JJNY : “โรม-ลิซ่า”ช่วยหาเสียงเมืองคอน│ส.อัญมณีฯรับทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า│โชห่วยโอดกาแฟยี่ห้อดัง│เตือนเหนือ อีสาน ระวังพายุ

“โรม-ลิซ่า” ช่วยหาเสียงเมืองคอน ลั่นทวงคืนศักดิ์ศรีคนใต้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_864222/
.
.
“รังสิมันต์-ภคมน” ลงนครศรีธรรมราช ช่วย “ดร.นัท” หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 8 ลั่น ทวงคืนศักดิ์ศรีคนใต้ ต้องการการเมืองแบบใหม่ มีคุณธรรม
.
เวทีหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช พรรคประชาชน จัดปราศรัยขึ้น ที่ อ.พิปูน ในช่วงค่ำ (6 เมษยาน 2568) โดยพรรคประชาชนส่ง “นัทณัฐกิตต์ อยู่ด้วง-ปรีชา ลงสมัครในเบอร์ 3 พร้อมด้วยแกนนำพรรคอย่าง นายรังสิมันต์ โรม และ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย เริ่มจาก นายณัฐกิตต์ ปราศรัย ย้ำว่า ตนมีอุดมการณ์ พร้อมตรวจสอบรัฐบาลทันที หากได้รับเลือก ยกกรณีทุนจีนเทาที่ ต.จันดี อ.ฉวาง เป็นตัวอย่างความล้มเหลวของรัฐบาล และตนมีบทบาทผลักดันเรื่องนี้ถึง กมธ.ความมั่นคงฯ และนำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ ขอยืนยันว่า พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวที่ลงสมัครในเขตนี้ และขอให้ประชาชน “เลือกส้ม เลือกเบอร์ 3
.
ด้านนายรังสิมันต์ โรม เน้นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาส “ทวงคืนศักดิ์ศรีคนใต้” และส่งสัญญาณถึงประเทศว่า คนภาคใต้ต้องการการเมืองแบบใหม่ที่มีคุณธรรม ไม่ซื้อเสียง และยังวิจารณ์พรรคร่วมรัฐบาลว่า แย่งเค้กผลประโยชน์กันหมด เหลือเพียงพรรคประชาชนที่ยังตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น
.
ขณะ น.ส.ภคมน กล่าวถึงกรณีประชาชนร้องเรียนป้ายโฆษณาเว็บพนันบนรถสองแถวที่ขนส่งนักเรียน โดยระบุว่า แม้พรรคไม่มี สส. ในจังหวัด แต่ก็สามารถขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาได้ ต่างจาก สส. รัฐบาลที่เพิกเฉย โดยย้ำว่า “ดร.นัท” มีประสบการณ์การทำงานในสภาเกือบ 2 ปี และขอให้ประชาชนช่วยกันหาเสียงให้พรรคปักธงส้มแรกที่นครศรีธรรมราช เขต 8
.

.
สถาบันอัญมณีฯรับทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า เสี่ยงฉุดยอดส่งออก เร่งตลาดทดแทนสหรัฐ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5128827
.
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า ได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย พบว่า มีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยไปสหรัฐฯ แน่นอน โดยในปี 2567 ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 1,946.38 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.51% และช่วงไตรมาสแรก ปี 2568 ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากการเร่งนำเข้า แต่หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยจากในอัตรา 36% จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยไปสหรัฐฯ อย่างแน่นอน เพราะสินค้าไทยจะมีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าชะลอการนำเข้าลง และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ชะลอการซื้อสินค้าลงอย่างแน่นอน
.
ทั้งนี้ จากการติดตาม พบว่า แม้ไทยจะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น จีน ถูกเก็บ 34%เวียดนาม 46% และอินเดีย 26% มีทั้งสูงกว่าไทยและน้อยกว่าไทย ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าสหรัฐฯ จะนำเข้าจากไทยลดลงหรือเพิ่มขึ้น หรือนำเข้าจากคู่แข่งลดลงหรือเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องติดตามผลซักระยะหนึ่งก่อน ถึงจะประเมินได้ แต่หากอัตราภาษียังคงเป็นเช่นนี้ คงจะมีผลกระทบต่อการส่งออกแน่ ส่วนจะลดลงมากน้อยแค่ไหน ยังตอบไม่ได้ และถ้าส่งออกได้ลดลง จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ ทั้งรายใหญ่ และ SME ตั้งแต่ช่างฝีมือไปจนถึงโรงงานผลิต
.
GIT ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อประเมินผลกระทบและหาแนวทางบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเห็นว่า เบื้องต้นจะต้องหารือถึงแนวทางในการเจรจาการค้า เพื่อลดอัตราภาษีลงมา ซึ่งในส่วนนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดย GIT พร้อมที่จะให้ข้อมูลสนับสนุนการเจรจาอย่างเต็มที่ และแนวทางการบรรเทาผลกระทบอื่น ต้องหาช่องทางในการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ” นายสุเมธ กล่าว
.
นายสุเมธ กล่าวว่า สำหรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศปรับขึ้นภาษีเป็น 36% พบว่า สินค้าจากไทยถูกเก็บภาษีค่อนข้างต่ำ บางรายการได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่ปัจจุบันหมดอายุไปแล้ว แต่ภาษีปกติ ก็ยังถือว่าต่ำอยู่ โดยเครื่องประดับเงิน ภาษีประมาณ 5% เครื่องประดับที่ทำจากหินกึ่งมีค่า ถ้ามูลค่าไม่เกิน 40 เหรียญสหรัฐต่อชิ้น ภาษี 3.3% เกิน 40 เหรียญสหรัฐต่อชิ้น ภาษี 6.5% พลอยหรือหินกึ่งมีค่าที่ยังไม่ได้ขึ้นตัวเรือน ภาษี 0%
.
เมื่อเปรียบเทียบอัตราภาษีเดิมกับอัตราใหม่ 36% จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เครื่องประดับเงินไทยที่เคยเสีย 5% จะต้องเสียถึง 36% หรือเครื่องประดับพลอยที่เคยเสีย 6.5% ต้องเสีย 36% ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้ราคานำเข้า (หลังบวกภาษี) เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เป็นภาระต่อทั้งผู้นำเข้า ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภค” นายสุเมธ กล่าว
.

.
โชห่วย โอดกาแฟยี่ห้อดัง แจ้งหยุดส่งสินค้ากะทันหัน หวั่นขาดตลาด ราคาแพง
https://www.matichon.co.th/economy/news_5128925
.
โชห่วย โอดกาแฟยี่ห้อดัง แจ้งหยุดส่งสินค้ากะทันหัน หวั่นสินค้าขาดตลาด ราคาแพง
.
เมื่อวันที่ 6 เมษายน รายงานข่าวจากร้านค้าส่งและค้าปลีก แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด จะหยุดส่งสินค้าชั่วคราว ทั้งกาแฟผงสำเร็จรูปและทรีอินวัน เนื่องจากติดปัญหาบางอย่าง ถึงขณะนี้ก็เป็นเวลาร่วม 3 วันแล้ว และยังไม่มีกำหนดวันชัดเจนจะเริ่มส่งสินค้าให้ได้เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากติดวันหยุด จึงต้องรอดูวันเปิดทำการในวันที่ 8 เมษายนนี้จะมีความคืบหน้าหรือไม่ ทั้งนี้ถ้าหากปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานออกไป อาจจะทำให้สินค้าขาดตลาดและมีราคาแพงขึ้นได้
.
“ตอนนี้ทุกคนรู้ข่าวกันแล้วว่า กาแฟยี่ห้อดังกล่าว หยุดส่งสินค้าชั่วคราว จึงแพนิกและมาซื้อกันจำนวนมาก ซึ่งบางร้านค้าที่ไม่ได้สั่งของรอบใหม่ก็อาจจะทำให้สินค้าขาดได้ แต่ขณะที่บางร้านค้าได้สั่งสินค้ารอบใหม่ไปแล้วและมาส่งเมื่อต้นเดือนเมษายนก็ยังพอมีสินค้าเพียงพอต่อการจำหน่าย แต่ถ้าบริษัทยังไม่สามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้ ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์สินค้าขาดแคลนได้เช่นกัน” รายงานข่าวกล่าว
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่