แผนปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ (พ.ศ. 2568)
วิสัยทัศน์: มุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมที่มั่นคง ปลอดภัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และประเทศมีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน โดย ริเริ่มขับเคลื่อนการปฏิบัติเชิงรุกทันที เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในทุกมิติ กระจายความเจริญและโอกาสอย่างทั่วถึง ส่งเสริมรูปแบบการตั้งถิ่นฐานที่เหมาะสม และใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากร โครงสร้างพื้นฐาน และองค์ความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
1. การเสริมสร้างความปลอดภัย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานที่ยั่งยืน
ยกระดับความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานทั่วถึง:
สร้างมาตรฐานความปลอดภัยในทุกพื้นที่: กรมโยธาธิการฯ ร่วมกับ อปท. ดำเนินโครงการ "อาคารสาธารณะปลอดภัย" ยกระดับความแข็งแรงของโรงพยาบาล โรงเรียน และอาคารบริการประชาชนสำคัญ ทั้งในเมืองหลักและ ส่งเสริมการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานในเมืองรองและชุมชน โดยประยุกต์ใช้เทคนิควิศวกรรมปัจจุบัน
บริหารจัดการน้ำเพื่อความสมดุลและปลอดภัย: กฟผ./กรมชลประทาน ใช้แนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย สำหรับเขื่อนสำคัญ โดยคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำควบคู่กับเสถียรภาพของโครงสร้าง
พัฒนาเครือข่ายสื่อสารแจ้งเตือนภัย: กรมอุตุนิยมวิทยา เพิ่มประสิทธิภาพและความครอบคลุม ของระบบเชื่อมโยงข้อมูลภัยพิบัติ (แผ่นดินไหว, สึนามิ ฯลฯ) สู่ช่องทางสื่อสารสาธารณะที่ประชาชนเข้าถึงง่าย
บริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อความอุดมสมบูรณ์:
เพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานและระบายน้ำ: กรมชลฯ/กรมโยธาฯ/อปท. ใช้ทรัพยากรที่มีปรับปรุงและบำรุงรักษา ระบบชลประทาน คลองส่งน้ำ และทางระบายน้ำ ทั้งในเขตเมืองและพื้นที่เกษตร เพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
ส่งเสริมความมั่นคงทางน้ำระดับชุมชน: กรมทรัพยากรน้ำ/กรมส่งเสริมการเกษตร/อปท. ถ่ายทอดองค์ความรู้และสนับสนุน ชุมชนทั่วประเทศในการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็ก (สระ, บ่อ, การเติมน้ำใต้ดิน) เพื่อความพอเพียงและยั่งยืน
ส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานและผังเมืองเพื่อคุณภาพชีวิต:
พัฒนาชุมชนชายฝั่งที่ปรับตัวได้: กรมโยธาฯ/กรมทรัพยากรทางทะเลฯ/อปท. ร่วมกับชุมชนดำเนินมาตรการ ป้องกันและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง โดยผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม
วางผังเมืองเพื่อการเติบโตที่สมดุล: กรมโยธาธิการและผังเมือง และ อปท. บังคับใช้และทบทวนผังเมือง ให้ส่งเสริม การพัฒนาที่กระจายตัวอย่างเหมาะสม สนับสนุนพื้นที่สีเขียว การเข้าถึงบริการสาธารณะ และ ส่งเสริมรูปแบบที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เช่น ชุมชนหมู่บ้าน หรืออาคารแนวราบ/แนวต่ำในพื้นที่ที่เหมาะสม ควบคู่กับการจัดการการเติบโตของเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้กระจุกตัวหนาแน่นเกินไป
2. การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อความมั่งคั่งที่ทั่วถึงและยั่งยืน
สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในทุกพื้นที่:
ขยายตลาดสู่โลกดิจิทัล: กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม E-commerce ที่มีอยู่
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชุมชน: ททท. พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เน้นเชื่อมโยงเมืองหลักกับเมืองรองและชุมชน เพื่อกระจายรายได้และสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า
กระจายการลงทุนสู่ภูมิภาค: BOI/สภาพัฒน์ฯ ใช้มาตรการจูงใจ สนับสนุนให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการ ในพื้นที่เมืองรองและภูมิภาคที่มีศักยภาพ
สร้างภูมิคุ้มกันและความมั่นคงทางการเงิน:
ส่งเสริมความรอบรู้ทางการเงิน: หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงิน ร่วมกันขยายกิจกรรมให้ความรู้ และคำปรึกษาด้านการออม การลงทุน และการจัดการหนี้ ผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่ายทั่วประเทศ
สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่ออย่างเป็นธรรม: ธปท. และสถาบันการเงิน ส่งเสริมแนวปฏิบัติการให้สินเชื่อที่รับผิดชอบ คำนึงถึงศักยภาพและความจำเป็นของผู้กู้
3. การสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต
พัฒนาความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน:
ส่งเสริมความหลากหลายทางการเกษตร: กรมวิชาการเกษตร/กรมส่งเสริมการเกษตร สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และองค์ความรู้ ให้เกษตรกรปลูกพืชที่หลากหลาย เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สนับสนุนแหล่งโปรตีนชุมชน: กรมประมง/กรมปศุสัตว์/อปท. ถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริม การเลี้ยงสัตว์น้ำและปศุสัตว์ขนาดย่อมในชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่มั่นคง
ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ:
ขยายการเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์: หน่วยงานด้านพลังงาน ส่งเสริมและอำนวยความสะดวก ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ทั้งในภาครัฐ เอกชน และครัวเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
สร้างวัฒนธรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า: หน่วยงานภาครัฐ รณรงค์และสร้างต้นแบบ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน
4. การเสริมสร้างสังคมที่เป็นธรรม สมานฉันท์ และมีส่วนร่วม
ลดช่องว่างและสร้างโอกาสที่เท่าเทียม:
พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน: กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนพื้นที่และกลไก ตลาดชุมชนให้เข้มแข็ง เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย
ยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกพื้นที่: รัฐบาล จัดสรรงบประมาณอย่างสมดุล เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่จำเป็น (คมนาคม, สาธารณสุข, การศึกษา, ดิจิทัล) ให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง
ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันและการมีส่วนร่วม:
สร้างพื้นที่กลางรับฟังความเห็น: กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้ อปท. เป็นเวทีสำหรับการปรึกษาหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น
สื่อสารสร้างสรรค์เพื่อสังคม: กรมประชาสัมพันธ์และสื่อมวลชน ร่วมกันนำเสนอเนื้อหา ที่ส่งเสริมความเข้าใจ ความอดทนอดกลั้น และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
5. การส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ พัฒนาเทคโนโลยี และรักษาความสงบเรียบร้อย
รักษาความมั่นคงและส่งเสริมความร่วมมือชายแดน:
ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก: หน่วยงานความมั่นคง ปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในการสัญจรและการค้าชายแดนตามกฎหมาย
เตรียมพร้อมรับสถานการณ์: หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานและเตรียมความพร้อม ด้านมนุษยธรรมตามหลักสากลในพื้นที่ชายแดน
พัฒนาคนและเทคโนโลยีเพื่ออนาคต:
สร้างทักษะดิจิทัลสำหรับทุกคน: กระทรวงแรงงาน/กระทรวงดีอีเอส พัฒนาหลักสูตรและขยายการฝึกอบรม ทักษะดิจิทัลให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มวัยและทุกภูมิภาค
ดึงดูดการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม: BOI/EEC สร้างสภาพแวดล้อมและใช้กลไกส่งเสริม การลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งในพื้นที่ EEC และพื้นที่ภูมิภาคที่มีศักยภาพ
6. การสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ประชาชนสุขภาพดีถ้วนหน้า
พัฒนาระบบเฝ้าระวังและป้องกันโรค:
เสริมสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง: กรมควบคุมโรคและหน่วยงานสาธารณสุข ใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายอาสาสมัคร ในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และตอบสนองต่อภัยสุขภาพอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
สร้างความพร้อมด้านเวชภัณฑ์และทรัพยากร: กระทรวงสาธารณสุข/องค์การเภสัชกรรม บริหารจัดการและกระจาย เวชภัณฑ์ ยา วัคซีน และทรัพยากรที่จำเป็น ให้เพียงพอและเข้าถึงได้ในสถานพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ
กลไกขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ:
พลังการบูรณาการ: ทำงานร่วมกันข้ามหน่วยงาน แบ่งปันข้อมูล ทรัพยากร และเป้าหมาย
กลไกติดตามและประเมินผล: มีหน่วยงานกลาง (เช่น สมช. หรือคณะทำงานฯ) กำกับ ติดตามความคืบหน้า และปรับปรุงแผนอย่างต่อเนื่อง
สื่อสารสร้างพลังร่วม: สื่อสารเป้าหมาย ความคืบหน้า และผลสำเร็จให้ประชาชนรับทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และการมีส่วนร่วม
ผลลัพธ์ที่มุ่งหวัง:
ประเทศไทยมีความมั่นคงรอบด้าน ประชาชนปลอดภัย ชุมชนเข้มแข็ง
เศรษฐกิจเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โอกาสกระจายทั่วถึง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการดูแล สังคมมีความเป็นธรรมและสมานฉันท์
ประเทศมีศักยภาพในการปรับตัวและพร้อมก้าวสู่อนาคต
แผนปฏิบัติการนี้คือ ก้าวสำคัญของการสร้างชาติที่มั่นคงและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากศักยภาพที่เรามี และ ลงมือทำทันที
T-Plus : แผนปฏิบัติการพัฒนาประเทศ ep.1(2568)
วิสัยทัศน์: มุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมที่มั่นคง ปลอดภัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และประเทศมีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน โดย ริเริ่มขับเคลื่อนการปฏิบัติเชิงรุกทันที เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในทุกมิติ กระจายความเจริญและโอกาสอย่างทั่วถึง ส่งเสริมรูปแบบการตั้งถิ่นฐานที่เหมาะสม และใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากร โครงสร้างพื้นฐาน และองค์ความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
1. การเสริมสร้างความปลอดภัย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานที่ยั่งยืน
ยกระดับความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานทั่วถึง:
สร้างมาตรฐานความปลอดภัยในทุกพื้นที่: กรมโยธาธิการฯ ร่วมกับ อปท. ดำเนินโครงการ "อาคารสาธารณะปลอดภัย" ยกระดับความแข็งแรงของโรงพยาบาล โรงเรียน และอาคารบริการประชาชนสำคัญ ทั้งในเมืองหลักและ ส่งเสริมการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานในเมืองรองและชุมชน โดยประยุกต์ใช้เทคนิควิศวกรรมปัจจุบัน
บริหารจัดการน้ำเพื่อความสมดุลและปลอดภัย: กฟผ./กรมชลประทาน ใช้แนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย สำหรับเขื่อนสำคัญ โดยคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำควบคู่กับเสถียรภาพของโครงสร้าง
พัฒนาเครือข่ายสื่อสารแจ้งเตือนภัย: กรมอุตุนิยมวิทยา เพิ่มประสิทธิภาพและความครอบคลุม ของระบบเชื่อมโยงข้อมูลภัยพิบัติ (แผ่นดินไหว, สึนามิ ฯลฯ) สู่ช่องทางสื่อสารสาธารณะที่ประชาชนเข้าถึงง่าย
บริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อความอุดมสมบูรณ์:
เพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานและระบายน้ำ: กรมชลฯ/กรมโยธาฯ/อปท. ใช้ทรัพยากรที่มีปรับปรุงและบำรุงรักษา ระบบชลประทาน คลองส่งน้ำ และทางระบายน้ำ ทั้งในเขตเมืองและพื้นที่เกษตร เพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
ส่งเสริมความมั่นคงทางน้ำระดับชุมชน: กรมทรัพยากรน้ำ/กรมส่งเสริมการเกษตร/อปท. ถ่ายทอดองค์ความรู้และสนับสนุน ชุมชนทั่วประเทศในการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็ก (สระ, บ่อ, การเติมน้ำใต้ดิน) เพื่อความพอเพียงและยั่งยืน
ส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานและผังเมืองเพื่อคุณภาพชีวิต:
พัฒนาชุมชนชายฝั่งที่ปรับตัวได้: กรมโยธาฯ/กรมทรัพยากรทางทะเลฯ/อปท. ร่วมกับชุมชนดำเนินมาตรการ ป้องกันและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง โดยผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม
วางผังเมืองเพื่อการเติบโตที่สมดุล: กรมโยธาธิการและผังเมือง และ อปท. บังคับใช้และทบทวนผังเมือง ให้ส่งเสริม การพัฒนาที่กระจายตัวอย่างเหมาะสม สนับสนุนพื้นที่สีเขียว การเข้าถึงบริการสาธารณะ และ ส่งเสริมรูปแบบที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เช่น ชุมชนหมู่บ้าน หรืออาคารแนวราบ/แนวต่ำในพื้นที่ที่เหมาะสม ควบคู่กับการจัดการการเติบโตของเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้กระจุกตัวหนาแน่นเกินไป
2. การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อความมั่งคั่งที่ทั่วถึงและยั่งยืน
สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในทุกพื้นที่:
ขยายตลาดสู่โลกดิจิทัล: กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม E-commerce ที่มีอยู่
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงชุมชน: ททท. พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เน้นเชื่อมโยงเมืองหลักกับเมืองรองและชุมชน เพื่อกระจายรายได้และสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า
กระจายการลงทุนสู่ภูมิภาค: BOI/สภาพัฒน์ฯ ใช้มาตรการจูงใจ สนับสนุนให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการ ในพื้นที่เมืองรองและภูมิภาคที่มีศักยภาพ
สร้างภูมิคุ้มกันและความมั่นคงทางการเงิน:
ส่งเสริมความรอบรู้ทางการเงิน: หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงิน ร่วมกันขยายกิจกรรมให้ความรู้ และคำปรึกษาด้านการออม การลงทุน และการจัดการหนี้ ผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่ายทั่วประเทศ
สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่ออย่างเป็นธรรม: ธปท. และสถาบันการเงิน ส่งเสริมแนวปฏิบัติการให้สินเชื่อที่รับผิดชอบ คำนึงถึงศักยภาพและความจำเป็นของผู้กู้
3. การสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต
พัฒนาความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน:
ส่งเสริมความหลากหลายทางการเกษตร: กรมวิชาการเกษตร/กรมส่งเสริมการเกษตร สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และองค์ความรู้ ให้เกษตรกรปลูกพืชที่หลากหลาย เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สนับสนุนแหล่งโปรตีนชุมชน: กรมประมง/กรมปศุสัตว์/อปท. ถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริม การเลี้ยงสัตว์น้ำและปศุสัตว์ขนาดย่อมในชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่มั่นคง
ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ:
ขยายการเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์: หน่วยงานด้านพลังงาน ส่งเสริมและอำนวยความสะดวก ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ทั้งในภาครัฐ เอกชน และครัวเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
สร้างวัฒนธรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า: หน่วยงานภาครัฐ รณรงค์และสร้างต้นแบบ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน
4. การเสริมสร้างสังคมที่เป็นธรรม สมานฉันท์ และมีส่วนร่วม
ลดช่องว่างและสร้างโอกาสที่เท่าเทียม:
พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน: กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนพื้นที่และกลไก ตลาดชุมชนให้เข้มแข็ง เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย
ยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกพื้นที่: รัฐบาล จัดสรรงบประมาณอย่างสมดุล เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่จำเป็น (คมนาคม, สาธารณสุข, การศึกษา, ดิจิทัล) ให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง
ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันและการมีส่วนร่วม:
สร้างพื้นที่กลางรับฟังความเห็น: กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้ อปท. เป็นเวทีสำหรับการปรึกษาหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น
สื่อสารสร้างสรรค์เพื่อสังคม: กรมประชาสัมพันธ์และสื่อมวลชน ร่วมกันนำเสนอเนื้อหา ที่ส่งเสริมความเข้าใจ ความอดทนอดกลั้น และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
5. การส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ พัฒนาเทคโนโลยี และรักษาความสงบเรียบร้อย
รักษาความมั่นคงและส่งเสริมความร่วมมือชายแดน:
ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก: หน่วยงานความมั่นคง ปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในการสัญจรและการค้าชายแดนตามกฎหมาย
เตรียมพร้อมรับสถานการณ์: หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานและเตรียมความพร้อม ด้านมนุษยธรรมตามหลักสากลในพื้นที่ชายแดน
พัฒนาคนและเทคโนโลยีเพื่ออนาคต:
สร้างทักษะดิจิทัลสำหรับทุกคน: กระทรวงแรงงาน/กระทรวงดีอีเอส พัฒนาหลักสูตรและขยายการฝึกอบรม ทักษะดิจิทัลให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มวัยและทุกภูมิภาค
ดึงดูดการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม: BOI/EEC สร้างสภาพแวดล้อมและใช้กลไกส่งเสริม การลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งในพื้นที่ EEC และพื้นที่ภูมิภาคที่มีศักยภาพ
6. การสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ประชาชนสุขภาพดีถ้วนหน้า
พัฒนาระบบเฝ้าระวังและป้องกันโรค:
เสริมสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง: กรมควบคุมโรคและหน่วยงานสาธารณสุข ใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายอาสาสมัคร ในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และตอบสนองต่อภัยสุขภาพอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
สร้างความพร้อมด้านเวชภัณฑ์และทรัพยากร: กระทรวงสาธารณสุข/องค์การเภสัชกรรม บริหารจัดการและกระจาย เวชภัณฑ์ ยา วัคซีน และทรัพยากรที่จำเป็น ให้เพียงพอและเข้าถึงได้ในสถานพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ
กลไกขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ:
พลังการบูรณาการ: ทำงานร่วมกันข้ามหน่วยงาน แบ่งปันข้อมูล ทรัพยากร และเป้าหมาย
กลไกติดตามและประเมินผล: มีหน่วยงานกลาง (เช่น สมช. หรือคณะทำงานฯ) กำกับ ติดตามความคืบหน้า และปรับปรุงแผนอย่างต่อเนื่อง
สื่อสารสร้างพลังร่วม: สื่อสารเป้าหมาย ความคืบหน้า และผลสำเร็จให้ประชาชนรับทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และการมีส่วนร่วม
ผลลัพธ์ที่มุ่งหวัง:
ประเทศไทยมีความมั่นคงรอบด้าน ประชาชนปลอดภัย ชุมชนเข้มแข็ง
เศรษฐกิจเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โอกาสกระจายทั่วถึง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการดูแล สังคมมีความเป็นธรรมและสมานฉันท์
ประเทศมีศักยภาพในการปรับตัวและพร้อมก้าวสู่อนาคต
แผนปฏิบัติการนี้คือ ก้าวสำคัญของการสร้างชาติที่มั่นคงและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากศักยภาพที่เรามี และ ลงมือทำทันที