เอาล่ะ จบการรีวิว Gunpla ไปเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปยาว ก็กลับมารีวิวกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่ Gunpla แบบที่เคยประกอบ แต่ว่าเป็น Figure-Rise Labo ที่เป็นพลาโมที่ประกอบเป็นแบบหุ่นยืนนิ่ง คือประกอบเสร็จ ก็เป็นหุ่นตั้งโชว์ (ซึ่งขัดกับหลักการของเทพหยิกที่เคยกล่าวไว้ว่า Gundam ไม่ได้มีไว้ตั้งโชว์นะ) ซึ่งจะแน่ขนาดไหน เดี๋ยวตามไปดู เห็นว่าราคาแพงกว่า Gunpla ปกติอยู่


Box Art ของซีรีย์ Figure-Rise Labo กลักๆ คือ Background มาแบบโล่งๆ พร้อมกับรูปพลาโมที่ประกอบเสร็จมาเป็น Showcase เพื่อแสดงให้เห็นว่าตอนประกอบเสร็จ จะเป็นยังไง
สนนราคาก็อยู่ที่ 5,500 Yen นับว่าแพง เนื่องจากใส่รายละเอียดเยอะ แต่ว่าจะเยอะตามราคามั้ย ก็ต้องรอดูกันไป (ไม่รวม VAT 10%)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,234 บาท (ไม่รวมค่าหิ้ว)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,400 - 2,000 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 6 ปี 2019

ข้างกล่อง นึกว่า HG แบบสามัญ

ข้างใน ก็นับว่าโหรงเหรง เท่ากับว่าเริ่มสงสัยล่ะว่าโหลงเหรงแบบนี้ ทำไมมันถึงได้แพงเกินความเหมาะสม (เริ่มได้กลิ่น Drama ล่ะ อย่าเพิ่ง Drama ก่อน

)

เริ่มได้เหตุผลว่าทำไมข้างในถึงโหรงเหรง เพราะชิ้นส่วนข้างในนับว่า Yai Mak Mak จนต้องอยู่กับแผงรันเนอร์เดี่ยวอย่างที่เห็น

ถุงแผงรันเนอร์ที่มี ก็มีทั้งหมด 6 แผง

ส่วนจำนวนแผงที่ได้มาหลังจากที่ฉีกถุงเลย์ (แผงรันเนอร์) ก็จะได้จำนวนแผงทั้งหมด 7 แผง (ก็นับว่าน้อยอ่านะ

)

แผ่นกระดาษที่ใช้กับชิ้นส่วนพื้นผิวน้ำ เป็นแผ่นกระดาษที่แค่พิมพ์ลายพื้นผิวทรายเท่านั้น ไม่มีผิวสัมผัสความเป็นทราย

ส่วนใบประกอบ ก็มาเป็นแผ่นพับ ซึ่งแบบพับทบเดียว แค่นี้แหละ

เอาล่ะ เป็นตัวกันซะทีล่ะนะ คือแม้ว่าจะไม่มีจุดขยับก็ตาม แต่ก็เสียเวลาแก้เดือยที่ทำให้ประกบชิ้นส่วนไม่เข้า แต่ถ้าดูจากดีเทลที่ได้หลังประกอบเสร็จ ก็นับว่าสมราคาที่แพง ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสของตัว แต่ก็ต้องผ่านการขัดรอยเกจมาเยอะ

และแผ่นกระดาษที่ติดใต้ชิ้นส่วนผิวน้ำ จะรองแบบหลวมๆ ต้องใช้เทปใสติดกันหลุด ซึ่งนับว่าได้ผลดี

จุดขายอย่างแรกของ Figure-Rise Labe คือจะใช้ชิ้นส่วนที่ผ่านวิธี Layer Injection คือการฉีดสีลงเนื้อชิ้นส่วนพลาสติกแบบประกอบเข้ากับชิ้นส่วนพลาสติกที่ฉีดอีกสีเข้าเนื้อ จนได้ชิ้นส่วนแบบ Layer Injection มาชิ้นเดี่ยวๆ อย่างที่เห็น

และชิ้นส่วน Effect น้ำกระจาย ทำมาสมจริง และใช้เป็นฐานให้พลาโมชุดนี้ยืนได้ และยืนได้นิ่งอีกด้วย

ส่วนจุดขายอย่างที่สอง คือ Texture ของผิวหนังและชุดจะมีความมัน เหมือนในชีวิตจริง
จบการรีวิวในกระทู้เดียวเรียบร้อย มาลงกันที่ข้อดี-ข้อเสียกัน
ข้อดี
1. พื้นผิวดีเทลดูสมจริง เหมือนกับในชีวิตจริง
2. ชิ้นส่วนใช้ระบบฉีดสี Layer-Injection ทำให้มีหลากสีรวมในชิ้นเดียว
3. แถมชิ้นส่วน Effect พื้นทรายและน้ำกระจาย ซึ่งทำสมจริง
4. การประกอบไม่ซับซ้อน
ข้อเสีย
1. ราคา 5,500 Yen ก็ค่อนข้างแพง แต่ดูจากดีเทลที่ให้มา ก็นับว่าคุ้มค่ากับราคาแล้ว
2. เป็นพลาโมแบบตายตัว จึงไม่มีจุดขยับ
3. กระดาษพื้นทราย เป็นแค่กระดาษพิมพ์ลายพื้นทราย แถมติดใต้ชิ้นส่วนผิวน้ำแบบหลวมๆ
4. แผลจากการตัดเกจชัดเจนมาก ต้องคอยขัดนานจนกว่ารอยจะหายและยังต้องใช้สีแต้มปิดรอยเยอะ
5. ชิ้นส่วนบางชิ้นประกบแบบไม่สนิท ต้องคอยขัดเดือยจนกว่าจะสามารถประกอบเข้าที่แบบสนิทได้
6. หายากมาก (ขนาดตัวปกติก็ยังหายากเลย)
บทสรุปโดยรวม
ดีเทล มีความสมจริงแบบล้ำหน้าทิ่มประตูมาก ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวตัวพลาโม พื้นน้ำ จึงได้ระดับ S
ความยากในการประกอบ จะมีบางชิ้นที่ต้องคอยขัดเดือยจนสามารถประกอบได้สนิท แบบว่าไม่มีการงัดแงะ และบางส่วนก็ค่อนข้างซับซ้อนด้วย จึงได้ระดับ S
จุดขยับโดยรวม ไม่มีคะแนน เพราะเป็นพลาโมแบบตายตัว จึงไม่มีจุดขยับ
สรุปคะแนนทั้งหมด
เอาไป 9 เต็ม 10 ขอตัดตรงไม่มีจุดขยับ คือไลน์ Figure-Rise Labo เป็นพลาโมแบบประกอบเสร็จแบบตายตัว ที่เหลือก็นับว่าสวยงามมากสมราคาที่สูงและความหายาก
ทีนี้ก็จบกระทู้ก่อนหยุดยาวสงกรานต์กันแล้ว

Link ช่องทางเข้า Webpage :
https://web.facebook.com/GunplaReview/
Link ช่องทางเข้า Blogger :
https://draft.blogger.com/blog/posts/3557295041291061356
Link ช่องทางเข้า BlueSky :
https://bsky.app/profile/atsaneegunpla.bsky.social (ช่องทางใหม่ที่จะมาใช้)
[CR] Review : Senpai สุดแซ่บสาย Assist พาทีมคว้าชัย Figure-Rise Labo Fumina Hoshino [The Second Scene]
Box Art ของซีรีย์ Figure-Rise Labo กลักๆ คือ Background มาแบบโล่งๆ พร้อมกับรูปพลาโมที่ประกอบเสร็จมาเป็น Showcase เพื่อแสดงให้เห็นว่าตอนประกอบเสร็จ จะเป็นยังไง
สนนราคาก็อยู่ที่ 5,500 Yen นับว่าแพง เนื่องจากใส่รายละเอียดเยอะ แต่ว่าจะเยอะตามราคามั้ย ก็ต้องรอดูกันไป (ไม่รวม VAT 10%)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,234 บาท (ไม่รวมค่าหิ้ว)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,400 - 2,000 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 6 ปี 2019
ข้างกล่อง นึกว่า HG แบบสามัญ
ข้างใน ก็นับว่าโหรงเหรง เท่ากับว่าเริ่มสงสัยล่ะว่าโหลงเหรงแบบนี้ ทำไมมันถึงได้แพงเกินความเหมาะสม (เริ่มได้กลิ่น Drama ล่ะ อย่าเพิ่ง Drama ก่อน
เริ่มได้เหตุผลว่าทำไมข้างในถึงโหรงเหรง เพราะชิ้นส่วนข้างในนับว่า Yai Mak Mak จนต้องอยู่กับแผงรันเนอร์เดี่ยวอย่างที่เห็น
ถุงแผงรันเนอร์ที่มี ก็มีทั้งหมด 6 แผง
ส่วนจำนวนแผงที่ได้มาหลังจากที่ฉีกถุงเลย์ (แผงรันเนอร์) ก็จะได้จำนวนแผงทั้งหมด 7 แผง (ก็นับว่าน้อยอ่านะ
แผ่นกระดาษที่ใช้กับชิ้นส่วนพื้นผิวน้ำ เป็นแผ่นกระดาษที่แค่พิมพ์ลายพื้นผิวทรายเท่านั้น ไม่มีผิวสัมผัสความเป็นทราย
ส่วนใบประกอบ ก็มาเป็นแผ่นพับ ซึ่งแบบพับทบเดียว แค่นี้แหละ
เอาล่ะ เป็นตัวกันซะทีล่ะนะ คือแม้ว่าจะไม่มีจุดขยับก็ตาม แต่ก็เสียเวลาแก้เดือยที่ทำให้ประกบชิ้นส่วนไม่เข้า แต่ถ้าดูจากดีเทลที่ได้หลังประกอบเสร็จ ก็นับว่าสมราคาที่แพง ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสของตัว แต่ก็ต้องผ่านการขัดรอยเกจมาเยอะ
และแผ่นกระดาษที่ติดใต้ชิ้นส่วนผิวน้ำ จะรองแบบหลวมๆ ต้องใช้เทปใสติดกันหลุด ซึ่งนับว่าได้ผลดี
จุดขายอย่างแรกของ Figure-Rise Labe คือจะใช้ชิ้นส่วนที่ผ่านวิธี Layer Injection คือการฉีดสีลงเนื้อชิ้นส่วนพลาสติกแบบประกอบเข้ากับชิ้นส่วนพลาสติกที่ฉีดอีกสีเข้าเนื้อ จนได้ชิ้นส่วนแบบ Layer Injection มาชิ้นเดี่ยวๆ อย่างที่เห็น
และชิ้นส่วน Effect น้ำกระจาย ทำมาสมจริง และใช้เป็นฐานให้พลาโมชุดนี้ยืนได้ และยืนได้นิ่งอีกด้วย
ส่วนจุดขายอย่างที่สอง คือ Texture ของผิวหนังและชุดจะมีความมัน เหมือนในชีวิตจริง
จบการรีวิวในกระทู้เดียวเรียบร้อย มาลงกันที่ข้อดี-ข้อเสียกัน
ทีนี้ก็จบกระทู้ก่อนหยุดยาวสงกรานต์กันแล้ว
Link ช่องทางเข้า Webpage : https://web.facebook.com/GunplaReview/
Link ช่องทางเข้า Blogger : https://draft.blogger.com/blog/posts/3557295041291061356
Link ช่องทางเข้า BlueSky :https://bsky.app/profile/atsaneegunpla.bsky.social (ช่องทางใหม่ที่จะมาใช้)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้