ลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนา และทางเศรษฐกิจ ที่มีผลต่อสังคมไทย "พหุนิยมทางศาสนา"

คนไทยทุกๆคนจะต้องฟังคลิปนี้จนจบ จึงจะเข้าใจว่าทำไม President Trump ของประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีความต้องการที่จะทำลายอุดมการณ์ของจีนคอมมิวนิสต์ ทางเศรษฐกิจ และพยายามกำจัดการคอรัปชั่นหรือการโกงกินในวงการปกครองของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเด็ดขาด จนทำให้คนทั่วโลก มอง President Trump เป็นคนบ้าและบูลลี่ต่อประเทศจีนอย่างไม่ม่ีการลดลาวาศอก  

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนา

คอมมิวนิสต์ทางศาสนาเป็นรูปแบบหนึ่งของ ลัทธิ คอมมิวนิสต์ที่รวมเอา หลักการ ทางศาสนา ไว้ด้วยกัน นักวิชาการได้ใช้คำนี้เพื่ออธิบาย ขบวนการ ทางสังคมหรือศาสนา ต่างๆ ตลอดประวัติศาสตร์ที่สนับสนุน ความเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินร่วมกัน มีความคล้ายคลึงกันทางประวัติศาสตร์และอุดมการณ์มากมายระหว่างคอมมิวนิสต์ทางศาสนาและเทววิทยา แห่งการปลดปล่อย

ภาพรวม
คำว่าคอมมิวนิสต์ทางศาสนาถูกใช้เพื่ออธิบายการเคลื่อนไหวทางสังคมหรือทางศาสนาที่หลากหลายตลอดประวัติศาสตร์ "ชุมชนคริสเตียน ยุคแรก ในเยรูซาเล็ม " ได้รับการอธิบายว่าเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติตามลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนา[1] [3]คำสอนของMazdak นักปฏิรูป สังคมนิยมชาวเปอร์เซียยุคแรกก็ถูกเรียกว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ยุคแรกเช่นกัน[ ]ตามที่ Ben Fowkes และ Bulent Gokay กล่าว Bolshevik Mikhail Skachko กล่าวในการประชุมของประชาชนแห่งตะวันออกว่า "ศาสนาอิสลามมีรากฐานมาจากหลักการของลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนา ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดสามารถเป็นทาสของผู้อื่นได้ และที่ดินผืนเดียวก็ไม่สามารถเป็นของส่วนตัวได้" 

คำนิยาม
TM Browning ได้อธิบายลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนาว่าเป็นรูปแบบของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ "เกิดขึ้นโดยตรงจากหลักการที่เป็นพื้นฐานของศาสนา"  และ Hans Hillerbrand ได้ให้คำจำกัดความของลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนาว่าเป็นขบวนการทางศาสนาที่สนับสนุน "การเป็นเจ้าของสินค้าร่วมกันและการเพิกถอนทรัพย์สินส่วนตัวไปพร้อมกัน"  Browning และ Hillerbrand ได้แยกลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนาออกจากลัทธิคอมมิวนิสต์ทางการเมือง เช่นเดียวกับสังคมนิยมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ Hillerbrand ได้เปรียบเทียบลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนากับลัทธิมาร์กซ์ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นอุดมการณ์ที่เรียกร้องให้กำจัดศาสนา  Donald Drew Egbert และ Stow Persons โต้แย้งว่า "[ตามลำดับเวลา ลัทธิคอมมิวนิสต์ทางศาสนามักจะมาอยู่ก่อนลัทธิคอมมิวนิสต์ทาง โลก"  นักวิชาการคนอื่นๆ แนะนำว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ทางการเมือง แบบดั้งเดิมหรือลัทธิมาร์กซ์เป็น ศาสนาประเภทหนึ่งมาโดยตลอด


ระบบ “คอมมิวนิสต์” ในเวอร์ชันจีน : 12 คุณลักษณะเด่นและจุดอ่อน
05 ม.ค. 2564 | 23:54 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ม.ค. 2564 | 00:22 น.
ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีนได้เขียนบทความเรื่อง ระบบ “คอมมิวนิสต์”ในเวอร์ชันจีน : 12 คุณลักษณะเด่น และจุดอ่อน ความดังนี้
ในปีนี้ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (The Communist Party of China : CPC) ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาครบ 100 ปี และกุมบังเหียนนำพาประเทศจีนที่เคยเป็นประเทศยากจนล้าหลังให้สามารถฝ่าฝันวิกฤติต่าง ๆ จนผงาดขึ้นเป็นชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้อีกครั้งได้อย่างไร ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีนจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้วิเคราะห์สรุป 12 คุณลักษณะเด่นและจุดอ่อนของระบบ“คอมมิวนิสต์”ในเวอร์ชันจีน ไว้ดังนี้

ข้อแรก พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่หมกมุ่นยึดติดอุดมการณ์ ไม่ใช่พรรคลัทธินิยมแต่เน้นปฏิบัตินิยม จึงมีการปรับประยุกต์นำระบบกลไกตลาดมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยที่ระบอบการเมืองยังคงเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ เพื่อเน้นรักษาเสถียรภาพทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

ข้อสอง พรรคคอมมิวนิสต์จีนพัฒนา “โมเดลของจีนเอง” ไม่ลอกตำราฝรั่งจนหน้ามืดตามัว แต่นำแนวคิดทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกมาปรับประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมและต่อยอด จนสามารถพัฒนาเป็นระบอบสังคมนิยมอัตลักษณ์จีน ที่เรียกว่า Socialism with Chinese Characteristics

ข้อสาม พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นการทดลองแบบค่อยเป็นค่อยไป (Gradualism) เน้นการดำเนินยุทธศาสตร์แบบไม่ผลีผลาม ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นทดลองทำเป็นขั้นเป็นตอน  หากทำแล้วได้ผล ก็ค่อยขยายผล ถ้าไม่สำเร็จก็จะหยุดทบทวนถอดบทเรียน ก่อนจะปรับแก้ไขเพื่อเดินหน้าต่อ  เช่น ในยุคเติ้งเสี่ยวผิงมีการทดลองเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 4 เขตแรกเพื่อทดลองนำกลไกตลาดมาใช้ เมื่อได้ผลแล้วค่อยขยายผลออกไปในพื้นที่อื่น ๆ จนครอบคลุมทั่วประเทศจีนหรือในยุคสีจิ้นผิง ก็มีการทดลองใช้เงิน Digital Yuan ใน 4 เมืองสำคัญ ก่อนที่จะขยายไปทดลองใช้ในอีก 28 กว่าเมืองในมณฑลต่าง ๆ ต่อไป

ข้อสี่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นปรับ “ดิสรัป”ตัวเองให้ทันยุคสมัยอย่างต่อเนื่องและเน้น R&D เช่น  มีการปรับประยุกต์นำเทคโนโลยีมาจัดระเบียบสังคมของจีน เพื่อปรับพฤติกรรมทางสังคมที่ไม่เหมาะสมของคนจีนบางกลุ่มโดยการตัดคะแนน/ให้คะแนน “เครดิตทางสังคม” และลงโทษโดยใช้มาตรการ Social Sanctions/Rewards ภายใต้ระบบ Social Credit System ที่ถูกพูดถึงกันมากในขณะนี้

ข้อห้า พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ทำตัวเป็นนกกระจอกเทศที่เอาหัวมุดดินหนีปัญหา แต่จะยอมรับว่า ยังคงมีปัญหาและเน้นการวางแผนล่วงหน้าในการเตรียมรับมือกับปัญหา เช่น  ยอมรับว่า ยังคงมีปัญหาความยากจนในจีน และประกาศทำสงครามกับความยากจนให้หมดสิ้นไปภายในปี 2020

ข้อหก พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ คิดใหญ่มองไกล มองชาติไปข้างหน้ามีความแน่วแน่และต่อเนื่อง จีนจึงมียุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจน เช่น ยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) ที่ผลักดันมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงวันนี้มีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าร่วม BRI กว่า 70 ประเทศ มีการวิเคราะห์ว่า จีนจึงจะครองโลกแบบเนียน ๆ ด้วย BRI

ข้อเจ็ด พรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักดีว่า การดำรงอยู่ของพรรคคอมมิวนิสต์ต้องมาจากการสร้างความชอบธรรมจากผลงานที่จับต้องได้ จึงเน้น“รับฟัง” ข้อกังวลของประชาชนและแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชน เช่น ตระหนักดีว่า ปัญหาคอรัปชั่นจะทำให้ประชาชนไม่พอใจและอาจจะเป็นปมเงื่อนไขให้มีคนจีนออกมาประท้วงรัฐบาล ผู้นำจีนในยุคสีจิ้นผิงจึงเน้นปราบคอรัปชั่นอย่างจริงจัง และเน้นรับใช้ประชาชน ประชาชนต้องมาก่อน (Renmin Di Yi)

ข้อแปด พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นปลูกฝังให้คนจีนภูมิใจในชาติและรักชาติยิ่งชีพ เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เกิดความรักและสามัคคีของคนในชาติ ทั้งนี้ คนจีนมีทัศนะที่เชื่อในความยิ่งใหญ่ของจีนว่า เป็นศูนย์กลางของโลก (sino-centric) ดังนั้น ในยุคสีจิ้นผิงเน้นปลูกฝังการ “ฟื้นฟูชาติ” เพื่อให้จีนกลับมาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้อีกครั้งหนึ่ง

ข้อเก้า พรรคคอมมิวนิสต์จีนถอดบทเรียนความผิดพลาดในอดีต ล้มแล้วต้องลุกให้ไว และไม่ทำผิดซ้ำอีก เช่น กรณีประสบการณ์ความผิดพลาดจากเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ทำให้ทางการจีนระมัดระวังไม่ใช้ความรุนแรงในการจัดการกับการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง
ข้อสิบ พรรคคอมมิวนิสต์จีนจุดประกายให้คนในชาติมี “ความฝัน” ร่วมกัน การมี“ความฝันของจีน” (Zhong Guo Meng) ใน 2 วาระสำคัญ คือ (1) วาระครบรอบ 100 ปีของการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2021 ประเทศจีนต้องบรรลุเป้าหมาย “สังคมเสี่ยวคัง” พออยู่พอกินถ้วนหน้า และ (2) วาระครบรอบ 100 ของการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2049 ต้องบรรลุเป้าหมายเป็นประเทศสังคมนิยมที่แข็งแกร่ง ทันสมัย ร่ำรวย มีอารยธรรม ปรองดองและความสวยงาม และเป็นประเทศทรงอิทธิพลของโลก เพื่อฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของชนชาติจีนให้กลับมายิ่งใหญ่ในระดับโลกอีกครั้ง

ข้อสิบเอ็ด พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นการแข่งขันภาคเอกชนและเปิดรับแรงกดดันจากภายนอกให้เอกชนจีนต้องตื่นตัวและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเพื่อเอาชนะ  เช่น การเข้าเป็นสมาชิก WTO และเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทจีนต้องปรับตัวสู้กับต่างชาติ หรือการเปิดให้บริษัท Tesla เข้ามาลงทุนในจีนเพื่อให้บริษัทรถยนต์ EV ในจีนต้องตื่นตัว พัฒนาตัวเองปรับตัวให้รอดจากการแข่งขันกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง/มีเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Tesla รวมทั้งการปล่อยให้เอกชนจีนแข่งขันกันเองอย่างเข้มข้น เช่น การแข่งขันระหว่างเครือ Alibaba กับเครือ Tencent

ข้อสิบสอง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นความเด็ดขาดในการกลั่นกรองสื่อ/ปิดกั้นบางสื่อโดยเฉพาะการผิดกั้นสื่อโซเชียลมีเดียจากต่างประเทศ เช่น Facebook Twitter และ YouTube ในประเด็นนี้มีหลายมุมมอง มีทั้งนักวิชาการที่วิเคราะห์ว่า จีนทำเช่นนี้เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ไม่เปิดช่องให้สื่อต่างชาติเข้ามาปลุกปั่นหรือสร้างความแตกแยกของคนในชาติ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นการปิดกั้นสื่อของจีนว่า เป็นการปิดหูปิดตาประชาชน ทั้งนี้ แม้ว่าชาวจีนจะไม่สามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียจากต่างชาติ แต่เอกชนจีนก็ได้พัฒนาสื่อโซเชียลมีเดียของจีนเองจำนวนมากและเป็นที่นิยมในหมู่ของชาวเน็ตจีน เช่น Weibo หรือ Youku เป็นต้น

 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่