คำถาม?
ทำไมเราต้องใช้คำยากที่เด็กไม่เข้าใจแทนที่จะใช้คำที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่เด็กสามารถเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายกว่า?
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?
หลายครั้งที่เราเห็นเด็กต้องท่องจำคำศัพท์ที่คนในอดีตบัญญัติไว้โดยไม่ดูถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
คำเหล่านี้ทำให้เด็กจำได้แค่ตอนสอบ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง ๆ ตัวอย่างเช่น:
อนุกรม → เด็กต้องจำว่าเป็น “ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ” แต่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันได้
ปฏิบัพ → เด็กไม่เข้าใจการเคลื่อนที่ของคลื่นในสื่อ เช่น น้ำหรืออากาศ
พลังงานศักย์ → พลังงานที่ซ่อนอยู่ แต่เด็กไม่สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นอะไร
พลังงานจลน์ → เด็กไม่เห็นภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุในชีวิตจริง เช่น การวิ่งหรือการหมุน
โมเมนตัม → เด็กไม่เชื่อมโยงการเคลื่อนที่ของรถยนต์หรือคนกับคำว่าโมเมนตัม
ฟังก์ชัน → เด็กไม่เข้าใจการนำไปใช้จริงในชีวิต เช่น คำนวณราคา หรือระยะทาง
พหุนาม → เด็กไม่สามารถเชื่อมโยงกับการคำนวณพื้นที่หรือปริมาตรในชีวิตจริง
พอใช้คำแบบนี้ในห้องเรียน เด็กก็ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงหรือเข้าใจแนวคิดของวิชาเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง
แล้วถ้าเราเปลี่ยนคำเหล่านี้ให้เข้าใจง่าย ๆ จะเป็นยังไง?
อนุกรม → ลำดับตัวเลข
บัพ → การสะท้อนหรือการเปลี่ยนแปลง
ปฏิบัพ → การเคลื่อนที่ของคลื่น
พลังงานศักย์ → พลังงานที่เก็บไว้
พลังงานจลน์ → พลังงานจากการเคลื่อนที่
แค่แปลคำให้เข้าใจง่าย เด็กก็จำได้และสามารถนำไปใช้ได้จริง!
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?
[Push] เด็กไม่ได้โง่ แค่เราไม่เคยแปลภาษาวิชาการให้เข้าถึงง่ายๆ
ทำไมเราต้องใช้คำยากที่เด็กไม่เข้าใจแทนที่จะใช้คำที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่เด็กสามารถเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายกว่า?
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?
หลายครั้งที่เราเห็นเด็กต้องท่องจำคำศัพท์ที่คนในอดีตบัญญัติไว้โดยไม่ดูถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
คำเหล่านี้ทำให้เด็กจำได้แค่ตอนสอบ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง ๆ ตัวอย่างเช่น:
อนุกรม → เด็กต้องจำว่าเป็น “ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ” แต่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันได้
ปฏิบัพ → เด็กไม่เข้าใจการเคลื่อนที่ของคลื่นในสื่อ เช่น น้ำหรืออากาศ
พลังงานศักย์ → พลังงานที่ซ่อนอยู่ แต่เด็กไม่สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นอะไร
พลังงานจลน์ → เด็กไม่เห็นภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุในชีวิตจริง เช่น การวิ่งหรือการหมุน
โมเมนตัม → เด็กไม่เชื่อมโยงการเคลื่อนที่ของรถยนต์หรือคนกับคำว่าโมเมนตัม
ฟังก์ชัน → เด็กไม่เข้าใจการนำไปใช้จริงในชีวิต เช่น คำนวณราคา หรือระยะทาง
พหุนาม → เด็กไม่สามารถเชื่อมโยงกับการคำนวณพื้นที่หรือปริมาตรในชีวิตจริง
พอใช้คำแบบนี้ในห้องเรียน เด็กก็ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงหรือเข้าใจแนวคิดของวิชาเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง
แล้วถ้าเราเปลี่ยนคำเหล่านี้ให้เข้าใจง่าย ๆ จะเป็นยังไง?
อนุกรม → ลำดับตัวเลข
บัพ → การสะท้อนหรือการเปลี่ยนแปลง
ปฏิบัพ → การเคลื่อนที่ของคลื่น
พลังงานศักย์ → พลังงานที่เก็บไว้
พลังงานจลน์ → พลังงานจากการเคลื่อนที่
แค่แปลคำให้เข้าใจง่าย เด็กก็จำได้และสามารถนำไปใช้ได้จริง!
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?
ถึงเวลาหรือยังที่กระทรวจจะเปลี่ยนวิธีการสอนและใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกว่านี้?