สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
การเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องแย่ค่ะ
ในขณะเดียวกัน การที่บางคนยึดอุดมคติ( Idealism มากกว่า Realism) หรือรู้สึกไม่สบายใจ
ที่จะเลือกคนที่เคยแต่งงานมาเป็นแฟน ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นกัน
คือฝ่ายชายเขาแบ่ง Zoneชัดเจนว่า Typeนี้เป็นเพื่อนได้ เก็บไว้Friend-zone, แต่ข้ามมาเป็นแฟนไม่ได้ทำนองนั้น
(และคนที่เปิดกว้าง ไม่ถือเรื่องนี้ก็มีอยู่มากมาย ๗
เพราะความสัมพันธ์ไม่ใช่แค่เรื่องของคน2คน หรือแค่ปัจจุบันเสมอไป
อดีตบางอย่างก็อาจส่งผลต่ออนาคต โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนึงถึงครอบครัวของอีกฝ่าย ธรรมเนียม ประเพณี หรือความคาดหวังจากผู้ใหญ่
อดีตไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่เมื่อปัจจุบันเรู้แล้วว่าไม่ใช่อุดมคติของฝ่ายชาย
การยอมรับและพูดคุยตรงไปตรงมา มันดีกว่าการฝืนเดินหน้าต่อแบบที่ไม่มีความสบายใจ..
...ส่วนฝ่ายชายก็ต้องเตรียมใจไว้ หากวันใดวันหนึ่งเมื่อคบกับสาวที่ตรงตามอุดมคติ
แต่เมื่อเธอรู้ว่าคุณเคยบอกเลิกกับแฟนเก่าเพียงเพราะผ่านการแต่งงานมาแล้ว
คุณอาจจะโดนบอกเลิกโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิดได้เหมือนกัน แต่เพราะอุดมคติที่เธอยึดถือคือไม่นิยมความคิดแบบหัวโบราณ
.......ทุกคนมีสิทธิ์เลือก และความรู้สึกแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ เหมือนเวลามีคนชวนให้เราเปิดใจลองทานอะไรใหม่ ๆ แต่เรารู้ตัวเองดีว่าอาหารแบบนั้นไม่ใช่แนวของเรา มันไม่ได้แปลว่าอาหารนั้นดูแย่ สกปรกไม่น่าทาน แค่เราไม่ชอบก็เท่านั้นค่ะ ซึ่งก็อาจะมีหรือไม่มีเหตุผลก็ได้
ในขณะเดียวกัน บางคนอาจเปิดใจให้โอกาสได้ลองแล้วชอบก็มีเยอะเช่นกัน หรือลองนึก ถ้าคุณชอบทานต้มเลือดหมูแต่ไม่ชอบเครื่องใน ก็เลือกใส่แต่หมูสับ วันหนึ่งแม่ครัวเกิดเอาเครื่องในมาปั่นรวมกับหมูสับ ซึ่งคุณไม่รู้เพราะไม่ได้เห็นเป็นชิ้นๆในนั้น คุณเลยไม่ได้มีประเด็นที่จะถาม พอทานไปเรื่อยๆ แม่ครัวมาเฉลยว่าในหมูสับมีเครื่องในผสมแยู่ คุณจะรู้สึกยังไง....... อาหารบางอย่างหน้าตาน่าทาน,รสชาติอร่อย แต่พอรู้ที่มาที่ไป,กระบวนการทำที่ไม่ตรงจริต ก็ทานต่อไม่ลงนะคะ...
หากฝ่ายหญิงตั้งใจปกปิดตั้งแต่แรก หรือใช้เหตุผลว่า "เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ถาม" เธอก็อาจต้องยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับบางคนจริง ๆ และควรจะเปิดเผยแต่แรกเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจบนพื้นฐานของความเข้าใจที่ตรงกัน
เราเองไม่ได้ถือเรื่องนี้ ไม่มีปัญหา ......และคิดว่ากรณีนี้ไม่ใช่การ Bully หรือด้อยค่าใคร แต่มันคือ Comfort Zone. อย่างหนึ่งของแต่ละคน
การที่ใครคนหนึ่งไม่ชอบหรือไม่ถนัดเรื่องใดก็จะตั้งกำแพง ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังดูถูกหรือBullyสิ่งนั้นเสมอไป
แต่กรณีที่เรียกว่า Bully คือเมื่อรู้แล้วแต่ยังฝืนคบต่อ ภาษากายมันจะออก แล้วเวลาทะเลาะกันก็ขุดเอาอดีตเรื่องการแต่งงานของอีกฝ่ายมาฟาดซ้ำ ๆ เพื่อทำให้เจ็บหรือรู้สึกด้อยค่า แบบนั้นถึงจะเรียกว่าBullyไม่ให้เกียรติและทำร้ายจิตใจกันจริง ๆ
กรณีแบบนี้ ก็บอกตรงๆ ใช้คำสุภาพ น่าจะเจ็บน้อยสุดแล้วค่ะ
สุดท้าย ถ้าฝ่ายหญิงผ่านการหย่าร้างมาแล้ว ก็น่าจะเข้าใจดีว่า “ไม่ใช่” ก็คือ “ไม่ใช่” หากฝืนไป อาจลงเอยด้วยความเสียใจทั้งคู่เหมือนเดิมค่ะ
*Edited
ไม่รู้ว่าฝ่ายชายอายุเท่าไหร่นะคะ แต่มีแนวโน้มว่าอุดมคติมันจะลดลงเรื่อยๆหากอายุมากขึ้นแล้วยังไม่มีแฟน หรือโดนบอกเลิกในทำนองเดียวกันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
ผมคิดว่าไม่ควรแคร์ความรู้สึกของผู้หญิงคนนี้ พูดไปตรงๆเลยครับ เอาให้หน้าหงาย
การเคยแต่งงานมาก่อนเป็นสิ่งที่ควรบอก มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอดีตที่จะทำเป็นหลับหูหลับตาไม่สนใจได้
ถ้าคบกันต่อ คำถามคือ มีอะไรที่เธอควรจะบอกแล้วยังไม่ได้บอกอีกมั้ย?
เขาไม่ควรไปต่อกับผู้หญิงคนนี้ มันมีความเสี่ยง
การเคยแต่งงานมาก่อนเป็นสิ่งที่ควรบอก มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอดีตที่จะทำเป็นหลับหูหลับตาไม่สนใจได้
ถ้าคบกันต่อ คำถามคือ มีอะไรที่เธอควรจะบอกแล้วยังไม่ได้บอกอีกมั้ย?
เขาไม่ควรไปต่อกับผู้หญิงคนนี้ มันมีความเสี่ยง
แสดงความคิดเห็น
จะบอกเลิก ผู้หญิง ยังไงดีให้เจ็บน้อยที่สุด เหตุผลคือ ไม่ชอบ ผู้หญิง ที่เคยผ่านการเเต่งงานมาก่อน