโลก อาจรวมถึงการเรียกเก็บ “ภาษีทางอ้อม” (secondary tariffs) สำหรับสินค้าจากจีน เพื่อแลกกับการลดภาษีสหรัฐฯ ให้แก่พันธมิตรเหล่านั้น
ทั้งสองมหาอำนาจกำลังใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจอย่างหนัก หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 145% และจีนตอบโต้ด้วยภาษีตอบโต้สูงถึง 125% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ
การที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศแห่งแรกของสีในปีนี้ บ่งชี้ถึงความพยายามในการรักษาอิทธิพลของจีนในภูมิภาค ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายประเทศต้องเดินบนเส้นบางๆ ระหว่างสองขั้วมหาอำนาจ แม้ทรัมป์จะให้เวลาผ่อนผัน 90 วันก่อนมาตรการภาษีใหม่มีผลเต็มรูปแบบ
สัญญาณของความสำเร็จเบื้องต้นปรากฏผ่านถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศจีน ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ยกย่องสี จิ้นผิงว่าเป็น “ผู้นำที่เปี่ยมวิสัยทัศน์” และแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน
นายอันวาร์ยังกล่าวว่า ประเทศสมาชิกอาเซียน “จะไม่สนับสนุนมาตรการภาษีฝ่ายเดียวใดๆ” ซึ่งสะท้อนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานของอาเซียนในปีนี้
การเยือนอาเซียนของสีจิ้นผิงเริ่มต้นเมื่อวันจันทร์ที่เวียดนาม ซึ่งผู้นำเวียดนามให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจถึง 45 ฉบับ แถลงการณ์ร่วมระบุว่า ทั้งสองประเทศไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการใดๆ ที่อาจกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค
อ่านข่าวต้นฉบับ:
เว็บไซต์:www.amarintv.com
'สีจิ้นผิง' เสนอแนวคิด "ครอบครัวเอเชีย" รวมพลังต้านอำนาจทรัมป์
สี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงพนมเปญในวันนี้ (17 เม.ย.) ปิดท้ายภารกิจเยือน 3 ประเทศในภูมิภาค ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัฐบาลทรัมป์เตรียมผลักดันประเทศคู่ค้าให้ร่วมมือกันสกัดอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีน ก่อนหน้านั้น ผู้นำจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรัฐพิธีที่มาเลเซีย โดยเน้นย้ำความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประเทศในภูมิภาค ซึ่งสะท้อนผ่านการลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจหลายฉบับระหว่างจีนกับมาเลเซีย