ผมกับแฟนทำงานที่เดียวกัน ลำพังตัวผมเป็นเด็กจบใหม่มาจากครอบครัวฐานะปานกลาง เงินเดือน 40,000 แฟนผมเงินเดือนไม่ห่างกันมากแต่ทางบ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ เรียกได้ว่าค่อนข้างรวยเลย เราคบกันมา 1 ปี เวลามีปัญหาอะไรก็ทำความเข้าใจและมีข้อตกลงร่วมกันเสมอ

ทีนี้ปัญหามันเกิดตรงที่บ้านแฟนค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณมาก เรื่องมันเริ่มหลังจากที่เรากับแฟนไปดินเนอร์ร้านหรูๆเมื่อไม่กี่เดือนก่อนแล้วแม่แฟนมารู้ทีหลังว่าผมไม่ได้เป็นคนเลี้ยง (ซึ่งผมกับแฟนคุยกันแล้วว่าจะหารกัน) โดยแม่แฟนบอกว่า "เดทแรกทำไมผู้ชายถึงไม่เลี้ยง" หลังจากนั้นแม่แฟนก็จะคอยตามรังควานชีวิตคู่ของเราตลอด คอยโทรมาให้แฟนผมรายงานว่าไปทำอะไรมาบ้างวันนี้ ถ้ามีเหตุให้ใช้จ่ายแล้วผมเลี้ยงมั้ย? อีกทั้งยังคอยเสี้ยมให้แฟนผมมองหาผู้ชายรวยๆคนอื่นที่สามารถเปย์ได้ นอกจากนี้แม่แฟนยังพยายามเซ้าซี้ถามเรื่องบนเตียงของพวกเรา พอรู้ว่าผมกับแฟนเคยมีอะไรกันแล้วเลยยิ่งไปกันใหญ่ มากดดันให้ผมทำเรื่องหมั้นภายในปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าผมยังไม่พร้อม

อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อนๆบางส่วนอาจจะคิดว่ารายได้ผมก็เยอะทำไมถึงไม่เลี้ยงหรือใช้เงินแก้ปัญหาให้มันจบๆไป? ประเด็นมันคือตรงนี้นี่แหละครับ ผมเองก็เลี้ยงแฟนบ้างเล็กๆน้อยๆหรือซื้อของขวัญให้เป็นปกติตามประสาแฟนอยู่แล้ว แต่ผมก็มีภาระค่าใช้จ่ายอีกมากที่มัดตัว เช่น ผ่อนรถ ผ่อนคอนโด ค่าเทอมปริญญาโท และแบ่งสัดส่วนการออม เลยอยากให้เรื่องหมั้นหรือแต่งงานค่อยมาจัดการหลังจบโท

โดยรวมผมกับแฟนรักกันดี เราเข้าใจกันและมีเวลาให้กันเสมอ ผมตั้งใจทำทุกๆวันให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตตัวเองและชีวิตคู่ของผมกับแฟน แต่แม่แฟนก็คอยโทรมาเสี้ยมแฟนอยู่ทุกวันให้เลิกกับผม คนแบบผมมันไม่แมนพอ อยู่ด้วยแล้วจะลำบาก ว่าผมสารพัด เกิดมาทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีใครดูถูกผมขนาดนี้มาก่อน

เจอแบบนี้เข้าไปผมก็ท้อเหมือนกัน จริงๆมีเรื่องยิบย่อยที่มาคอยบั่นทอนกำลังใจจากครอบครัวเขาอีกมาก ผมไม่รู้เลยว่าควรไปต่อกับเขาดีมั้ย ไม่รู้ใจแฟนจะเริ่มโอนเอนเมื่อไหร่ เพื่อนๆคิดว่าไงครับ?