เมื่อตัวอย่างแรกสุด ของ A Minecraft Movie เผยแพร่ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2024
อาจกล่าวได้ว่า ปฏิกิริยาของแฟน ๆ ไม่ตรงตามที่ Warner Bros. และทีมงานสร้างสรรค์ คาดหวังเอาไว้
เรียกว่าไม่ทันไรก็ถูก วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก, โดยแฟน ๆ โจมตีด้าน สไตล์ภาพและอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ผู้กำกับหนัง (จาเร็ด เฮสส์) กับ
ผู้อำนวยการสร้าง และผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเนื้อหาต้นฉบับ ของ Minecraft (ทอร์ฟี่ ฟรานส์ โอลาฟสัน)
จะรับมือกับเรื่องนี้ ได้อย่างดี, และไม่รู้สึกตกใจที่ เกิดเหตุทัวร์ลง
คำชี้แจงของทั้งคู่ อยู่ในการพูดคุยกับ ทางสื่อตปท. (IGN)
ซึ่งถูกหยิบมาแปล แบบถอดความ โดยส่วนใหญ่ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด, ในบทความนี้
"คืองี้นะ เรารู้ดีว่าเกมนี้ เป็นตัวแทนของสิ่งต่าง ๆ มากมาย, สำหรับผู้คนมากมาย" เฮสส์บอก
"เรารู้ว่า ไม่ว่าจะนำเสนออะไรออกไป, ก็จะมีการตอบสนอง
ที่รุนแรงและหลายหลาก จากความคาดหวัง ที่หลากหลาย, ว่าอยากได้แบบไหน
ทุกคนต่างก็มี ความเชื่อมโยงส่วนตัวที่พิเศษ กับเกมนี้, ดังนั้นเราจึง เตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง"
เฮสส์ (เคย) เสริมว่า จะมีการปรับปรุง ด้านการนำเสนอ ตามเรื่อย ๆ
จนกว่าภาพยนตร์ จะเข้าโรงฉาย, ตอนต้นเดือนเมษายน ค.ศ. 2025
ขณะเดียวกัน โอลาฟสัน ขอโต้แย้ง, ข้อติเตียนจาก สาวกไมน์คราฟต์ หนึ่งประการ
นั่นคือความผิดโทษฐาน ดันหาญกล้าคิดทำ หนังจากเกม ๆ นี้ เป็นฉบับคนแสดง
"แบบว่า, นั่นเป็น 1 ในสิ่งที่ [แฟน ๆ ตำหนิตัวอย่าง]: 'ทำไมถึงเป็นไลฟ์แอ็กชั่น ? ทำไมไม่ทำแอนิเมชั่น ?'
ผมคิดว่าหลายคน แค่อยากได้แบบนั้น, และแค่เรื่องที่ว่า
มีไลฟ์แอ็กชั่น ตัวละครมีเลือดเนื้อ หรือมีฉากที่สมจริง, ก็เพียงพอจะทำให้ พวกเขาหงุดหงิด
เพราะมันผิดจาก จินตนาการของพวกเขา, ซึ่งเสพเกมมา เป็นเวลานานโข" โอลาฟสันกล่าว
"พวกเขาเคยฉาย และรับชม วิดีโอคอนเทนท์ จำนวนมาก
ซึ่งแน่นอนว่า สร้างจากทั้งโดยเรา และชุมชนของผู้เล่น
เราผลิตโหมดเนื้อเรื่อง เราเคยทำอนิเมชั่นมาก่อน, และก็มีอะไรเทือกนั้น อยู่อีกมหาศาล
นั่นเป็น 1 ในเหตุผลที่ พวกผู้สร้างภาพยนตร์ อยากลองผลิต ฉบับคนแสดงแทนบ้าง, ให้แตกต่างจาก สิ่งที่เคยทำกันมาก่อน"
"อีกอย่าง หนังเรื่องนี้ใช้เวลาพัฒนา นานแสนนานมาแล้ว" เขากล่าวต่อ
"ผู้คนจำนวนมาก ที่จะได้ชมหนังเรื่องนี้ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ในตอนที่เรา เซ็นสัญญาฉบับแรก หรือหารือกันครั้งแรก, แล้วกำหนดแน่วแน่ ว่าต้องทำไลฟ์แอ็กชั่นให้ได้"
โอลาฟสันยังชี้ว่า เรามีทีมงาน ที่มากความสามารถ, ทั้งจากสตูดิโอวอร์เนอร์ และลีเจนดารี่
อาทิเช่น เฮสส์, ผู้ออกแบบงานสร้าง แกรนท์ เมเจอร์, หรือหัวหน้าฝ่ายเอฟเฟกต์ แดน เลมมอน
"พวกเขาและคนอื่น ๆ ในโปรเจ็กต์นี้ ต่างก็เป็นมืออาชีพ ด้านภาพยนตร์" เขาบอก
"และเรามองว่า สามารถพอ จะทำสิ่งนี้… คือค้นหาวิธี เติมเต็มความปรารถนา
ว่าถ้าเราพาตัวเอง ไปอยู่ในจักรวาล Minecraft ซึ่งจับต้องได้ และมีรูปธรรม สำเร็จ, มันจะเป็นเช่นไร"
เฮสส์ กะโอลาฟสัน ยังเสริมด้วยว่า, ผลตอบรับที่ได้ จากรอบทดลองฉาย ในระยะแรก
และรวมถึง เอฟเฟกต์พิเศษ ที่ใส่ลงไป ในช่วงแรกนั้น
ต่างถูกต้อนรับ อย่างอบอุ่น ผิดกับปฏิกิริยา ที่มีต่อตัวอย่างหนัง
"ผู้คนต่างพูด เป็นเสียงเดียวกันว่า 'นี่ไม่เหมือนในตัวอย่าง หนังเรื่องนี้แจ่มแมว' " โอลาฟสันอ้าง
ผู้สร้างทั้งสอง เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างตรงไปตรงมา, ชนิดน่าประหลาดใจ
ว่าพวกเขาไม่ต้องการ ให้เหตุการณ์ โซนิคหน้าอัปลักษณ์ (Ugly Sonic) เกิดขึ้นกับ A Minecraft Movie
ที่ทีมงานของ หนังเรื่องโน้น, ต้องเปลี่ยนการออกแบบ ของเจ้าเม่นสายฟ้า
หลังสาวกต่อต้าน ชนิดล้นหลาม ต่อรูปลักษณ์แรก
ระหว่างการสัมภาษณ์ เฮสส์อธิบายเพิ่มเติม, ว่าพวกเขาพยายาม ปรับปรุงผลงาน โดยอ้างอิงเสียงตอบรับอยู่
"แต่ผมคิดว่า สิ่งที่ขาดไป คือบริบท" เขาพูดต่อ
"เช่นในตัวอย่างแรกสุด หรือก็คือทีเซอร์แรก (original teaser)
คุณจะเห็น เจสัน โมโมอา ใช้ค้อนทุบโต๊ะสร้างของ (crafting table) ตู้ม!
คนดูจะแบบ 'เดี๋ยวเด้ นั่นมันอะไร ?' ใช้ค้อนทุบไปแล้ว แบบ 'เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่งี้มั้ง'
แต่ว่านั่นคือ วิธีถ่ายทอด ขั้นตอนนั้น, เมื่อคุณทำเป็นไลฟ์แอ็กชั่น
มันก็แค่ผู้เล่น กดลงบนหน้าจอ แสดงช่องเก็บของ (inventory screen), มันคือเกมเพลย์ (gameplay) และมันก็น่าทึ่งมาก
คุณต้องคิดว่า ทำยังไงดี ตอนที่สร้างของ (crafting) จึงจะดูน่าตื่นเต้น
และจะดูเป็นยังไง เมื่อใช้ตัวละครมนุษย์ ออกท่าทาง, ยามคราฟต์ของ"
"รายละเอียด จำพวกนี้ทั้งหมด, ถ้าคนไม่รับรู้ บริบทของสถานการณ์ ย่อมมองว่า นี่คือการดูหมิ่นเกม
แต่ในหนังตัวเต็ม ย่อมมีอธิบาย บริบทแวดล้อม
หากเข้าใจแล้ว คงมองว่า, เราให้เกียรติเกม และดัดแปลงเหตุการณ์ แบบตามสมควร"
[บทสัมภาษณ์] ผู้ผลิตหนัง Minecraft คนแสดง >>ชี้แจงกระแสลบ ต่อตย.แรกสุด, และเผยแนวทางปลุกปั้นผลงาน (by Filmaneo)