สวัสดีค่ะ
มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าเล่าเท่าไหร่ แต่แค่อยากระบายออกมาให้ใครสักคนฟัง
เรื่องมีอยู่ว่า สมัยตอนเรียนประถมช่วงประมาณ ป.3-ป.4 โรงเรียนมีการเรียนการสอนธรรมะ และนั่นทำให้เราได้เจอกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านเป็นคนใจดี ใส่ใจนักเรียน และให้ความรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่แรกเจอ เราเริ่มรู้สึกชื่นชมท่านจากตรงนั้น
ช่วงนั้นเราก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจเรื่อยมา จนถึงตอนอยู่ ป.6 เราจึงตัดสินใจบอกความรู้สึกออกไป (เป็นความรู้สึกแบบเคารพ ชื่นชม ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะคะ) ท่านไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา แต่ยังคงปฏิบัติกับเราเหมือนเดิม เหมือนเป็นพี่ชายที่คอยดูแลช่วยเหลือ
ช่วงที่เราลำบากเรื่องเงิน ท่านก็เคยให้ความช่วยเหลือ ดูแลเราเหมือนคนในครอบครัว เราสนิทกันมาก เล่นกันแบบเด็ก ๆ ไม่มีอะไรเกินเลย
พอเราโตขึ้น ก็ได้มีโอกาสกลับไปหาท่านอีกครั้ง ทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็หายไป โดยไม่มีคำบอกกล่าว ไม่มีคำลา เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้จะตามหาท่านยังไงเลย…
เเละนี้คือสิ่งที่อยากบอก
ถึงพระอาจารย์
ได้เจอกันอีกสักทีนะคะ… หลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ปีหรือสองปีเห็นจะได้ หนูเองก็ไม่คิดเลยว่าจะยังได้มีโอกาสพบกันอีก
หนูเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ในใจมาตลอด เพราะจริง ๆ แล้ว หนูยังอยากเจอพระอาจารย์ หนูยังจำได้ดีถึงตอนที่พระอาจารย์เคยช่วยเหลือเรื่องเงินไว้ มาวันนี้ หนูตั้งใจมากที่จะนำมันมาคืน ไม่ใช่แค่เพื่อใช้หนี้ แต่เพื่อให้หัวใจของหนูได้เบาลงจากความรู้สึกติดค้างทั้งหมดที่มี
อีกเหตุผลหนึ่ง…หนูอยากเจอพระอาจารย์เพราะหนูคิดถึง หนูอยากได้คุย อยากมีใครสักคนที่รับฟังหนูโดยไม่ตัดสิน หนูเหนื่อยมากกับการเผชิญอะไรคนเดียวในชีวิต หนูแค่รู้สึกว่าพระอาจารย์เป็นคนหนึ่งที่เคยอยู่ข้าง ๆ โดยไม่เคยตำหนิ ไม่เคยละเลย และนั่นคือความรู้สึกดี ๆ ที่หนูไม่เคยลืม
หนูรู้ว่าความรู้สึกของหนูอาจจะเป็นฝ่ายเดียว หนูแค่…ผูกพัน และอยากให้พระอาจารย์รับหนูเป็นน้องสาว เป็นญาติคนหนึ่งที่หนูจะได้ดูแล ได้ห่วงใย ได้มีพี่ชายที่ดีคนหนึ่งในชีวิต
แม้ว่าหนูจะคาดหวังอยู่ลึก ๆ แต่หนูก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร หนูเข้าใจทุกอย่างดีค่ะ และต่อจากนี้ หนูคงจะไม่รบกวนอีก ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา… ขอบคุณที่เคยอยู่ตรงนั้นให้หนูมีแรงใจ
คิดถึงเสมอค่ะ
— หนู
เเบบชอบพระมาเกิน12ปี (เเต่ไม่ใช่เเฟน)
มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าเล่าเท่าไหร่ แต่แค่อยากระบายออกมาให้ใครสักคนฟัง
เรื่องมีอยู่ว่า สมัยตอนเรียนประถมช่วงประมาณ ป.3-ป.4 โรงเรียนมีการเรียนการสอนธรรมะ และนั่นทำให้เราได้เจอกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านเป็นคนใจดี ใส่ใจนักเรียน และให้ความรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่แรกเจอ เราเริ่มรู้สึกชื่นชมท่านจากตรงนั้น
ช่วงนั้นเราก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจเรื่อยมา จนถึงตอนอยู่ ป.6 เราจึงตัดสินใจบอกความรู้สึกออกไป (เป็นความรู้สึกแบบเคารพ ชื่นชม ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะคะ) ท่านไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา แต่ยังคงปฏิบัติกับเราเหมือนเดิม เหมือนเป็นพี่ชายที่คอยดูแลช่วยเหลือ
ช่วงที่เราลำบากเรื่องเงิน ท่านก็เคยให้ความช่วยเหลือ ดูแลเราเหมือนคนในครอบครัว เราสนิทกันมาก เล่นกันแบบเด็ก ๆ ไม่มีอะไรเกินเลย
พอเราโตขึ้น ก็ได้มีโอกาสกลับไปหาท่านอีกครั้ง ทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็หายไป โดยไม่มีคำบอกกล่าว ไม่มีคำลา เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้จะตามหาท่านยังไงเลย…
เเละนี้คือสิ่งที่อยากบอก
ถึงพระอาจารย์
ได้เจอกันอีกสักทีนะคะ… หลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ปีหรือสองปีเห็นจะได้ หนูเองก็ไม่คิดเลยว่าจะยังได้มีโอกาสพบกันอีก
หนูเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ในใจมาตลอด เพราะจริง ๆ แล้ว หนูยังอยากเจอพระอาจารย์ หนูยังจำได้ดีถึงตอนที่พระอาจารย์เคยช่วยเหลือเรื่องเงินไว้ มาวันนี้ หนูตั้งใจมากที่จะนำมันมาคืน ไม่ใช่แค่เพื่อใช้หนี้ แต่เพื่อให้หัวใจของหนูได้เบาลงจากความรู้สึกติดค้างทั้งหมดที่มี
อีกเหตุผลหนึ่ง…หนูอยากเจอพระอาจารย์เพราะหนูคิดถึง หนูอยากได้คุย อยากมีใครสักคนที่รับฟังหนูโดยไม่ตัดสิน หนูเหนื่อยมากกับการเผชิญอะไรคนเดียวในชีวิต หนูแค่รู้สึกว่าพระอาจารย์เป็นคนหนึ่งที่เคยอยู่ข้าง ๆ โดยไม่เคยตำหนิ ไม่เคยละเลย และนั่นคือความรู้สึกดี ๆ ที่หนูไม่เคยลืม
หนูรู้ว่าความรู้สึกของหนูอาจจะเป็นฝ่ายเดียว หนูแค่…ผูกพัน และอยากให้พระอาจารย์รับหนูเป็นน้องสาว เป็นญาติคนหนึ่งที่หนูจะได้ดูแล ได้ห่วงใย ได้มีพี่ชายที่ดีคนหนึ่งในชีวิต
แม้ว่าหนูจะคาดหวังอยู่ลึก ๆ แต่หนูก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร หนูเข้าใจทุกอย่างดีค่ะ และต่อจากนี้ หนูคงจะไม่รบกวนอีก ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา… ขอบคุณที่เคยอยู่ตรงนั้นให้หนูมีแรงใจ
คิดถึงเสมอค่ะ
— หนู