พฤติกรรมเสี่ยง! ‘โรคไต’ สัญญาณเตือนรู้ก่อนรักษาได้ก่อน
สัญญาณเตือน 'โรคไต' พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง !
รศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง “ไต”ไว้ว่า “ไต”เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วเหลือง จะอยู่บริเวณกระดูกชายโครงทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่ในการขับของเสียที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงมีหน้าที่ในการรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ สร้างสารที่มาควบคุมความดันเลือด และกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น ไต จึงเป็นอวัยวะอีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญ ที่จะต้องได้รับการดูแลทั้งเรื่องอาหารและพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้การทำงานของไตนั้นมีประสิทธิภาพลดลงจนไตล้มเหลวได้ ดังนั้นควรสังเกต สัญญาณเตือนโรคไต ให้ดี
สัญญาณเตือนโรคไต ระยะเริ่มต้น
ปัสสาวะเป็นเลือด
ปัสสาวะเป็นฟอง
ปัสสาวะช่วงกลางคืนบ่อยครั้ง
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
มีอาการบวมบนใบหน้าและเท้า
เบื่ออาหาร
มีอาการขมปาก ขมคอ ไม่สามารถรับประทานอาหารได้
พฤติกรรมเสี่ยงเป็น โรคไต
รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารที่มีโซเดียมสูงเกินไปนอกจากจะมีผลต่อการทำงานของไตแล้วยังส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดสมองแตก
รับประทานอาหารสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋อง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนใหญ่จะมีปริมาณโซเดียมมากกว่าปกติทำให้มีความเสี่ยงต่อการทำงานของไต
ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำน้อยทำให้ปัสสาวะมีสีที่เข้มมากขึ้นส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำจนทำให้ไตต้องทำงานหนัก อาจเสี่ยงภาวะไตวายและโรคระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
น้ำหนักมากเกินไป ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากจนเกินไปก่อให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งจะมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอย่างเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ป่วยที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคไต
ซื้อยารับประทานเอง การซื้อยามารับประทานเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายจากร้านขายยาไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพรบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดโรคไตได้ จำเป็นต้องมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาทุกครั้งโดยเฉพาะการกินต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ต่อเนื่องอาจมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคไตตามมาได้
วิธีป้องกันโรคไตเบื้องต้น
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
หลีกเลี่ยงอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรือขนมขบเคี้ยว
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด หวานจัด
ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
หลีกเลี่ยงการรับประทานยาติดต่อกันนาน ๆ โดยเฉพาะกลุ่มยาแก้อักเสบแก้ปวด
ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
“โรคไต” ในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็น แต่ไม่ควรมองข้ามหากมีความเสี่ยงหรือพฤติกรรมที่เคยชินที่อาจส่งผลต่อการทำงานของไต เช่น รับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมีโรคประจำตัว ดังนั้นเพื่อป้องกันสุขภาพการทำงานของไตจึงต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปีหาความเสี่ยงของโรคไตในระยะเริ่มต้นเพื่อให้รักษาได้ทันท่วงทีและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง...
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/4573754/
รู้ว่าดีแต่ดีอย่างไร? 10 คุณประโยชน์ ‘ส้มยูซุ’ ดีต่อสุขภาพจนร้องว้าว
เปิด 10 คุณประโยชน์ "ส้มยูซุ" ที่หลายใครไม่เคยรู้ ดีต่อสุขภาพจนต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว
ส้มยูซุ (Citrus junos) เป็นผลไม้ตระกูลส้มลูกผสม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยูจา มีต้นกำเนิดในประเทศจีนเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว และปัจจุบันเติบโตในญี่ปุ่น เกาหลี และส่วนอื่นๆ ของโลก ผลมีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–3 นิ้ว (5.5–7.5 ซม.) มีเปลือกสีเหลืองค่อนข้างหนา และมีกลิ่นหอมและเปรี้ยวกว่าผลไม้ตระกูลส้มอื่นๆ มาก
ส้มยูซุ (Yuzu) เป็นที่นิยมอย่างมากในอาหารเอเชียตะวันออก น้ำ เปลือก และเมล็ดของมันถูกใช้เป็นเครื่องปรุงรสสำหรับน้ำส้มสายชู เครื่องปรุงรส ซอส และแยม น้ำมันส้มยูซุยังถูกใช้กันทั่วไปในเครื่องสำอาง น้ำหอม และอโรมาเธอราพี น่าแปลกที่ผลไม้นี้อาจให้ประโยชน์หลายประการ รวมถึงการลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
ส้มยูซุ เป็นผลไม้ สีเหลืองอย่างเลมอน มีรสชาติคล้ายเกรปฟรุตและส้มแมนดาริน ส้มยูซุเป็นพืชที่ชอบแสงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นจะให้ผลผลิตส้มยูซุที่ดี รสชาติจะหวานกลมกล่อม คนไทยนิยมนำไปใช้ประโยชน์หลักๆ 3 ด้าน คือ อาหาร เครื่องสำอางค์ และยารักษาโรค
แน่นอนว่า “ส้มยูซุ” มีประโยชน์ แต่จะช่วยอะไรได้บ้าง มาดูกัน
1.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง
2.ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันโรคติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้
3.มีกรดซิตริคสูง สามารถป้องกันไวรัส ช่วยลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ และปวดศรีษะ
4.ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
5.ส้มยูซุ มีสาร โนมีลิน (nomilin) ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
6.ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
7.ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยในการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
8.ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
9.ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก
10.ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ เช่น โรคเกี่ยวกับสมอง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และมะเร็งบางชนิด
คุณประโยชน์มากมายของ “ส้มยูซุ” โดยเฉพาะวิตามินที่สูงถึง 60% ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่ควรซื้อส้มยูซุเพื่อนำมารับประทานในปริมาณมาก เพื่อหวังในสรรพคุณต่างๆ เหล่านี้มากจนเกินไป เพราะการกินอะไรที่เกินพอดีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้....
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/4574889/
พฤติกรรมเสี่ยง! ‘โรคไต’ สัญญาณเตือนรู้ก่อนรักษาได้ก่อน และ 10 คุณประโยชน์ ‘ส้มยูซุ’
สัญญาณเตือน 'โรคไต' พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง !
รศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง “ไต”ไว้ว่า “ไต”เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วเหลือง จะอยู่บริเวณกระดูกชายโครงทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่ในการขับของเสียที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงมีหน้าที่ในการรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ สร้างสารที่มาควบคุมความดันเลือด และกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น ไต จึงเป็นอวัยวะอีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญ ที่จะต้องได้รับการดูแลทั้งเรื่องอาหารและพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้การทำงานของไตนั้นมีประสิทธิภาพลดลงจนไตล้มเหลวได้ ดังนั้นควรสังเกต สัญญาณเตือนโรคไต ให้ดี
สัญญาณเตือนโรคไต ระยะเริ่มต้น
ปัสสาวะเป็นเลือด
ปัสสาวะเป็นฟอง
ปัสสาวะช่วงกลางคืนบ่อยครั้ง
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
มีอาการบวมบนใบหน้าและเท้า
เบื่ออาหาร
มีอาการขมปาก ขมคอ ไม่สามารถรับประทานอาหารได้
พฤติกรรมเสี่ยงเป็น โรคไต
รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารที่มีโซเดียมสูงเกินไปนอกจากจะมีผลต่อการทำงานของไตแล้วยังส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดสมองแตก
รับประทานอาหารสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋อง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนใหญ่จะมีปริมาณโซเดียมมากกว่าปกติทำให้มีความเสี่ยงต่อการทำงานของไต
ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำน้อยทำให้ปัสสาวะมีสีที่เข้มมากขึ้นส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำจนทำให้ไตต้องทำงานหนัก อาจเสี่ยงภาวะไตวายและโรคระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
น้ำหนักมากเกินไป ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากจนเกินไปก่อให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งจะมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอย่างเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ป่วยที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคไต
ซื้อยารับประทานเอง การซื้อยามารับประทานเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายจากร้านขายยาไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพรบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดโรคไตได้ จำเป็นต้องมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาทุกครั้งโดยเฉพาะการกินต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ต่อเนื่องอาจมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคไตตามมาได้
วิธีป้องกันโรคไตเบื้องต้น
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
หลีกเลี่ยงอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรือขนมขบเคี้ยว
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด หวานจัด
ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
หลีกเลี่ยงการรับประทานยาติดต่อกันนาน ๆ โดยเฉพาะกลุ่มยาแก้อักเสบแก้ปวด
ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
“โรคไต” ในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็น แต่ไม่ควรมองข้ามหากมีความเสี่ยงหรือพฤติกรรมที่เคยชินที่อาจส่งผลต่อการทำงานของไต เช่น รับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมีโรคประจำตัว ดังนั้นเพื่อป้องกันสุขภาพการทำงานของไตจึงต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปีหาความเสี่ยงของโรคไตในระยะเริ่มต้นเพื่อให้รักษาได้ทันท่วงทีและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง...
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4573754/
รู้ว่าดีแต่ดีอย่างไร? 10 คุณประโยชน์ ‘ส้มยูซุ’ ดีต่อสุขภาพจนร้องว้าว
เปิด 10 คุณประโยชน์ "ส้มยูซุ" ที่หลายใครไม่เคยรู้ ดีต่อสุขภาพจนต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว
ส้มยูซุ (Citrus junos) เป็นผลไม้ตระกูลส้มลูกผสม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยูจา มีต้นกำเนิดในประเทศจีนเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว และปัจจุบันเติบโตในญี่ปุ่น เกาหลี และส่วนอื่นๆ ของโลก ผลมีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–3 นิ้ว (5.5–7.5 ซม.) มีเปลือกสีเหลืองค่อนข้างหนา และมีกลิ่นหอมและเปรี้ยวกว่าผลไม้ตระกูลส้มอื่นๆ มาก
ส้มยูซุ (Yuzu) เป็นที่นิยมอย่างมากในอาหารเอเชียตะวันออก น้ำ เปลือก และเมล็ดของมันถูกใช้เป็นเครื่องปรุงรสสำหรับน้ำส้มสายชู เครื่องปรุงรส ซอส และแยม น้ำมันส้มยูซุยังถูกใช้กันทั่วไปในเครื่องสำอาง น้ำหอม และอโรมาเธอราพี น่าแปลกที่ผลไม้นี้อาจให้ประโยชน์หลายประการ รวมถึงการลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
ส้มยูซุ เป็นผลไม้ สีเหลืองอย่างเลมอน มีรสชาติคล้ายเกรปฟรุตและส้มแมนดาริน ส้มยูซุเป็นพืชที่ชอบแสงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นจะให้ผลผลิตส้มยูซุที่ดี รสชาติจะหวานกลมกล่อม คนไทยนิยมนำไปใช้ประโยชน์หลักๆ 3 ด้าน คือ อาหาร เครื่องสำอางค์ และยารักษาโรค
แน่นอนว่า “ส้มยูซุ” มีประโยชน์ แต่จะช่วยอะไรได้บ้าง มาดูกัน
1.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง
2.ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันโรคติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้
3.มีกรดซิตริคสูง สามารถป้องกันไวรัส ช่วยลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ และปวดศรีษะ
4.ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
5.ส้มยูซุ มีสาร โนมีลิน (nomilin) ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
6.ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
7.ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยในการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
8.ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
9.ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก
10.ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ เช่น โรคเกี่ยวกับสมอง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และมะเร็งบางชนิด
คุณประโยชน์มากมายของ “ส้มยูซุ” โดยเฉพาะวิตามินที่สูงถึง 60% ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่ควรซื้อส้มยูซุเพื่อนำมารับประทานในปริมาณมาก เพื่อหวังในสรรพคุณต่างๆ เหล่านี้มากจนเกินไป เพราะการกินอะไรที่เกินพอดีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้....
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4574889/